15
Products
reviewed
169
Products
in account

Recent reviews by LEOK76

< 1  2 >
Showing 1-10 of 15 entries
1 person found this review helpful
21.3 hrs on record
สนุกกว่าที่คิดเอาไว้นะ สำหรับเกม Fairy Bloom Freesia

ข้อดีสำหรับเกมนี้คงหนีไม่พ้นระบบเกมเพลย์ คอมโบโจมตีที่ถ้าหากคุณเล่นจนชินมือแล้วจะกดมันมือเอามากๆ มีท่าสกิลการโจมตีที่หลากหลายที่คุณสามารถนำมาใช้ผสมผสานการโจมตีในแบบเฉพาะตัวของคุณได้ ด้วยเกมเพลย์ที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน น่าเสียดายที่ตัวเกมนั้นค่อนข้างจะสั้นเอามากๆ ซึ่งคุณสามารถเล่นเกมนี้จบได้ในระยะเวลาไปเกิน 2 ชั่วโมง ซึ่งมันสั้นมากจริงๆ เล่นจบทั้งๆที่ยังไม่ทันจะอินความรู้สึกเกี่ยวกับตัวละครเลย

แต่แม้เนื้อเรื่องจะสั้นมาก ตัวเกมก็ถูกออกแบบบังคับมาให้เล่นซ้ำหลายๆรอบ เพื่อปลดล็อคโหมดใหม่ ระดับความยากใหม่ โบนัสอื่นๆ และปลดล็อคอาชีพเมนท์ ก็คุ้มค่าคุ้มราคากับราคา 189 บาทแล้วล่ะ
Posted January 19, 2018.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
12 people found this review helpful
168.2 hrs on record (163.0 hrs at review time)
ย้อนความทรงจำในวัยเด็ก ในแบบฉบับปรับปรุงใหม่

โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยมีความทรงจำที่ดีนักกับเกม Final Fantasy IX ในสมัยตอนเด็กๆที่ผมเล่นบนเครื่อง PS1 เพราะตอนนั้นหลังจากที่ผมเล่นภาค VIII จบ ก็รีบไปหาภาค IX มาเล่นต่อในทันทีโดยที่ไม่รู้เรื่องรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับซีรี่ส์นี้นัก รู้เพียงแต่ว่ามันคือภาคใหม่ และความรู้สึกที่จำได้ก็คือ "เชี่ยยย ลิงง!" พึ่งเล่นภาคพระเอกหล่อๆเท่ห์ๆ จบ จู่ๆมาเจอลิง ทำเอาปรับอารมณ์ไม่ทันเลยทีเดียว ทั้งนี้ยังเจอกับปัญหาส่วนตัวที่เจอแต่แผ่นกาก (แผ่นก๊อป) เล่นแล้วค้างบ่อย ถึงฉาก CG เมื่อไหร่ก็ค้างตลอด ไมได้ดูเลยต้องกดข้ามทุกที ผมจึงไม่สนใจอะไรมากนักในการเล่นครั้งนั้น และมันทำให้ผมไม่มีทรงจำหรือความรู้สึกใดๆเกี่ยวกับตัวเกมในภาคนี้เลย

เวลาผ่านไปมาจนถึงปัจจุบัน ต้องขอขอบคุณ Square-Enix ที่ช่วยนำตัวเกมนี้มาปัดฝุ่นใหม่ และทำให้ผมได้กลับเข้ามาในโลกของไกอานี้อีกครั้ง (โลกของเกมภาคนี้) ซึ่งการนำกลับมาขายใหม่ก็ไม่ใช่พอร์ทมาทั้งดุ้นแบบเพียวๆ แต่ก็ยังได้ปรับปรุงภาพให้คมชัดยิ่งขึ้น , เรนเดอร์ฉาก CG ใหม่ให้มีคุณภาพสูง , ปรับเปลี่ยนอินเทอร์เฟสใหม่ รวมถึงฟีเจอร์ช่วยในการเล่นต่างๆที่ถูกใส่เข้ามา

ตลอดระยะเวลาในการเล่น ผมรู้สึกสัมผัสได้กับความสนุกและความรู้สึกอินไปกับเรื่องราวของเกมที่ผมไม่เคยรู้สึกได้ในการเล่นเมื่อตอนเด็ก แน่นอนว่าตอนนั้นปัญหาเรื่องของภาษาก็เป็นสาเหตุสำคัญ ซึ่งในการเล่นครั้งนี้ทำให้ผมรู้สึกได้จริงๆกับสิ่งที่ผมได้ยินจากคนอื่นๆต่างพูดกันว่าภาคนี้เป็นภาคที่มีความ Fantasy สุดๆแล้วจริงๆ ด้วยเนื้อเรื่องที่เรียบง่ายไม่สับสนวกวน ไม่เหมือนภาคใหม่ๆที่พยายามจะยัดห่าอะไรไม่รู้เข้ามามากมาย

ไม่เพียงแต่เนื้อเรื่องเท่านั้นที่เราสามารถเอนจอยไปกับมันได้ แต่ยังมีในส่วนของความลับต่างๆ มินิเกมอีกมากมายที่จะสร้างสีสันให้คุณได้ใช้เวลาไปกับมันไม่แพ้เนื้อเรื่องหลักเลย ซึ่งเป็นส่วนที่ผมชอบมากๆในเกมภาคนี้ มันให้ความรู้สึกว่าทำไมตัวเกมภาคเก่าๆถึงดูมีอะไรที่มีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าเกมในภาคใหม่ๆเสียอีก

