ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าผมไม่เคยเล่นเกมในซีรีส์ Monster Hunter มาก่อนเลยซักภาค ไม่ใช่แฟนบอยซีรีส์นี้ และก็ไม่ได้ตื่นเต้นยินดีอะไรเป็นพิเศษที่มันมีให้เล่นบน PC (แต่ก็สัมผัสมาก่อนแล้วบ้างบน PS4) ดังนั้นสิ่งที่อยู่ในบทวิจารณ์นี้จึงเป็นเรื่องของการเปรียบเทียบคุณภาพกับเกมสไตล์เดียวกันในท้องตลาด ทั้งเรื่องคุณภาพ เกมเพลย์ และส่วนอื่นๆ ชนิดว่ากันแบบตรงๆ ไม่มีอาการ hype หรืออวยตัวเกมส่วนใดเป็นพิเศษ รวมถึงจะไม่มีการนำไปเปรียบเทียบกับเกมในซีรีส์นี้ภาคก่อนๆด้วยนะครับ

Monster Hunter World เป็นเกมที่เล่นได้สนุกถ้าคุณคาดหวังเรื่องความสนุกเป็นตัวตั้ง แต่มันเป็นเกมที่ต้องการเวลาในการเรียนรู้และเข้าถึงค่อนข้างมากและด้วยการดีไซน์สไตล์ญี่ปุ่นอะไรหลายๆอย่างที่ควรจะง่ายถ้ามันอยู่ในเกมจากฝั่งตะวันตก กลับกลายเป็นเรื่องที่ยากเกินจำเป็น เช่น การนำเสนอ UI ที่ซับซ้อนเกินไป ทำให้การมอบประสบการณ์ให้กับผู้เล่นนั้นออกมาไม่ดีไปด้วย คุณอาจจะมึนงงกับปุ่มหรือไอเทมหลากหลายชนิด รวมถึงวิธีการเล่นทั่วไปในเกมได้ง่ายๆ และระบบการสอนที่มีให้ก็ไม่ละเอียดมากพอ อีกทั้งองค์ประกอบหลายๆอย่างในเกมหากนำไปเทียบกับเกมในปัจจุบันแล้ว ก็ยังมีข้อด้อยหลายอย่าง เช่น ระบบ Mini-Map ที่ปรับแต่งไม่ได้ การแสดงมาร์คเกอร์ที่ดูมากมายเกินไป ส่วน Multiplayer นั้นทำได้ดีแต่การนำเสนอส่วน lobby ที่ผนวกเข้าไปกับกระดานรับเควสดันกลายเป็นข้อเสีย เพราะแทนที่จะทำให้มันง่ายและน่าจะเข้าเล่นได้สะดวกทันที สิ่งที่ได้รับกลับกลายเป็นเรื่องตรงกันข้ามซะอย่างนั้น อีกทั้งถ้าคุณสร้างห้องเล่นกับเพื่อนแบบ Private คุณจะไม่สามารถกดเข้าจากหน้าเมนูเกมได้ด้วย คุณต้องไปวิ่งหากระดานเควสในเกมแล้วให้เพื่อนส่งเชิญจึงจะกดรับได้ ผมก็ไม่เข้าใจว่าจะทำให้มันยุ่งยากไปทำไม แค่ให้เพื่อนสร้างห้องก่อนเข้าเกมแล้วส่งเชิญให้คุณกดรับมันก็ควรจะจบแล้วไม่หรอ!? (ผมได้ยินคนไทยตะโกนถามกันผ่าน Onlie Session ว่า "เปิดไมย์ยังไงวะ" ทั้งๆที่ไมย์ก็เปิดแล้ว หรือ "จะสร้างห้องเล่นกันยังไง?" เพราะเกมไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรชัดเจนเลย นอกจากให้คุณไปงมหาเอาเองเบื้องต้น)

