58 people found this review helpful
2 people found this review funny
3
1
Recommended
0.0 hrs last two weeks / 92.1 hrs on record (42.9 hrs at review time)
Posted: Sep 15, 2021 @ 10:38am
Updated: Oct 15, 2021 @ 1:28am

หนึ่งในสุดยอด JRPG ที่คู่ควรกับการฉลองครบรอบ 25 ปี ซีรีส์ Tales of..

* ความยาวเนื้อเรื่องหลักอย่างเดียว จบได้ที่ 65-70 ชั่วโมง หลังจบรอบแรกจะมี new game+ ให้ คุณจะเริ่ม new game+ เลยก็ได้ หรือจะเล่นดันเจี้ยนกับเควสส่วน End game ต่อก็ได้เช่นกัน

** การจะ new game+ ควรหา Artifact ในรอบแรกให้ครบ เพื่อเปิดการนำ Progression ทุกอย่างไปใช้ในรอบต่อไป (หาได้โดยการหา Owl ให้ครบ 38 ตัวก่อนจบ)

*** LV1-100 ได้โดยไม่ใช้ตัวช่วยใดๆ ภายในเวลา 90 ชั่วโมงหรือน้อยกว่า และถ้าจะเก็บเควสทั้งหมดกับ Achievement ทุกตัว อาจใช้เวลาได้มากกว่า 100ชั่วโมง++ ที่ความยากปกติ


มีเกม JRPG ยุคใหม่อยู่เพียงไม่กี่เกมที่สามารถตรึงให้ผมติดอยู่กับหน้าจอได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งหากไม่พูดถึงคุณภาพของเนื้อเรื่องแล้ว เหตุผลส่วนใหญ่ที่ทำให้ผมเล่นไม่จบก็น่าจะเพราะ JRPG โดยรวมมักจะมีแรงดึงดูดอยู่ในช่วงต้นเกมไปจนถึงกลางๆ พอหลังจากผ่านช่วงนั้นไปถ้าผู้เล่นเกิดไม่ "คลิก" ในสิ่งที่ตัวเกมนำเสนอหรืออินกับอะไรบางอย่าง คุณก็อาจจะรู้สึกเบื่อและหมดอารมณ์ติดตามตัวเกมไป ส่วนใหญ่ผมจะเป็นแบบนั้น แต่สำหรับ Tales of Arise นั้นค่อนข้างแตกต่างออกไป มันมีอะไรหลายๆ อย่างที่ลงตัวมาก แม้จะเป็นหนึ่งในซีรีส์ Tale of แต่ก็มีการนำเสนอในหลายองค์ประกอบที่แตกต่างชัดเจนจากภาคก่อนๆ โดยเฉพาะเรื่องของอารมณ์เกมและการดึงความน่าสนใจออกมานำเสนอที่มีความกระชับ ฉับไว ไม่เวิ่นเว้อมากมายเหมือน JRPG ของญี่ปุ่นแท้ๆ ส่วนหนึ่งคงเพราะตัวเกมถูกวางทิศทางไว้ให้ตอบสนองต่อตลาดของชาวตะวันตกมากขึ้นกว่าเดิม และผมดีใจที่ผู้พัฒนาตัดสินใจทำตัวเกมออกมาเพื่อตอบโจทย์นั้น เพราะนี่เป็น Tale of ยุคใหม่ที่เล่นแล้วสนุกที่สุด น่าติดตามที่สุดเท่าที่ซีรีส์นี้เคยลง PC เลยก็ว่าได้