สิ่งที่เซง
หากคุณเป็นสายเก็บอาชีพเมนท์ด้วยแล้วล่ะก็ อาจจะต้องมีเซงกันบ้างกับอาชีพเมนท์ฆ่าสัตรู 10,000 ตัว ซึ่งมันใส่มาอีกแล้ว (เหมือนกับภาค VIII) ซึ่งมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างทรมานมากในการปั่นจำนวนศัตรูตรงนี้แม้ว่าจะมีตัวช่วยเร่งความเร็วในเกมด้วยแล้วก็ตาม และที่เลวร้ายยิ่งขึ้นก็คือ ต้องทำมันในการเล่นในรอบเดียวเท่านั้นด้วยนะ หากเล่นรอบใหม่ก็ถือว่าเริ่มนับ 1 ใหม่ (สมมติหากรอบแรกคุณฆ่าไป 1,000 ตัว เมื่อเล่นรอบใหม่ ก็ต้องฆ่าให้ได้ 1 พันตัวก่อน อาชีพเมนท์ถึงจะเริ่มนับต่อที่ 1,001) แต่ก็โชคยังดีที่ในเกมยังพอที่ที่สามารถจะฟาร์มได้อยู่

ระวังขณะที่คุณปั่นฆ่าศัตรูเพื่อเก็บอาชีพเมนท์ดังกล่าว เมื่อปั่นไปหลายๆชม. คุณอาจจะพบว่าเกมเกิดอาการจอดำในช่วงโหลดเข้าฉากต่อสู้ และทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากต้องปิดไป ดังนั้นทำการเซฟบ่อยๆ อย่าหวังพึ่ง Auto-Save เพราะมันไม่ได้ช่วยเซฟหลังจากสู้เสร็จมิเช่นนั้นคุณจะต้องน้ำตาตกกับเวลาที่เสียไป

สิ่งที่ชอบ
การ์เน็ต องค์หญิงแห่งนครอเล็กซานเดรีย นางเอกที่ถูกลืม เธอนั้นอยู่น่ารักมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่กลับมีแฟนคลับน้อยมาก
พอเล่นจบเกมแล้ว หน้าจอไตเติลจะมีเมนูเล่นมินิเกมไพ่แบล็คแจ็คมาให้กดเล่นได้โดยตรงเลย และก็เมนู Movie Gallery ไว้สำหรับดูมูฟวี่ CG ย้อนหลัง ชอบมากก
Posted January 1, 2018.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
9 people found this review helpful
884.9 hrs on record (55.2 hrs at review time)
เกมสำหรับคนรัก Chibi

จุดเริ่มต้นของการที่ผู้เล่นจะรู้สึกสนใจในเกมๆนี้ ประเด็นแรกคงหนีไม่พ้นที่ผู้เล่นคนนั้นต้องเป็นคนรักอนิเมะ และแน่นอนหากคุณกำลังหาเกมสักเกมนึง ที่สามารถให้คุณสร้างตัวละครน่ารักๆขึ้นมา แล้วสามารถหาชุดสวมใส่น่ารักๆมาอวดเล่นกับคนอื่นได้ล่ะก็ เกมนี้คือคำตอบ


ด้วยรูปแบบเกมที่เล่นง่าย สนุก ตัวละครสไตล์ Chibi และรองรับการเล่นพร้อมกันหลายคน คือจุดเด่นที่ถูกออกแบบมาสำหรับคออนิเมะโดยเฉพาะ และที่สำคัญ ปกติแล้วเรามักจะหาเกมแนวอนิเมะไม่ได้ง่ายๆบน PC (แต่ปัจจุบันนั้นเยอะขึ้นเรื่อยๆ) ตลอดการเล่น คุณจะรู้สึกสนุกกับการผสมของจากวัตถุดิบที่ได้มาจากการทำเควสเพื่อให้ได้ของสวมใส่ใหม่ๆมา หรือการอัพเกรดอาวุธเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในแบบของตนเอง การเล่นคนเดียวอาจเป็นสิ่งที่หลายๆคนถนัด แต่เกมๆนี้ได้มีระบบล็อบบี้เมืองที่เป็นศูนย์รวมไว้รองรับผู้เล่นพร้อมกันได้ถึง 32 คน ทำให้ตัวเกมไม่เพียงแต่จะมีเพียงแค่ ทำเควส ซื้อของ อัพเกรด เท่านั้น แต่กลายเป็นกลุ่มโซเชียลเล็กๆที่ทำให้คุณสามารถไปจอยร่วมกับคนอื่นๆ พูดคุย ขอให้มาช่วยทำเควสได้