ระบบการสร้างและปรับแต่งตัวละครนำเสนอได้ดีมีรายละเอียดให้ปรับแต่งกันหลายอย่าง ตั้งแต่โครงหน้าที่เลือกกันได้อย่างละเอียด ตาจมูกคิ้วและอีกสารพัด ตลอดจนเสียงและแอคชั่นของตัวละคร สีทรงผมรวมถึง Cosmetic สไตล์ต่างๆ ทำให้การออกแบบตัวละครให้ดูสวยดูหล่อเป็นอะไรที่ทำได้สะดวกมาก แต่....ไม่ว่าคุณจะสร้างตัวละครก่อนเริ่มเกมให้สวยขนาดไหน พอเข้าเกมจริงแล้ว หน้าตาตัวละครที่แสดงในเกมจะดูดรอปลงไปราวกับคนละคนชนิดที่ว่า "ตอนสร้างหน้าตาอย่างปังพอสงสนามดันกลายเป็นป้า" ไปซะอย่างนั้น ซึ่งจุดนี้คนก็ด่ากันมาตั้งแต่เวอร์ชั่น PS4 แล้ว และพอมันมาอยู่บน PC ก็ยังคงหนีไม่พ้นเช่นเดิม ระบบ Lip Sync ของเกมอยู่ในระดับย่ำแย่เพราะแม้แต่ฉากคัตซีนที่มีเสียงสนทนา ปากตัวละครก็มีอาการ "ถั่วงาๆ" อย่างเห็นได้ชัดราวกับว่าปากขยับตามเสียงเวอร์ชั่น JP แต่เกมตอนนี้เสียงเป็น ENG ก็ไม่ปาน แม้มันจะดูเป็นเรื่องที่เล็กน้อยไม่กระทบกับเกมเพลย์ แต่มันก็ค่อนข้างจะส่งผลต่ออารมณ์การเล่นอยู่บ้างโดยเฉพาะในช่วงคัตซีนที่ต้องดูตัวละครคุยกัน และมันยังแสดงให้เห็นด้วยว่า Capcom สามารถทำให้เกมตัวเองมีคุณภาพมากกว่านี้ได้ แต่พวกเขาไม่ทำและพอใจกับมาตรฐานของเกมพอสมควรแล้ว

แผนที่ในเกมไม่ได้มีความเป็น Open World เต็มรูปแบบซะทีเดียวเพราะมันถูกนำเสนอออกมาเป็นฉากขนาดใหญ่โดยมี Layer ซ้อนกันหลายชั้น (บนล่าง) และการเข้าถึงพื้นที่ใหม่ก็เหมือนการกดโหลดข้ามแผนที่ไปเลย ดังนั้นสิ่งที่พอจะให้ความรู้สึกว่ามันเป็น Open World ก็คือ ฉากที่ใหญ่และมีความอิสระที่จะไปไหนมาไหนได้ก็เท่านั้น ส่วนเกมเพลย์หลักคือ ล่ามอนเอาของมาอัพเกรดหรือสร้างของเพิ่มและเดินตามเนื้อเรื่องที่มีให้ วนลูปกันไป โดยเกมจะเพิ่มความท้าทายเข้ามาให้เมื่อเล่นไปเรื่อยๆ เช่น เพิ่มมอนสเตอร์ระดับสูงที่มีความโหด ล่ายากเข้ามาท้าทายผู้เล่นในช่วงหลัง การสร้างและอัพเกรดไอเทมมีอะไรให้ทำเยอะมาก มีระบบ Set item ด้วย ดังนั้นเป้าหมายหลักของเกมจึงไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าที่กล่าวไป ซึ่งถ้าคุณเป็นคนชอบความท้าทายและไม่เบื่อกับการ Grind วนลูปไปเรื่อยๆ เกมนี้ก็นับว่ามีอะไรให้ทำเยอะมากอยู่ แต่กระนั้นสำหรับคนที่ต้องการความลึกล้ำหลากหลายในด้านเกมเพลย์ก็อาจจะยังคงมีคำถามคาใจอยู่ว่า "ล่ามอนมาทำของอัพเกรดตัวเองจนเทพแล้ว ทำไรต่อ?" เพราะดูเหมือนว่าคำตอบที่ออกมาจะไม่มีอะไรมากไปกว่า "ก็กลับไปวนลูปล่ามอนที่โหดขึ้นไงล่ะ!" แค่นั้น ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเกมนี้ความสนุกมันอยู่ที่ตอนล่ามอนส์เตอร์จริงๆ ถ้าจะมาคาดหวังอะไรที่มากกว่าตรงนี้ เกมจากฝั่งตะวันตกน่าจะเป็นคำตอบที่ดีกว่าครับ