https://steamcommunity.com/sharedfiles/filedetails/?id=2600886889
Tales of Arise กล่าวถึงเรื่องราวของ Twin World หรือโลกของ Rena และ Dahna ในช่วงเวลาทีชาว Dahna กำลังตกเป็นทาสและถูกกดขี่จากชาว Rena มาเป็นเวลากว่า 300 ปี คุณจะได้รับบทเป็นชายหน้ากากเหล็กผู้ที่สูญเสียความทรงจำซึ่งเหตุการณ์นำพาให้มาพบกับสาวปริศนาและเหล่าสหาย ชาวแก็งค์จึงออกเดินทางร่วมกันเพื่อปลดปล่อยอาณาจักรทั้ง 5 ของ Dahna และค้นหาคำตอบเกี่ยวกับความทรงจำทีสาปสูญของตนเองไปพร้อมๆกัน การเล่าเรื่องของเกมภาคนี้ค่อนข้างกระชับฉับไว แตกต่างจากภาค Berseria อย่างเห็นได้ชัด เกมใช้เวลาไม่นานนักเพื่อนำคุณไปรู้จักกับระบบต่างๆ ผ่านการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างเข้มข้นในช่วงต้น ไม่รู้สึกยืดยาวจนพาลหลับเหมือนภาคก่อนและการเล่าเรื่องตลอดทั้งเกมก็ค่อนข้างจะไปในทิศทางเดียวกันคือ เนื้อหามีความชัดเจน กระชับ ข้อสงสัยที่คุณเจอตลอดการเล่นจะมีการเฉลยออกมาเป็นระยะๆ แต่ก็ยังมีปมหลักที่คงความรู้สึกชวนติดตามไปตลอดทั้งเกม มีการหักมุมทำให้ประหลาดใจและเน้นไปที่ความจริงจังมากกว่าอารมณ์ขันตามสไตล์เกม RPG ที่ทำมาเอาใจฝั่งตะวันตก กระนั้นเมื่อมันเป็น JRPG ในแก่นแท้ เนื้อหาและบทสนทนาบางช่วงบางตอนเองก็ยังคงมีความ "เวิ่นเว้อ" และไม่ค่อยสมเหตุผลอยู่บ้าง อารมณ์เดียวกับอนิเมะของญี่ปุ่นอะไรแบบนั้น (บทฮาๆ ก็มีแต่ถือว่าลดลงไปมากเมื่อเทียบกับภาคก่อน)
https://steamcommunity.com/sharedfiles/filedetails/?id=2603466352
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของเกมภาคนี้ก็น่าจะเป็นระบบต่อสู้ที่นำเอาของเดิมมายกเครื่องปรับปรุงใหม่ให้ใช้ง่ายและคล่องตัว เกมหยิบเอาระบบต่อสู้ของ Berseria มาใช้แล้วปรับปรุงใหม่ให้เกมเพลย์มีความรวดเร็วมาก ผู้เล่นสามารถเข้าถึงการต่อสู้และท่วงท่าที่ซับซ้อนต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้นด้วยการกดเพียงไม่กี่ปุ่ม ให้ความรู้สึกตระการตา สนุก สะใจในการออกท่วงท่ามากกว่าภาคไหนๆ และยังมีความเป็น Action Combo สูงกว่าทุกภาคด้วย คุณสามารถเลือกตัวละครเข้าทีมเพื่อลงสู้ได้สูงสุด 4 คน (จาก 6) ส่วนอีก 2 คนที่เหลือจะทำหน้าที่สนับสนุนการสู้รบ และไม่ใช่แค่ยืนเป็นกำลังใจเฉยๆ คุณสามารถสั่งให้ตัวละครสนับสนุนออกท่วงท่าต่างๆ เมื่อสะสมเกจพลังงานได้จำนวนหนึ่ง รวมถึงการใช้ท่าไม้ตายเมื่อศัตรูล้ม (เป็นท่าคู่ที่ตัวละคร 2 ตัวจะใช้ร่วมกัน ซึ่งเกมจะสุ่มคู่หูสำหรับตัวละครที่สั่งออกท่าให้อัตโนมัติ) ต่างจากเกมภาคก่อนที่ลงสู้ได้ 4 คน ส่วนคนที่เหลือคือมีหน้าที่ยืนรอเพื่อสับเปลี่ยนเข้าออกทีมเท่านั้น อีกทั้งตัวละครทุกตัวมีท่าพิเศษของตัวเองที่เรียกว่า Boost Attack ซึ่งท่าของแต่ละคนสามารถใช้หยุดการโจมตีของศัตรูได้แตกต่างกัน เช่น ท่าของ Kisara สามารถใช้หยุดศัตรูที่กำลังพุ่งโจมตีได้ หรือท่าของ Rinwell สามารถหยุดการร่ายเวทย์ของศัตรูและดูดพลังงานมาใช้เป็นเวทย์ของตัวเองได้ และ Shionne สามารสอยศัตรูที่บินได้ทุกประเภทให้ตกลงสู่พื้น เป็นต้น ด้วยการออกแบบลักษณะนี้ ทำให้ตัวละครทุกตัวมีความสำคัญเท่าๆ กันในทุกสถานการณ์ ต่างจากเกมภาคก่อนที่ต้องสลับเพื่อนลงสนามเท่านั้นถึงจะใช้งานได้ การออกแบบระบบต่อสู้ในภาคนี้จึงมีความลื่นไหลและสนุกมาก (และภาคนี้ระหว่างสู้ก็เปลี่ยนตัวได้เช่นเดิม)