ดูผิวเผินอาจจะดูเหมือนกับเกมเฉพาะกลุ่มก็จริง ทำให้บางคนอาจจะสงสัยว่าเกมออกมาสักพักใหญ่แล้ว จะยังมีคนเล่นออนไลน์กันอยู่อีกรึเปล่า ก็ต้องขอบอกไว้เลยว่า คอมมิวนิตี้ในเกมนี้ ยังไม่ตายนะครับ แม้ว่าจะเหลือน้อยก็ตาม และบางช่วงเมื่อออนไลน์อาจจะไม่เจอคนเลยก็ตาม แต่หากใครที่ได้ออนไลน์บ่อยๆ ก็จะพบกับกลุ่มคนชื่อเดิมๆ ซึ่งกลุ่มคนนี้ก็คือกลุ่มคนที่มีใจรักในเกมนี้ รักตัวละคร Chibi และใช้ล็อบบี้ของเกมนี้เป็นสังคมในการพูดคุย ถ่ายรูป และพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้เล่นหน้าใหม่ๆในการทำเควสหรือให้คำแนะนำหากผู้เล่นคนนั้นต้องการ ซึ่งหากคุณจะลองสังเกตดูประวัติโปรไฟล์ของผู้เล่นกลุ่มดังกล่าว จะพบชั่วโมงการเล่นที่สูงเอามากๆไม่ใช่แค่ร้อยต้นๆ แต่เป็น 4-5 ร้อยชั่วโมง หรือเป็นพันชั่วโมง! ซึ่งนั่นเป็นเพราะพวกเขาใช้เกมๆนี้เป็นศูนย์กลางในการพบปะผู้เล่นด้วยกันไปแล้ว ซึ่งด้วยสิ่งที่ผมบอกไปนั้นเอง หากทีมนักพัฒนามองเห็นหรือใส่ใจในจุดนี้ ทำให้เกมๆนี้เป็นสังคมที่ใหญ่ขึ้นด้วยการทำให้มันน่าดึงดูดมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เพิ่มล็อบบี้ใหม่ให้เป็นเมืองที่ใหญ่ขึ้น จัดเป็นโซนๆ มีพื้นที่สำหรับนั่งพูดคุยโดยเฉพาะ, พื้นที่เวทีแสดงออก จัดอีเวนท์ตามเทศกาล หรืออาจจะมีพื้นที่สำหรับนั่งดื่ม นั่งเฉยๆโดยเฉพาะอย่างเช่น ผับ บาร์ เป็นต้น และอย่างที่ผมได้บอกไปตั้งแต่ข้างต้น เกมๆนี้คือสังคมที่คุณจะได้พบกับคนรักอนิเมะที่มาจากผู้คนทั่วทุกมุมโลกทั้งจากในเอเชีย , ยุโรป หรือที่อเมริกา เป็นที่ๆคุณจะสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในสิ่งที่คุณชื่นชอบเหมือนๆกันได้อย่างไม่ต้องเคอะเขิน



สิ่งสำคัญซึ่งเป็นปัญหาของเกมๆนี้คือ การขาดแคลนเนื้อหาใหม่ ที่ทำให้ผู้เล่นทั่วๆไปนั้นเมื่อเล่นเควสจนครบแล้ว ก็จะโบกมือลาให้กับเกมนี้ไป เหลือไว้แต่ผู้ที่มีใจรักใน Chibi เท่านั้น ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่ากลุ่มคนกลุ่มนี้จะยังคงอยู่อีกนานเท่าใด หากตัวเกมยังคงขาดแคลนการอัพเดตสิ่งใหม่ๆลงไป เพราะแม้แต่เควสใหม่ ก็ยังไม่มีเพิ่มเติมให้เลย
Posted October 21, 2016. Last edited October 21, 2016.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
3 people found this review helpful
225.4 hrs on record (134.3 hrs at review time)
อันที่จริงเกมเกมนี้มันไม่มีเหตุผลในการที่จะต้องมารีวิวด้วยซ้ำ และมันไม่มีเหตุผลอะไรที่คุณจะต้องชั่งใจเลยว่าจะซื้อมาเล่นดีรึเปล่าหากคุณคือคอเกม RPG พันธุ์แท้ฉบับดั้งเดิม ในสมัยก่อนความหวังที่โอกาสจะได้เห็นตัวเกมภาคนี้ได้มาโลดแล่นบน PC มันเป็นความคิดที่เพ้อฝันและไร้สาระ แต่ ณ ปัจจุบัน มันได้เกิดขึ้นแล้ว แม้ว่ามันจะเป็นเวลาที่แสนเนิ่นนานหากนับจากที่ตัวเกมภาค X วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2001 ซึ่งมันก็ผ่านมาเป็นเวลา 15 ปีเข้าให้แล้ว

แม้ยุคนี้ว่ากันว่า เป็นยุคแห่งการ Remaster ก็คงจะไม่ผิดนัก และถึงจะเป็นเช่นนั้นแฟนๆอย่างเราๆ ก็ยินดีเสมอที่จะยอมจ่ายเงินให้กับสิ่งที่รอคอยหรือสิ่งที่ทำให้ตัวเองได้กลับเข้าไปสัมผัสอีกครั้งในแบบฉบับปรับปรุงใหม่ และสำหรับเกม FINAL FANTASY X/X-2 HD Remaster นี้ เราก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มแล้วล่ะ ภาพระดับ HD , FMV ที่ถูกเรนเดอร์ขึ้นใหม่คุณภาพคมชัด คุณจะได้สัมผัสความสวยน่ารักของ ยูน่า ที่คุณหลงไหลมาตลอดนับสิบปีอย่างเต็มอิ่มทุกฉาก แค่ชื่อ ยูน่า ก็เพียงพอแล้วที่คุณจะต้องเสียเงิน แถมราคาเต็มเพียง 559 บาท ที่ได้มาถึง 2 เกม คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม

สำหรับเด็กรุ่นใหม่ๆที่อาจจะยังไม่เคยรู้จักหรือสัมผัสมาก่อน นี่ถือเป็นโอกาสทองของคุณที่จะได้เล่นตัวเกมซีรี่ส์ Final Fantasy ภาคที่ได้ชื่อว่ามีความเป็น Final Fantasy ภาคสุดท้ายแล้วล่ะ

ปล. บทความด้านบนพูดถึงแต่เฉพาะภาค X เท่านั้นนะ ไม่นับภาค X-2
Posted July 20, 2016.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
8 people found this review helpful
71.6 hrs on record (63.9 hrs at review time)
ความสนุกที่ยังคงเดิม แม้ว่าจะผ่านไปกว่า 15 ปีแล้ว...