ระบบต่อสู้และไล่ล่ามอนส์เตอร์คือหัวใจหลักในเรื่องความสนุกของตัวเกม อาวุธมีให้เลือกใช้เยอะและมีความเฉพาะตัวสูง ตัวมอนสเตอร์เองก็เช่นกัน แต่ละตัวมีวิธีรับมือและเอกลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างกัน การต่อสู้ในเกมจึงไม่ใช่แค่การรัวปุ่มเพียงอย่างเดียว คุณต้องอาศัยการจับจังหวะทั้งการโจมตีและหลบหลีก แต่สิ่งที่ทำให้ผมชวนหัวมากที่สุดคือ "ระบบล็อกเป้าสุดอัจริยะ" ที่เกมนำเสนอโดยปกติแล้วในเกมอื่นๆ การล็อกเป้าคือการล็อกมุมมองของคุณไปยังศัตรูและเวลากดโจมตีก็จะพุ่งเป้าไปที่ศัตรูที่คุณล็อก แต่สำหรับ MHW นั้น การล็อกเป้าใส่ศัตรูเป็นเพียงการล็อกมุมมองเท่านั้น ในการกดโจมตีศัตรูคุณยังต้องอาศัยการเล็งโดยใช้ "ตา" มองเอาเอง โดยพยายามบังคับตัวละครให้หันหน้าไปทางศัตรูและกดโจมตีเอา บางคนบอกว่าระบบนี้มีเอาไว้แค่ใช้ตามศัตรู ซึ่งก็สมเหตุผลดีเพราะดูๆแล้วมันไม่ได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการต่อสู้มากกว่าเล็งเองเลยจริงๆนั่นแหละ

กลยุทธ์ในการเล่นขอชื่นชมว่าทำออกมาได้มีรายละเอียดเล็กน้อยเยอะมากจนคุณอาจคิดไม่ถึงว่ามันเอาไปสร้างความได้เปรียบในการล่ามอนสเตอร์ได้ เช่น การซุ่มโจมตีศัตรูจากพื้นที่ที่สูงกว่า การใช้อาวุธชนิดที่ต่างกันกับศัตรูก็อาจจะไม่ส่งผลเหมือนกัน อาทิ คุณไม่สามารถใช้ค้อนหรือธนูตัดเอาชิ้นส่วนศัตรูได้โดยการกดโจมตีรัวๆไป เกมจะบังคับให้คุณใช้อาวุธที่มีความคมเพื่อตัดชิ้นส่วนเท่านั้น ตลอดจนการใช้สภาพแวดล้อมในฉากเพื่อสร้างความได้เปรียบก็มีให้เล่นกัน เช่น กับดักธรรมชาติที่คุณสามารถล่อมอนสเตอร์เข้ามาติด หรือจะลากให้มอนสเตอร์ที่คุณล่าเข้าไปสู้กับมอนสเตอร์ตัวอื่นเพื่อดึงความสนใจก็ทำได้เช่นกัน และระบบเก็บร่องรอยหรือรอยเท้ามอนสเตอร์ก็เป็นอะไรที่ทำได้น่าสนใจดี เพราะเบื้องต้นนอกจากจะให้อารมณ์เหมือนการแกะรอยในเกมแล้ว ในระยะยาวการเก็บร่องรอยนี้จะนำไปสู่การศึกษาจุดอ่อนของมอนสเตอร์ตัวนั้นๆ ในที่สุด

กราฟิกที่ได้เหมือนจะดูดีกว่าเวอร์ชั่น PS4 อยู่เล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้แตกต่างจนเตะตา ส่วน Performance ในเกมอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ดีมากไม่แย่มาก เกมมีอาการบริโภค CPU ค่อนข้างสูงมากกระทั่งตอนอยู่ในหน้าต่างรับเควสหรืออยู่ในเมืองซึ่งไม่ควรมีการประมวลผลใดๆ เฟรมเรทอาจมีอาการแกว่งตลอดการเล่นและอาจจะเจอเฟรมตกวูบได้จากปัจจัยหลายอย่างในเกม เช่น เอฟเฟคที่เยอะเกินไป หรือการโหลดฉากแบบเนียนๆเวลาเข้าสู่พื้นที่ใหม่ ซึ่งในภาพรวมแล้วการเล่นที่ 1080p ปรับทุกอย่างสูงสุดกับ 1080Ti พ่วงด้วย RAM อีกราว 24GB