ตัวละครทุกตัวมีเอกลักษณ์และวิธีเล่นที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงซึ่งคุณสามารถสลับสับเปลี่ยนไปเล่นได้อย่างอิสระ และเกมยังคงเน้นให้คุณบังคับตัวละครเพียงตัวเดียว ที่เหลือคือให้ Ai ควบคุมตามแผนที่เราวางเหมือนเดิม ส่วนการวาง Strategy ภาคนี้ใช้การกำหนดแบบแผนรวม ไม่สามารถแยกเป็นรายตัวละครได้แบบ Berseria แต่ยังสามารถตั้งค่าการเปิดปิดใช้ท่าต่างๆ และกำหนดรายละเอียดลึกๆ ได้ค่อนข้างมาก ตัวละครที่ผู้เล่นควบคุมนั้นจะสามารถใช้ท่าต่อสู้หลักได้เพียง 6 ท่า (คุณปรับแต่งได้ตลอดและตอนหลังจะเพิ่มเป็น 12) ส่วน Ai เพื่อนร่วมทีมจะใช้ท่าได้ทั้งหมด เกมใช้ระบบแต้มแบบใหม่ในการกำหนดการออกแอคชั่นบางอย่างของผู้เล่น ซึ่งแต้มนี้เรียกว่า "CP" มันเปรียบเสมือนพลังเวทย์สำหรับใช้เวทย์รักษาอาการบาดเจ็บ การชุบชีวิต รวมถึงการออกแอคชั่นพิเศษบนแผนที่ ซึ่งหากค่านี้หมดคุณจะไม่สามารถใช้เวทมนต์รักษาเพื่อนร่วมทีมได้ การฟื้นฟูค่านี้ทำได้โดยการใช้ไอเทม ใช้อาหารร่วมกับค่าทักษะพิเศษบางอย่างและการตั้งแคมป์นอนพักเท่านั้น ระบบนี้ทำให้คุณต้องสู้ไปพักไป อาจให้ความรู้สึกไม่ต่อเนื่องเหมือนเกมภาคอื่นๆ แต่แต้ม CP ที่เยอะในช่วงกลางๆ เกมก็ทำให้คุณไล่ต่อสู้กับศัตรูบนแผนที่ได้ยาวนานพอสมควร จนคุณแทบจะไม่รู้สึกถึงข้อจำกัดจากระบบนี้ อย่างไรก็ดีระบบนี้กลับทำให้การเล่นของผู้เล่นต้องมีการวางแผนมากขึ้น ส่งผลไปถึงตัวละครที่เล่นว่าควรเล่นแบบไหน การตั้งแผนการสู้ว่าควรต้องทำอย่างไรให้มีประสิทธิภาพตามไปด้วย (เพื่อจะต่อสู้ได้ยาวนาน ไม่ต้องฮีลและนอนพักบ่อยๆ)