ผมยังจำได้ดีถึงสมัยก่อนที่เกม Grandia II เป็นเกม JRPG เกมแรกๆที่ผมเคยได้เล่นและเล่นจบ แม้รายละเอียดของเกมซึ่งหากเทียบกับเกมปัจจุบันนั้นจะเทียบกันไม่ติด แต่ความสนุกแบบเรียบง่ายของเกมนี้ ไม่ซับซ้อนจนเกินไป ก็เป็นสิ่งที่ผมคงไม่ได้พบเจออีกแล้วในเกมปัจจุบันที่เยอะจนน่าปวดหัว สิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับเกมซีรี่ส์นี้ก็คือระบบการต่อสู้ซึ่งใช้ระบบ Real-Time กึ่ง Active Time Battle ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ทำให้การต่อสู้นั้นดูน่าตื่นเต้นและไม่จืดชืด ซึ่งเป็นจุดเด่นของตัวเกมในซีรี่ส์นี้เลย และอีกสิ่งหนึ่งที่เยี่ยมยอดไม่แพ้กันก็คือ เพลงประกอบอันแสนไพเราะ ที่ยังคงติดหูผมอยู่มาจนถึงทุกวันนี้

ผมสนุกกับการดูเนื้อเรื่อง ซึ่งสมัยเด็กๆก็คือดูจริงๆ กดๆอย่างเดียว เพราะยังแปลไม่ออก ไม่รู้เรื่อง แต่ ณ ตอนนี้การกลับมาอีกครั้งของเกมนี้ ทำให้ผมได้มีโอกาสนั่งอ่านเนื้อเรื่องบทสนทนาที่ทำให้ผมนั้นรู้สึกอินไปกับเกมมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม รู้จักตัวละครมากขึ้น เข้าใจเนื้อหาในเกมมากขึ้น และยิ่งทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตัวเกม Grandia II ยังคงอยู่ในใจเหล่าคอเกมแนว JRPG อยู่ตลอดเสมอมา

บางทีในขณะที่เกมสมัยใหม่นั้น พยายามจะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ยัดนู่นยัดนี้มาให้เยอะแยะมากมาย แต่ในขณะเดียวกันบางครั้งเราก็รู้สึกว่า เราก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมายขนาดนั้น กลับกัน เรากลับโหยหาในสิ่งที่ทำให้เราได้สนุกอีกครั้งแบบเดียวกันกับในอดีต และดูเหมือนว่าการย้อนกลับไปเล่นเกมเก่าๆจะเป็นคำตอบสุดท้ายจริงๆ ขอบคุณ GungHo ที่นำเกมนี้กลับมาปัดฝุ่นวางจำหน่ายอีกครั้ง


เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
- สมัยก่อน Grandia II ที่เคยวางจำหน่ายบนเครื่อง PC นำเข้ามายังประเทศไทยโดยบริษัท NewEra ซึ่งขณะนั้นเกม PC ยังมีจำหน่ายในรูปแบบกล่องอยู่มากมาย และรายละเอียดปกหลังของกล่องก็มีแปลเป็นภาษาไทย รวมถึงมีคู่มือเบื้องต้นของเกมที่แปลเป็นภาษาไทยด้วย

- สำหรับตัวเกม Grandia II Anniversary Edition นี้ เป็นการนำเอาตัวเกมเวอร์ชั่น DreamCast มาพอร์ทและปรับปรุงใหม่ ไม่ได้นำเอาตัวเกมเวอร์ชั่น PC ก่อนหน้านี้มาทำ



Posted May 29, 2016.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
22 people found this review helpful
1 person found this review funny
19.4 hrs on record
เรามาเปรียบเทียบกันระหว่างตัวเกม Resident Evil 0 HD Remaster กับ Resident Evil HD Remaster กันดีกว่า

ทำไมต้องเอา 2 เกมนี้มาเปรียบเทียบกัน?
= ตัวเกมในภาค 0 นั้นได้ถูกยกเครื่องพัฒนาใหม่หมด ตามหลังตัวเกม Resident Evil ภาครีเมคในช่วงนั้นในระยะเวลาไม่นาน โดยใช้ระบบเดียวกัน เช่นเดียวกับที่เวอร์ชั่น Remaster นี้ถูกนำมาขัดเกลาใหม่ตามหลังกันมา จึงเหมาะมากที่จะนำมาระบุข้อแตกต่างระหว่างกัน อีกอย่าง การรีวิวตัวเกมเวอร์ชั่น Remaster นี้ แล้วมีข้อติว่า "ระบบเกมมันเก่า" ดูจะไม่ค่อยยุติธรรมนักกับเกมเมื่อสมัยเกือบ 14 ปีที่แล้ว