ก็ไม่สามารถทำเฟรมเรทนิ่งๆที่ 60FPS ได้ตลอด โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 40-50FPS ซึ่งหากเทียบกับคุณภาพกราฟิกที่เกมนำเสนอออกมาแล้วมันควรจะทำได้ดีกว่านี้ครับ ส่วนปัญหาจุกจิกทั่วไปอื่นๆที่พบเจอก็จะมีเรื่องของการเล่นโดยใช้ Controller ที่แสดงเลย์เอาท์ไม่ตรงตอนเริ่ม เช่น ใช้จอย Xbox เล่นแต่เกมแสดงผลเป็นคีย์บอร์ด หรือใช้จอย PS4 เล่น เกมดันแสดงผลเป็น Xbox เป็นต้น หรือส่วน Graphic Option ที่ยังไม่ละเอียดพอ ไม่มีตัวเลือกปิด Motion Blur ซึ่งทำให้การเล่นมีปัญหามากสำหรับคนที่มึนหัวง่ายเพราะการแสดงผลแบบนี้ และที่แย่คือเกมใช้การเบลอภาพเพื่อลบรอยหยักแบบหลอกตาโดยพ่วงเข้าไปกับคุณสมบัติ TXAA พูดง่ายก็คือ ถ้าคุณอยากได้ภาพดูดีและสมูทคุณต้องยอมเจออาการภาพเบลอเล็กน้อยตลอดการเล่นนั่นแหละ

ท้ายที่สุดแล้ว Monster Hunter World สำหรับผมถือว่าเป็นเกมที่ดีมีเอกลักษณ์โดดเด่นน่าสนใจ แต่ในเชิงคุณภาพของเกม PC หากเปรียบเทียบกับเกมที่คล้ายคลึงกันในตลาดแล้ว การขัดเกลาชิ้นงานหรือการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เล่น "ยังทำได้ไม่ดีนัก" ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่เล่นเกมมาเยอะมากๆ โดยเฉพาะเกมฝั่งตะวันตก และไม่ได้รู้สึก Hype กับตัวเกมชนิดที่ว่า "กรูอยากเล่นๆๆๆๆๆ" การได้สัมผัสเกมนี้อาจจะทำให้คุณมองเห็นข้อเสียหลายอย่างได้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นจนคุณอาจหมดสนุกและรู้สึกไม่อยากเล่นมันอีกเลยตั้งแต่แรก กระนั้นหากคุณมองข้ามข้อด้อยเหล่านี้ และอดทนใช้เวลาเรียนรู้ระบบเกมได้ คุณจะเข้าถึงความสนุกที่เกมมอบให้ซึ่งก็นับว่าคุ้มค่าพอสมควร เพราะการล่ามอนสเตอร์ในเกมนี้มีรายละเอียดและสนุกมาก ยิ่งถ้ามีกลุ่มเพื่อนฝูงที่พร้อมจะมาไล่ล่าเฮฮาไปกับคุณด้วย การเล่นก็จะสนุกขึ้นไปอีกครับ

+ เกมเพลย์การล่ามอนสเตอร์สนุก ระบบสร้างและอัพเกรดหลาหลาย เล่นได้นาน รองรับ Workshop สำหรับคนอยาก Mod เป็นของแถม

+/- เกมเน้นการ Grind สูงมาก มีความซ้ำซากเมื่อถึงจุดหนึ่ง ใช้เวลาเรียนรู้ในการเล่นและเข้าถึงค่อนข้างเยอะ ระบบเกมมีความเป็น JP มากจนรู้สึกได้ ซึ่งหลายๆอย่างอาจทำให้คุณหงุดหงิดหากเทียบกับเกมแนวเดียวกันในตลาด

- ปัญหาเรื่อง Performance ที่แตกต่างกันไปตามสภาพเครื่องคนเล่น แม้ว่าจะผ่านค่ามาตรฐานก็ตาม ตัวเลือกการแสดงผลที่ปรับได้จำกัดมาก บัคจุกจิกทั้งส่วนเลย์เอาท์และเกมเพลย์