https://steamcommunity.com/sharedfiles/filedetails/?id=2601653753
เกมภาคนี้ถูกรังสรรค์ด้วย Unreal Engine 4 ทำให้ได้ภาพที่สวยงาม เอฟเฟคทุกอย่างตระการตา รวมถึงสไตล์งานศิลป์ที่มีเอกลักษณ์ต่างจากเกมภาคก่อนที่ดูมีความเป็น Anime ค่อนข้างสูง การออกแบบฉากมีความหลากหลาย มีรายละเอียดสวยงาม รวมถึงเพลงประกอบเองก็สร้างอารมณ์ร่วมได้อย่างยอดเยี่ยม (แต่บางครั้งเพลงก็ดังรบกวนไปนิดนึง ต้องปรับลดเสียงเอา) ตัวเลือกกราฟิกทำได้ค่อนข้างดีตามสไตล์เกม PC แต่..สำหรับผู้ที่ใช้จอกว้างพิเศษระดับ UltraWide แบบผม ตัวเกมเองไม่รองรับการแสดงผลสูงกว่า 16:9 ตามสไตล์เกมจาก Bandai ที่ออกมาทุกเกม กระนั้นก็มี Modder บางส่วนทำ Patch ออกมาแก้ไขเรื่องนี้ซึ่งทำให้การแสดงผลเข้าขั้นสมบูรณ์ทุกประการทั้งอัตราส่วนและ FOV (หา Patch ได้ใน Forum) ใครบอก UE4 แสดงผลจอกว้างอัตราส่วนสูงๆ ไม่ได้ อันนี้คงไม่ใช่ ดูท่าจะเป็นความขี้เกียจของผู้พัฒนาชาวญี่ปุ่นซะมากกว่า (เกมฝั่งตะวันตกรองรับแทบทุก Ratio แล้ว เหลือแต่ฝั่งพี่ยุ่นนี่แหละ) ส่วน Performance จัดว่าดีไม่มีปัญหา เล่นได้ลื่นไหลไม่มีเกมหลุดเกมล่มใดๆ อาจจะมีข้อติบ้างก็คือ เกมค่อนข้างมีการโหลดบ่อย ทั้งโหลดเวลาเข้าสู้ เดินเปลี่ยนแผนที่ ตัดเข้าบทสนทนา แนะนำให้ลงเกมบน SSD จะช่วยลดความหงุดหงิดได้มากในหลายจังหวะครับ

สรุปโดยรวม Arise จัดว่าเป็นเกมที่ดีที่สุดในซีรีส์ Tales of ที่เคยลง PC เลยก็ว่าได้ การนำเสนอของมันเป็นการผสมผสานระบบที่เป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมของซีรีส์เข้ากับเกมเพลย์ที่รวดเร็วซึ่งถูกใจใครหลายคนในปัจจุบัน เนื้อเรื่องเองก็เล่าได้ดี มีปมชวนติดตามตลอดการเล่น ตัวละครมีพัฒนาการอย่างน่าสนใจ ระบบการเล่นเรียกว่าครบเครื่องหลากหลายเหมือนการเอาข้อดีของหลายๆ ภาคมารวมไว้ด้วยกัน ถ้าคุณชอบ JRPG และชอบซีรีส์นี้ คุณควรลองเล่นมัน หรือถ้าไม่เคยเล่น Tales of.. มาก่อนเลย การมาเริ่มต้นกับภาคนี้คุณอาจจะหลงรักซีรีส์นี้ไปเลยก็ได้เหมือนกันครับ
--------------------------------------
+++ การเล่าเรื่องชวนติดตาม เข้มข้น มีหักมุมและนำเสนอหลากหลายอารมณ์ ระบบต่อสู้สนุก รวดเร็วดุดันสะใจ เอฟเฟตแสงสีเสียงตระการตา เป็นการผสมผสานเอกลักษณ์ของ Tales of กับเกมเพลย์ยุคใหม่ได้อย่างลงตัว ตัวละครมีเอกลักษณ์และพัฒนาการที่น่าสนใจ ราคาเต็มก็คุ้มค่า ลดราคาก็ยิ่งน่ากด

+/- แม้จะทำมาเพื่อเจาะตลาดตะวันตก แต่โดยแก่นแท้ยังคงมีความเป็น JRPG ผสมผสานอยู่ในบทและเนื้อเรื่อง ทำให้บางส่วนบางตอนมีความเวิ่นเว้อหรือรู้สึกไม่สมเหตุผลไปบ้าง