ความสเถียรของเกม
= ทั้ง 2 เกม พอร์ทมาสู่เวอร์ชั่น PC ได้ดีและไม่มีปัญหา


กราฟิค
= กราฟิคที่ถูกขัดเกลาขึ้นมาใหม่นั้นชัดเจนในแบบ HD และเพิ่มการแสดงผลอัตราส่วนภาพ 16:9 ทำให้ทั้ง 2 เกมนั้นมีกราฟิคที่ดูดีและไม่ตกยุคลงไปเลย


ระบบของเกม
= เกมเพลย์ของทั้ง 2 เกมนั้นเหมือนกัน แต่ภาค 0 นั้นหลากหลายกว่าตรงที่สามารถสลับตัวละครไปมาระหว่างกันได้ และต้องช่วยกันแก้ปริศนา ซึ่งรูปแบบการแก้ปริศนาอาจแตกต่างกันตรงตัวละครที่เราบังคับ แต่ความยากง่ายของปริศนาระหว่างทั้ง 2 เกมนั้นก็ไม่ต่างกันและมีพอๆกัน


สภาพแวดล้อมในเกม
= ตัวเกมในภาค 0 จะมีสถานที่ทั้งบนฉากรถไฟ , ในคฤหาสน์ , ในโบสถ์ , ศูนย์วิจัยใต้ดิน ส่วนภาคแรก ก็มีทั้งฉาก คฤหาสน์ , ในป่า , สุสาน , ถ้ำอุโมงค์ และศูนย์วิจัย โดยรวมแล้วหลากหลายพอๆกันทั้ง 2 เกม


คุณค่าในการเล่นซ้ำ
= เราสามารถเล่นตัวเกมภาค 0 โดยที่รอบแรกนั้นเน้นบังคับไปที่ตัวละครหนึ่งเป็นหลัก ส่วนอีกรอบหนึ่งก็บังคับอีกตัวละครหนึ่งแก้ปริศนาเป็นหลัก ทำให้เราเห็นคัทซีนและรูปแบบการแก้ปริศนาที่แตกต่างกัน ส่วนในภาคแรกนั้น มีตัวละคร 2 คนให้เลือกเล่น เมื่อเล่นจบไปรอบนึงแล้ว ก็สามารถเล่นอีกตัวละครหนึ่งได้ เพราะทั้ง 2 ตัวละครนั้นนอกจากจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของปริศนาแล้ว ยังรวมถึงเนื้อเรื่องด้วย อีกทั้งยังมีเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ฉากจบในหลายๆแบบ ทว่า หากนับเป็นโบนัสหลังเกมที่ทำให้มีอะไรต้องเล่นมากกว่าไปเล่นเนื้อเรื่องซ้ำอีก ก็ต้องเป็นภาค 0 ที่มีโหมดการเล่นใหม่ขึ้นมาให้เล่น เพื่อเก็บอาวุธพิเศษ และนำไปใช้เล่นในเนื้อเรื่องได้


ของโบนัสสำหรับเวอร์ชั่น Remaster
= ตัวเกมในภาคแรก น่าเศร้าที่ไม่มีอะไรใหม่เลยนอกจากคอสตูมโมเด็ลตัวละครหลักทั้ง 2 ตัวจากภาค 5 ขณะที่ของภาค 0 นั้น จัดเต็มมากโดยเฉพาะชุดคอสตูมของ รีเบคก้า ที่มีมากถึง 7 คอสตูม และเสื้อทีเชิ้ตอีก 9 ตัว! ยังไม่พอยังมีโหมดใหม่เพิ่มมาให้อีกตังหาก ซึ่งเป็นโหมดที่เปลี่ยนตัวละคร บิลลี่ เป็น เวสเกอร์ และสามารถใช้พลังเหนือมนุษย์ของเวสเกอร์ได้ อย่างไรก็ตาม แม้จะดูน่าตื่นเต้น แต่จริงๆโหมดใหม่นี้ก็ค่อนข้างกิ๊กก๊อก ก็เพราะตัว เวสเกอร์ เองนั่นแหละ ตัวเวสเกอร์มีความสามารถในการวิ่งเร็ว ซึ่งตามหลักแล้วเวลาเวสเกอร์วิ่งเร็วขนาดนี้ น่าจะวิ่งพุ่งชนซอมบี้ตายเกลื่อนซะมากกว่า แต่กลับกลายเป็นเวสเกอร์โดนซอมบี้จับกัดได้เฉย!? ส่วนพลังจิตที่ใช้โจมตีศัตรูก็ช้าเหลือเกิน สรุปเล่นแบบปกติยังจะง่ายกว่า ถือว่าเป็นสีสันละกัน



สรุป
ตัวเกมเวอร์ชั่น Remaster ทั้ง 2 ภาคนี้ เหมาะสำหรับแฟนๆ Resident Evil ที่เคยเล่นเวอร์ชั่นเดิมมาก่อนหน้านี้แน่นอน หรือคุณยังจะต้องการอะไรอีกล่ะ? ถ้าจะให้เทียบก็คล้ายๆกับการที่คุณยอมจ่ายเงินซื้อของที่ระลึกมา เพื่อที่จะระลึกถึงมันได้ทุกครั้งที่คุณต้องการในแบบที่สดใหม่อยู่เสมอไงล่ะ
Posted March 12, 2016. Last edited March 12, 2016.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
7 people found this review helpful
1 person found this review funny
30.2 hrs on record
ประทับใจในทุกๆเรื่องใน Lego Jurassic World เสียดายที่มันเป็นเพียงแค่เกม LEGO...