[h1]การมาถึงครั้งแรกบน PC ที่คุ้มค่า แต่อะไรหลายอย่างน่าจะทำได้ดีกว่านี้[/h1] ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าผมไม่เคยเล่นเกมในซีรีส์ [i]Monster Hunter[/i] มาก่อนเลยซักภาค ไม่ใช่แฟนบอยซีรีส์นี้ และก็ไม่ได้ตื่นเต้นยินดีอะไรเป็นพิเศษที่มันมีให้เล่นบน PC (แต่ก็สัมผัสมาก่อนแล้วบ้างบน PS4) ดังนั้นสิ่งที่อยู่ในบทวิจารณ์นี้จึงเป็นเรื่องของการเปรียบเทียบคุณภาพกับเกมสไตล์เดียวกันในท้องตลาด ทั้งเรื่องคุณภาพ เกมเพลย์ และส่วนอื่นๆ ชนิดว่ากันแบบตรงๆ ไม่มีอาการ hype หรืออวยตัวเกมส่วนใดเป็นพิเศษ รวมถึงจะไม่มีการนำไปเปรียบเทียบกับเกมในซีรีส์นี้ภาคก่อนๆด้วยนะครับ [i]Monster Hunter World[/i] เป็นเกมที่เล่นได้สนุกถ้าคุณคาดหวังเรื่องความสนุกเป็นตัวตั้ง แต่มันเป็นเกมที่ต้องการเวลาในการเรียนรู้และเข้าถึงค่อนข้างมากและด้วยการดีไซน์สไตล์ญี่ปุ่นอะไรหลายๆอย่างที่ควรจะง่ายถ้ามันอยู่ในเกมจากฝั่งตะวันตก กลับกลายเป็นเรื่องที่ยากเกินจำเป็น เช่น การนำเสนอ UI ที่ซับซ้อนเกินไป ทำให้การมอบประสบการณ์ให้กับผู้เล่นนั้นออกมาไม่ดีไปด้วย คุณอาจจะมึนงงกับปุ่มหรือไอเทมหลากหลายชนิด รวมถึงวิธีการเล่นทั่วไปในเกมได้ง่ายๆ และระบบการสอนที่มีให้ก็ไม่ละเอียดมากพอ อีกทั้งองค์ประกอบหลายๆอย่างในเกมหากนำไปเทียบกับเกมในปัจจุบันแล้ว ก็ยังมีข้อด้อยหลายอย่าง เช่น ระบบ Mini-Map ที่ปรับแต่งไม่ได้ การแสดงมาร์คเกอร์ที่ดูมากมายเกินไป ส่วน Multiplayer นั้นทำได้ดีแต่การนำเสนอส่วน lobby ที่ผนวกเข้าไปกับกระดานรับเควสดันกลายเป็นข้อเสีย เพราะแทนที่จะทำให้มันง่ายและน่าจะเข้าเล่นได้สะดวกทันที สิ่งที่ได้รับกลับกลายเป็นเรื่องตรงกันข้ามซะอย่างนั้น อีกทั้งถ้าคุณสร้างห้องเล่นกับเพื่อนแบบ Private คุณจะไม่สามารถกดเข้าจากหน้าเมนูเกมได้ด้วย คุณต้องไปวิ่งหากระดานเควสในเกมแล้วให้เพื่อนส่งเชิญจึงจะกดรับได้ ผมก็ไม่เข้าใจว่าจะทำให้มันยุ่งยากไปทำไม แค่ให้เพื่อนสร้างห้องก่อนเข้าเกมแล้วส่งเชิญให้คุณกดรับมันก็ควรจะจบแล้วไม่หรอ!? (ผมได้ยินคนไทยตะโกนถามกันผ่าน Onlie Session ว่า "เปิดไมย์ยังไงวะ" ทั้งๆที่ไมย์ก็เปิดแล้ว หรือ "จะสร้างห้องเล่นกันยังไง?" เพราะเกมไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรชัดเจนเลย นอกจากให้คุณไปงมหาเอาเองเบื้องต้น) ระบบการสร้างและปรับแต่งตัวละครนำเสนอได้ดีมีรายละเอียดให้ปรับแต่งกันหลายอย่าง ตั้งแต่โครงหน้าที่เลือกกันได้อย่างละเอียด ตาจมูกคิ้วและอีกสารพัด ตลอดจนเสียงและแอคชั่นของตัวละคร สีทรงผมรวมถึง Cosmetic สไตล์ต่างๆ ทำให้การออกแบบตัวละครให้ดูสวยดูหล่อเป็นอะไรที่ทำได้สะดวกมาก แต่....