- ปัญหาทางเทคนิคอย่างการไม่รองรับ Controller บางตัวในวันแรก การแสดงผลที่ไม่รองรับ Ratio ที่หลากหลายเหมือนเกมค่ายอื่นจนผู้เล่นต้องหาทางแก้ไขกันเอง เกมตัดเข้าสู่ช่วงโหลดหลายช่วงหลายตอน (แนะนำให้ลงใน SSD)
---------------------------------------
ถ้าคุณชอบอ่านบทวิจารณ์เกมก่อนตัดสินใจซื้อ สามารถไปติดตาม follow เพิ่มเติมกันได้ที่ Thai Gamers' Curators ครับ
Was this review helpful? Yes No Funny Award
31 Comments
Chariothe Dec 13, 2021 @ 12:04am 
ครับ อย่างน้อยยังเชื่อใจในมือคนญี่ปุ่นอยู่ครับ แต่คงไม่ใช่ Bandai namco
Ytse Dec 12, 2021 @ 11:57pm 
ก็ตามสบายฮะเรื่องความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวเกม คนเล่นส่วนใหญ่เป็นคนตัดสินเองฮะว่ามันดีมั้ยและถ้ายอดขายมันทำได้ดี คุณก็ได้เห็นเกมแบบนี้ออกมาอีกจนสมใจล่ะครับ lol
Chariothe Dec 12, 2021 @ 11:51pm 
จ๊ะ เอาเป็นว่าผมผิดละกันที่พูดแบบนั้น ด่วนตัดสินไปหน่อย ไม่เกี่ยวกับพวกเรา แต่เกมตัดสินใจทำเอง ส่วนข้อด้อยก็ไม่เกี่ยวกับที่มัน westernized แต่มันด้อยเพราะเขาทำตัวเอง หวังว่าจะเห็นเกม jrpg เลียนแบบ Arise เยอะๆในอนาคต
bunch of plot holes and bad writing, bad level design but still got tons of positive reviews i hope to see more of it lol.
Ytse Dec 12, 2021 @ 11:44pm 
ผมคงไม่ตามไปอ่านไปแย้งอะไร ไม่จำเป็นต้องตาสว่างเพราะไม่ได้มืดบอดฮะ รีวิวมันคือความคิดเห็นไม่ถูกหรือผิด เกมมันไม่ได้ Perfect อยู่แล้วและคนเราตัดสินสิ่งเดียวกันจากประสบการณ์ที่ต่างกัน ชอบไม่ชอบไม่ผิดครับ แต่ที่ผมแย้งเพราะคุณใช้คำว่า “พวกเราทำให้เกมมันถูก westernized” ซึ่งเป็นการตัดสินผู้เล่นคนอื่นที่ชอบไม่เหมือนคุณฮะ และมันไม่ถูกต้อง
Chariothe Dec 12, 2021 @ 11:41pm 
ส่วนตัวก็ไม่ได้เทียบกับเกมไหนเลยนะ เทียบกับภาคเก่าของมันนั้นล่ะครับ Arise ทิ้งสิ่งที่ทำมาดีอยู่แล้วในภาคเก่า ไม่ว่าจะบทพูด supporting characters และตัวร้าย Arise สอบตกหมดเมื่อเทียบกับ Ves Zes Ber
Chariothe Dec 12, 2021 @ 11:31pm 
ลองมาอ่านรีวิวผมก็ได้ฮะ จะแย้งไม่แย้งก็ได้ อยากให้ตาสว่าง และมองถึงคุณค่าที่แท้จริงในฐานะของงานศิลปะชิ้นนึง ว่ามีข้อบกพร่องอยู่มาก
ส่วนตัวเศร้าครับ ถ้าเกม jrpg ทยอย westernized ตัวเองแบบ tales of แบบนี้
Ytse Dec 12, 2021 @ 11:20pm 
ไม่เกี่ยวเลยฮะ ไม่ชอบก็แค่ไม่เล่น อย่าไปตัดสินคนอื่นที่เค้าชอบครับ ความชอบแต่ละคนที่ไม่เท่ากันในแนวเกมไม่ได้บังคับรูปแบบเกมว่าจะต้องออกมาเป็นแบบไหน และ Arise เองก็ไม่ได้เคลมตัวเองแต่แรกแล้วว่าเป็น JRPG แท้ๆ

มองโลกกว้างๆ แล้วเล่นเกมให้เยอะๆฮะ ถ้าอาหารหมาได้ RPG of the year เกมที่คิดว่าตัวเองเป็น JRPG แท้ๆก็ควรหยุดคิดบ้างละ
Ytse Nov 12, 2021 @ 1:01am 
:Kotori: :Kotori: :Kotori:
IO Nov 12, 2021 @ 12:26am 
จริงมากคับเห็นด้วยทุกอย่างเลยคับผมเล่นใน PS5 ถือว่างานดีจัดๆเลย
Ytse Oct 15, 2021 @ 1:24am 
ใช่เลยฮะ