โดยส่วนตัวนั้นไม่เคยได้สัมผัสเกมในซีรี่ส์ LEGO มาก่อนเลย ไม่ว่าจะตัวเกมไหนๆบนเครื่องใดก็ตาม แต่เนื่องจากโดยส่วนตัวที่มีใจรักไดโนเสาร์ และชื่นชอบในตัวภาพยนตร์ชุดนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงทำให้ไม่รู้สึกลังเลใจใดๆเลยที่จะซื้อเกมนี้มาเล่น ซึ่งตลอดระยะเวลาในการเล่นตั้งแต่เริ่มนั้น จริงอยู่แม้ว่ามันจะดูเหมือนเป็นเกมสำหรับเด็กเล่น แต่ผมกับรู้สึกถูกใจกับระบบต่างๆในเกมนี้อย่างมาก

- สามารถที่จะเริ่มเล่นเนื้อเรื่องบท Jurassic Park ก่อน หรือจะข้ามไปยังบท Jurassic World เลยก็ได้

- ตัวเกมมอบ ความอิสระ ให้กับผู้เล่นได้อย่างเต็มที่ สามารถสลับบังคับตัวละครไปมาได้ตามต้องการ

- สามารถเล่นได้ 2 คน รองรับทั้งจอยคอนโทรลเลอร์ และ คีย์บอร์ด เต็มรูปแบบ กดเข้า-ออกได้ตลอดเวลา แถมยังมีอิสระแยกกันสำรวจพื้นที่ได้อย่างตัวใครตัวมัน ซึ่งบางครั้งเราอาจจะยังเจอรูปแบบการเล่นแบบคู่ขนานที่ผู้เล่นอีกคนหนึ่งอยู่อีกที่หนึ่ง แต่อีกคนหนึ่งก็เล่นอีกฝั่งหนึ่งไปพร้อมๆกัน

- เล่นง่าย ไม่มีเกมโอเวอร์ ตัวเกมเน้นไปที่การเล่นแบบแก้ปริศนา ผสมผสานกับผจญภัยแอ็คชั่นพอประมาณ

- มีของไอเท็มลับ และตัวละคร ที่คอยให้เก็บและปลดล็อคอยู่เพียบ

- สามารถกดเล่นเนื้อเรื่องและ Free Play ซ้ำใหม่ได้เรื่อยๆ ในกรณีที่ต้องการย้อนกลับไปเก็บไอเท็มที่พลาดไป

- สามารถเล่นเป็นไดโนเสาร์ได้ ซึ่งไดโนเสาร์ก็ไม่ใช่เอามาเดินเล่นเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการเก็บไอเท็มบางชนิดอีกด้วย ที่สำคัญเรายังสามารถสร้างไดโนเสาร์ผสมข้ามสายพันธุ์ได้ด้วย ทำให้ได้ไดโนเสาร์ที่มีความสามารถที่หลากหลาย

- มุขตลกปกฮา ล้อเลียนในหนัง สร้างความประทับใจได้ดีจริงๆ เหมาะมากสำหรับแฟนๆหนังชุดนี้

- มีบัค ซึ่งอาจพบได้ระหว่างการเล่น บางทีเล่นๆไปแล้วเกมไม่ยอมเซฟ เล่นๆปลดของแล้ว ปรากฏว่าต้องกลับมาปลดใหม่ , ตัวละครหลุดออกจากฉาก หรือร้ายแรงถึงขนาดจู่ๆเกมระเบิดตัวเอง
Posted January 24, 2016. Last edited January 24, 2016.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
4 people found this review helpful
7 people found this review funny
88.7 hrs on record (83.5 hrs at review time)
จากประสบการณ์และความรู้สึกที่ได้เล่นเกม Final Fantasy Type-0 ตั้งแต่ต้นจนจบ

- ตัวเกมให้ความรู้สึกที่คุ้นเคย ได้กลิ่นอายของตัวเกม Final Fantasy ภาคเก่าๆ อย่างครบถ้วน ที่ถูกใจมากคือ ระบบ World Map และเรือเหาะที่กลับมาอีกครั้ง
- โลกในเกมมีเมืองอยู่หลายเมือง แต่บรรดาเมืองเหล่านั้น หากอยู่ในทวีปเดียวกัน ก็จะมีสถาปัตยกรรม รูปแบบของเมืองแบบเดียวกันหมด จึงแทบไม่มีจุดเด่นของแต่ละเมือง ดูผิวเผินก็ไม่ต่างอะไรกับเมืองเดียวกัน เมืองเล็ก ไม่มีอะไรให้สำรวจ เสียงดนตรีก็เหมือนกันหมด
- ระบบการต่อสู้ เล่นสนุก และเล่นเข้าถึงได้ง่าย มิชชั่นที่มีให้ทำในเกมก็มีความหลากหลาย แถมเราจะได้ทำสงครามกันใน World Map กันเลย!
- มีตัวละครให้เล่นมากมาย และแต่ละตัวก็มีบุคลิก จุดเด่น สไตล์การต่อสู้และสกิลที่เป็นของตัวเอง
- รูปแบบเนื้อเรื่องเกี่ยวกับสงคราม ส่วนคนที่ไม่เข้าใจหรือไม่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเรื่อง Fabula Nova Crystallis มาก่อน อาจจะยิ่งยากที่จะเข้าถึงเนื้อเรื่องของเกมนี้ได้อย่างถ่องแท้
- ตัวละครหลักคือนักเรียน และมีโรงเรียน ทำให้ผมนึกถึงเกม Final Fantasy VIII ที่ในโลกจะมี 'การ์เดน' เป็นโรงเรียนฝึกทหารเหมือนกัน ทำให้คิดว่าหากตัวเกม Final Fantasy VIII ออกมาในปัจจุบัน ก็อาจจะมีลักษณะระบบการเล่นที่คล้ายคลึงกันก็ได้ ซึ่งถ้าหากสมมุติเปรียบเทียบโลกของทั้ง 2 เกมล่ะก็ Final Fantasy VIII ที่ดูเหมือนมีเนื้อเรื่องไม่ลุ้มลึกเท่า แต่โลกในเกมยังดูน่าสนใจกว่าเสียอีก (อันนี้เพราะความชอบส่วนตัว แค่เทียบโรงเรียนของทั้ง 2 เกม บาแลมบ์การ์เดน นี่ชนะขาดเลย)