ไม่ว่าคุณจะสร้างตัวละครก่อนเริ่มเกมให้สวยขนาดไหน พอเข้าเกมจริงแล้ว หน้าตาตัวละครที่แสดงในเกมจะดูดรอปลงไปราวกับคนละคนชนิดที่ว่า "ตอนสร้างหน้าตาอย่างปังพอสงสนามดันกลายเป็นป้า" ไปซะอย่างนั้น ซึ่งจุดนี้คนก็ด่ากันมาตั้งแต่เวอร์ชั่น PS4 แล้ว และพอมันมาอยู่บน PC ก็ยังคงหนีไม่พ้นเช่นเดิม ระบบ Lip Sync ของเกมอยู่ในระดับย่ำแย่เพราะแม้แต่ฉากคัตซีนที่มีเสียงสนทนา ปากตัวละครก็มีอาการ "ถั่วงาๆ" อย่างเห็นได้ชัดราวกับว่าปากขยับตามเสียงเวอร์ชั่น JP แต่เกมตอนนี้เสียงเป็น ENG ก็ไม่ปาน แม้มันจะดูเป็นเรื่องที่เล็กน้อยไม่กระทบกับเกมเพลย์ แต่มันก็ค่อนข้างจะส่งผลต่ออารมณ์การเล่นอยู่บ้างโดยเฉพาะในช่วงคัตซีนที่ต้องดูตัวละครคุยกัน และมันยังแสดงให้เห็นด้วยว่า Capcom สามารถทำให้เกมตัวเองมีคุณภาพมากกว่านี้ได้ แต่พวกเขาไม่ทำและพอใจกับมาตรฐานของเกมพอสมควรแล้ว แผนที่ในเกมไม่ได้มีความเป็น Open World เต็มรูปแบบซะทีเดียวเพราะมันถูกนำเสนอออกมาเป็นฉากขนาดใหญ่โดยมี Layer ซ้อนกันหลายชั้น (บนล่าง) และการเข้าถึงพื้นที่ใหม่ก็เหมือนการกดโหลดข้ามแผนที่ไปเลย ดังนั้นสิ่งที่พอจะให้ความรู้สึกว่ามันเป็น Open World ก็คือ ฉากที่ใหญ่และมีความอิสระที่จะไปไหนมาไหนได้ก็เท่านั้น ส่วนเกมเพลย์หลักคือ ล่ามอนเอาของมาอัพเกรดหรือสร้างของเพิ่มและเดินตามเนื้อเรื่องที่มีให้ วนลูปกันไป โดยเกมจะเพิ่มความท้าทายเข้ามาให้เมื่อเล่นไปเรื่อยๆ เช่น เพิ่มมอนสเตอร์ระดับสูงที่มีความโหด ล่ายากเข้ามาท้าทายผู้เล่นในช่วงหลัง การสร้างและอัพเกรดไอเทมมีอะไรให้ทำเยอะมาก มีระบบ Set item ด้วย ดังนั้นเป้าหมายหลักของเกมจึงไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าที่กล่าวไป ซึ่งถ้าคุณเป็นคนชอบความท้าทายและไม่เบื่อกับการ Grind วนลูปไปเรื่อยๆ เกมนี้ก็นับว่ามีอะไรให้ทำเยอะมากอยู่ แต่กระนั้นสำหรับคนที่ต้องการความลึกล้ำหลากหลายในด้านเกมเพลย์ก็อาจจะยังคงมีคำถามคาใจอยู่ว่า "ล่ามอนมาทำของอัพเกรดตัวเองจนเทพแล้ว ทำไรต่อ?" เพราะดูเหมือนว่าคำตอบที่ออกมาจะไม่มีอะไรมากไปกว่า "ก็กลับไปวนลูปล่ามอนที่โหดขึ้นไงล่ะ!" แค่นั้น ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเกมนี้ความสนุกมันอยู่ที่ตอนล่ามอนส์เตอร์จริงๆ ถ้าจะมาคาดหวังอะไรที่มากกว่าตรงนี้ เกมจากฝั่งตะวันตกน่าจะเป็นคำตอบที่ดีกว่าครับ ระบบต่อสู้และไล่ล่ามอนส์เตอร์คือหัวใจหลักในเรื่องความสนุกของตัวเกม