- การพอร์ทเกม หากเทียบกับตัวเกมภาค FFXIII กับ FFXIII-2 ก็ถือว่าพอร์ทมาดีกว่ามากล่ะนะ
- ผมชอบบังคับตัวละครหญิง เพื่อกระโดดและมองดูกางเกงในว่าคนไหนใส่สีอะไร และกางเกงในนั้นก็บ่งบอกและตรงกับบุคลิกของพวกเธอแต่ละคนได้เป็นอย่างดี
- หลายคนชื่นชอบ และยกย่องให้ตัวเกมภาคนี้เป็นหนึ่งในภาคที่ดีที่สุด เหตุผลก็เพราะมันมีสิ่งที่ขาดหายไปได้กลับคืนมา สิ่งที่อยากจะเห็นอยากจะให้มี มันก็มีในภาคนี้ ขณะที่ภาคหลักมันดันไม่มี อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวแล้วน่าเสียดายที่รู้สึกว่ามันดีไม่สุด ดีครึ่งๆกลางๆ ชอบอยู่อย่างเดียวคือระบบการต่อสู้ เสียงดนตรีไพเราะดี การดำเนินเนื้อเรื่องที่ งง และผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ามีจำนวนไม่น้อยที่กระทั่งเล่นจบ ดูฉากจบแล้ว ก็ยังมีเครื่องหมายคำถามอยู่ในหัวเต็มไปหมด แน่นอนว่าฉากจบนั้นประทับใจมีอารมณ์ร่วมแน่นอน แหงล่ะ จะไม่มีได้ยังไง ร้องไห้ตายหมู่ขนาดนั้น
Posted November 18, 2015. Last edited November 18, 2015.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
2 people found this review helpful
92.8 hrs on record (48.5 hrs at review time)
นี่ไม่ใช่รีวิว แต่เป็นความรู้สึกตลอดระยะเวลาที่เล่นล้วนๆ

- ปวดใจกับใบหน้าอันแสนอุบาทของแคลร์ เฮงซวย capcom ที่ยังคงชอบชำแหละทำลายใบหน้าตัวละครหลักของตัวเองอยู่เสมอ แต่ยังดีที่หนูมอยร่า น่ารัก + นิสัยหยาบคายเล็กน้อย ปากเสีย น่าร้ากกก น่ารั้ก

- แม้ว่าใบหน้าของแคลร์จะอุบาท แต่หุ่นกับก้นของเธอนั้นสวยงามมาก ของมอยร่าก็เช่นเดียวกัน ดูเพลินกว่าก้นของจิลใน Revelation ภาคแรกเสียอีก

- กราฟิคของเกมถือว่าโอเค ก็ไม่ถึงกับตกยุคอะไร แต่หากมองถึงตัวเกมที่ออกมาในเจนปัจจุบันก็ควรจะสวยกว่านี้ แต่ถ้าคิดว่าตัวเกมนั้นไม่ใช่ภาคหลัก ใช้ทุนไม่หนา ก็ยังพอให้อภัยกันได้

- ยิงหัว หัวไม่ระเบิด รู้สึกไม่สะใจเอาซะเลย แม้จะมีอนิเมทก้อนเนื้อกระเด็นออกมาให้เห็นก็ตาม แต่หัวยังอยู่

- แม้การเล่นแบบคนเดียว สลับไปมาระหว่างตัวละครจะสนุก แต่เราก็อยากเล่นเนื้อเรื่อง Campaign พร้อมกันกับเพื่อนด้วย ขอบคุณ Capcom ที่ยังคงเมตตาชาว PC

- Medal , Record ที่มีให้ทำในเกมมีคุณค่า เพราะถ้าทำได้ ก็จะได้ BP หรือปลดล็อคไฟล์ ฟิกเกอร์ต่างๆ แถมยังเป็นเงื่อนไขในการปลดล็อคอาชีพเมนท์ ไม่ไร้ค่าเหมือนภาค 6

- ฉาก CG สวยงามมาก

- การตลาดแบบปล่อยตัวเกมออกมาแบ่งเป็นตอนๆ แยกขายของ Capcom ถือว่าประสบความสำเร็จในการทำให้ผู้เล่นนั้นต้องดิ้นอยากจะเล่นตอนต่อไป เพราะอยากจะรู้เนื้อเรื่องเร็วๆ แต่ในฐานะคนเล่นแล้วมันไม่น่าปลื้มเอาเสียเลยที่จะต้องรอเป็นอาทิตย์เพื่อจะได้เล่นเนื้อเรื่องต่อ