อาวุธมีให้เลือกใช้เยอะและมีความเฉพาะตัวสูง ตัวมอนสเตอร์เองก็เช่นกัน แต่ละตัวมีวิธีรับมือและเอกลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างกัน การต่อสู้ในเกมจึงไม่ใช่แค่การรัวปุ่มเพียงอย่างเดียว คุณต้องอาศัยการจับจังหวะทั้งการโจมตีและหลบหลีก แต่สิ่งที่ทำให้ผมชวนหัวมากที่สุดคือ "ระบบล็อกเป้าสุดอัจริยะ" ที่เกมนำเสนอโดยปกติแล้วในเกมอื่นๆ การล็อกเป้าคือการล็อกมุมมองของคุณไปยังศัตรูและเวลากดโจมตีก็จะพุ่งเป้าไปที่ศัตรูที่คุณล็อก แต่สำหรับ [i]MHW[/i] นั้น การล็อกเป้าใส่ศัตรูเป็นเพียงการล็อกมุมมองเท่านั้น ในการกดโจมตีศัตรูคุณยังต้องอาศัยการเล็งโดยใช้ "ตา" มองเอาเอง โดยพยายามบังคับตัวละครให้หันหน้าไปทางศัตรูและกดโจมตีเอา บางคนบอกว่าระบบนี้มีเอาไว้แค่ใช้ตามศัตรู ซึ่งก็สมเหตุผลดีเพราะดูๆแล้วมันไม่ได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการต่อสู้มากกว่าเล็งเองเลยจริงๆนั่นแหละ กลยุทธ์ในการเล่นขอชื่นชมว่าทำออกมาได้มีรายละเอียดเล็กน้อยเยอะมากจนคุณอาจคิดไม่ถึงว่ามันเอาไปสร้างความได้เปรียบในการล่ามอนสเตอร์ได้ เช่น การซุ่มโจมตีศัตรูจากพื้นที่ที่สูงกว่า การใช้อาวุธชนิดที่ต่างกันกับศัตรูก็อาจจะไม่ส่งผลเหมือนกัน อาทิ คุณไม่สามารถใช้ค้อนหรือธนูตัดเอาชิ้นส่วนศัตรูได้โดยการกดโจมตีรัวๆไป เกมจะบังคับให้คุณใช้อาวุธที่มีความคมเพื่อตัดชิ้นส่วนเท่านั้น ตลอดจนการใช้สภาพแวดล้อมในฉากเพื่อสร้างความได้เปรียบก็มีให้เล่นกัน เช่น กับดักธรรมชาติที่คุณสามารถล่อมอนสเตอร์เข้ามาติด หรือจะลากให้มอนสเตอร์ที่คุณล่าเข้าไปสู้กับมอนสเตอร์ตัวอื่นเพื่อดึงความสนใจก็ทำได้เช่นกัน และระบบเก็บร่องรอยหรือรอยเท้ามอนสเตอร์ก็เป็นอะไรที่ทำได้น่าสนใจดี เพราะเบื้องต้นนอกจากจะให้อารมณ์เหมือนการแกะรอยในเกมแล้ว ในระยะยาวการเก็บร่องรอยนี้จะนำไปสู่การศึกษาจุดอ่อนของมอนสเตอร์ตัวนั้นๆ ในที่สุด กราฟิกที่ได้เหมือนจะดูดีกว่าเวอร์ชั่น PS4 อยู่เล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้แตกต่างจนเตะตา ส่วน Performance ในเกมอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ดีมากไม่แย่มาก เกมมีอาการบริโภค CPU ค่อนข้างสูงมากกระทั่งตอนอยู่ในหน้าต่างรับเควสหรืออยู่ในเมืองซึ่งไม่ควรมีการประมวลผลใดๆ เฟรมเรทอาจมีอาการแกว่งตลอดการเล่นและอาจจะเจอเฟรมตกวูบได้จากปัจจัยหลายอย่างในเกม เช่น เอฟเฟคที่เยอะเกินไป หรือการโหลดฉากแบบเนียนๆเวลาเข้าสู่พื้นที่ใหม่ ซึ่งในภาพรวมแล้วการเล่นที่ 1080p ปรับทุกอย่างสูงสุดกับ 1080Ti พ่วงด้วย RAM อีกราว 24GB ก็ไม่สามารถทำเฟรมเรทนิ่งๆที่ 60FPS ได้ตลอด โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 40-50FPS ซึ่งหากเทียบกับคุณภาพกราฟิกที่เกมนำเสนอออกมาแล้วมันควรจะทำได้ดีกว่านี้ครับ ส่วนปัญหาจุกจิกทั่วไปอื่นๆที่พบเจอก็จะมีเรื่องของการเล่นโดยใช้ Controller ที่แสดงเลย์เอาท์ไม่ตรงตอนเริ่ม เช่น ใช้จอย Xbox เล่นแต่เกมแสดงผลเป็นคีย์บอร์ด หรือใช้จอย PS4 เล่น เกมดันแสดงผลเป็น Xbox เป็นต้น หรือส่วน Graphic Option ที่ยังไม่ละเอียดพอ ไม่มีตัวเลือกปิด Motion Blur ซึ่งทำให้การเล่นมีปัญหามากสำหรับคนที่มึนหัวง่ายเพราะการแสดงผลแบบนี้ และที่แย่คือเกมใช้การเบลอภาพเพื่อลบรอยหยักแบบหลอกตาโดยพ่วงเข้าไปกับคุณสมบัติ TXAA พูดง่ายก็คือ ถ้าคุณอยากได้ภาพดูดีและสมูทคุณต้องยอมเจออาการภาพเบลอเล็กน้อยตลอดการเล่นนั่นแหละ ท้ายที่สุดแล้ว [i]Monster Hunter World[/i] สำหรับผมถือว่าเป็นเกมที่ดีมีเอกลักษณ์โดดเด่นน่าสนใจ แต่ในเชิงคุณภาพของเกม PC หากเปรียบเทียบกับเกมที่คล้ายคลึงกันในตลาดแล้ว การขัดเกลาชิ้นงานหรือการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เล่น [b]"ยังทำได้ไม่ดีนัก"[/b] ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่เล่นเกมมาเยอะมากๆ โดยเฉพาะเกมฝั่งตะวันตก และไม่ได้รู้สึก Hype กับตัวเกมชนิดที่ว่า "กรูอยากเล่นๆๆๆๆๆ" การได้สัมผัสเกมนี้อาจจะทำให้คุณมองเห็นข้อเสียหลายอย่างได้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นจนคุณอาจหมดสนุกและรู้สึกไม่อยากเล่นมันอีกเลยตั้งแต่แรก กระนั้นหากคุณมองข้ามข้อด้อยเหล่านี้ และอดทนใช้เวลาเรียนรู้ระบบเกมได้ คุณจะเข้าถึงความสนุกที่เกมมอบให้ซึ่งก็นับว่าคุ้มค่าพอสมควร เพราะการล่ามอนสเตอร์ในเกมนี้มีรายละเอียดและสนุกมาก ยิ่งถ้ามีกลุ่มเพื่อนฝูงที่พร้อมจะมาไล่ล่าเฮฮาไปกับคุณด้วย การเล่นก็จะสนุกขึ้นไปอีกครับ + เกมเพลย์การล่ามอนสเตอร์สนุก ระบบสร้างและอัพเกรดหลาหลาย เล่นได้นาน รองรับ Workshop สำหรับคนอยาก Mod เป็นของแถม +/- เกมเน้นการ Grind สูงมาก มีความซ้ำซากเมื่อถึงจุดหนึ่ง ใช้เวลาเรียนรู้ในการเล่นและเข้าถึงค่อนข้างเยอะ ระบบเกมมีความเป็น JP มากจนรู้สึกได้ ซึ่งหลายๆอย่างอาจทำให้คุณหงุดหงิดหากเทียบกับเกมแนวเดียวกันในตลาด - ปัญหาเรื่อง Performance ที่แตกต่างกันไปตามสภาพเครื่องคนเล่น แม้ว่าจะผ่านค่ามาตรฐานก็ตาม ตัวเลือกการแสดงผลที่ปรับได้จำกัดมาก บัคจุกจิกทั้งส่วนเลย์เอาท์และเกมเพลย์