- การดำเนินเนื้อเรื่อง โดยส่วนตัวแล้ว เคยยกให้ภาค Code Veronica เป็นภาคที่มีเนื้อเรื่องเข้มข้นและดีที่สุด มาเจอภาคนี้เข้าไป ก็ต้องขอบอกว่า ยอดเยี่ยมเกินคาด ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีเหตุผล หลายประเด็นที่ถูกตั้งขึ้นมาจากการเล่นใน Episode แรกๆ ก็ค่อยๆเผยออกมาหลังจากเล่นไปเรื่อยๆ แถมยังมีจุดพลิกผัน พลิกไปมา ชนิดเดาแทบไม่ถูก และผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งเลยว่า แฟนๆได้พบกับสิ่งที่ขาดหายไปนานของซีรี่ส์จากตัวเกมในภาคนี้แล้ว ให้ตายเหอะ ผมอยากให้ Capcom ทำหนัง CG เนื้อเรื่องสไตล์ของเกมภาคนี้ออกมาจริงๆพับแผ่

- อดคิดไม่ได้ว่า ทำไมถึงไม่ทำออกมาให้มากกว่านี้ น่าจะมีสัก 6 Episode ก็น่าจะได้

- ระบบจ่ายเงินซื้ออาวุธในเกมสำหรับใน Raid Mode ไม่มีผลใดๆต่อการเล่นเนื้อเรื่อง และไม่ส่งผลให้สมดุลของเกมเสียไป

- Raid Mode มีการเปลี่ยนแปลงจากภาคที่แล้วอยู่หลายจุด มีภารกิจหลัก ภารกิจประจำวัน มีเงื่อนไขประกอบ ทำให้รู้สึกไม่น่าเบื่อจำเจเหมือนของภาคแรก
Posted March 23, 2015.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
4 people found this review helpful
29.1 hrs on record (16.3 hrs at review time)
นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับแฟนๆ ที่มีโอกาสได้หวนระลึกความหลังของเกม Resident Evil ในเวอร์ชั่นรีเมคจากเครื่อง GameCube ในรูปแบบ HD Remaster ที่ไม่เพียงแค่ภาพชัดขึ้นเท่านั้น แต่ยังใส่ฟีเจอร์ใหม่ๆเข้ามาด้วย กราฟิคดูสวยงามขึ้นมาก คมชัดทั้งฉากและตัวละคร ซึ่งมันทำให้ตัวเกมนั้นดูทันสมัยเข้ากับยุคนี้ไปเลย

ตัวเกมเพลย์ มีการเพิ่มระบบการควบคุมใหม่แบบบังคับตามทิศทางเข้ามาสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดการควบคุมในแบบรถถัง ซึ่งสะดวกกว่าเดิมมาก แถมยังไม่ต้องกดปุ่มวิ่งเอง แต่ในบางจังหวะคุณอาจจะพบว่า การควบคุบแบบใหม่นี้ อาจทำให้คุณเสียจังหวะในการควบคุมเวลาฉากเปลี่ยนมุมกล้อง แม้จะยังกดปุ่มทิศทางเดิมที่ค้างไว้อยู่ ตัวละครก็ยังคงเดินไปตามทางได้ แต่หากจำเป็นต้องเปลี่ยนทิศทาง ก็จำเป็นจะต้องปล่อยปุ่มก่อน ซึงบางครั้งในจังหวะเร่งรีบอาจจะไม่ทัน เช่น ตอนวิ่งหลบหินที่กลิ้งมา เป็นต้น

ด้วยลักษณะเกมเพลย์ในแบบดั้งเดิมนี้ หากคุณเป็นแฟนตัวเกมหน้าใหม่ในภาคหลังๆที่เน้นแอ็คชั่น ก็อาจจะไม่ค่อยชอบสักเท่าใดนัก เพราะตัวละครไม่ได้รวดเร็ว ไม่มีกลิ้งหลบ ไม่มีเข้าไปกดเตะซอมบี้ โดนซอมบี้จับหากไม่มีไอเท็มป้องกันตัวหมายถึงโดนกัด โดนฮันเตอร์ข่วนขาทีนึง กว่าจะกลับมาบังคับได้ กินเวลาหลายวินาทีจนโดนข่วนซ้ำอีกที กระสุนจำกัดจำเขี่ย ฉากเปิดประตู ลงบันไดเยอะแยะที่อาจทำให้คุณรู้สึกขัดใจ ซึ่งถ้าหากคุณรู้สึกเช่นนั้น Resident Evil สุดคลาสสิคนี้ ก็อาจจะไม่เหมาะกับคุณ

แต่หากคุณกำลังผิดหวังกับทิศทางของซีรี่ส์ Resident Evil ที่มันเดินไปอย่างที่ไม่ควรจะเป็น เกม Resident Evil HD Remaster นี้ จะทำให้คุณได้กลับไปยังจุดเริ่มต้นของซีรี่ส์นี้อีกครั้ง ให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศในแบบที่คุณโหยหา และไม่ได้สัมผัสกับมันมาในภาคหลังๆ

Posted January 27, 2015.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
< 1  2 >
Showing 1-10 of 15 entries