Recent reviews by Violet Evergarden

อันตัวข้าเพ้อฝันถึงภายหน้า ตัวเธอข้าอยู่กันผาสุขี
ในมือมีปากกาเขียนวลี วาจาดีหวานชื่นเธอและฉัน
หมึกหยดไหลเป็นกองช้าอยู่ไย โยกมือไปวาดทางสู่ใจพลัน
ในโลกนี้มีหลายอย่างด้วยกัน จะหาวันสุขสันต์ได้อย่างไร

Verse แรกของเพลง "Your Reality"

----------------------------------------------------------------------------------
เกมนี้ไม่เหมาะกับคนขวัญอ่อนและเด็กเป็นอย่างยิ่ง อย่าหาว่าไม่ได้เตือน
----------------------------------------------------------------------------------


Story : เนื้อเรื่องเริ่มต้นที่ตัวเราถูก "ซาโยริ" เพื่อนในวัยเด็กแสนน่ารักและขี้เล่นชวน (ลาก) เข้าชมรมวรรณกรรมของโรงเรียน ซึ่งในชมรมมีตัวละครหญิงอีกสามตัวคือ "นัทซึกิ" สาวน่ารักจอมซึนเดเระ "ยูริ" สาวขี้อายมาดลึกลับ และ "มอนิก้า" สาวดาวโรงเรียนสุดป๊อปซึ่งเป็นประธานชมรม ตามที่ชื่อของชมรมบอก ถ้าจะเอาใจสาวๆ ก็ต้องแต่งกลอนจีบพวกเธอโดยมีตอนจบสุดกินใจให้รับชมหลายแบบเป็นรางวัล ฟังดูสดใสใช่มั้ย
แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นแบบนั่นหละ......... ก็ขอให้ท่านไปเล่นเองแล้วกัน เพื่อประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือนตราตรึงใจแน่นอน

Gameplay : ตัวเกมดำเนินเกมในแบบเกม Visual Novel มีมินิเกมอย่างการแต่งกลอนจีบสาว โดยแต่ละคนมีลักษณะคำที่ไม่เหมือนกันอิงจากลักษณะนิสัยของตัวละครนั้นๆ อาจฟังดูทั่วไป แต่สิ่งที่เกมนี้สามารถนำเสนอได้อย่างดีคือ การทะลายกำแพงที่สี่
(Break the fourth wall) และการใช้องค์ประกอบที่หลอนและผิดธรรมชาติสร้างบรรยากาศของเกมให้มีความสยดสยองและไม่สบายใจแก่ผู้เล่น ทำให้เกมน่าสนใจขึ้นอย่างมาก

Theme, Graphics, and Sound Design : ตัวเกมเรียกได้ว่าสีสันสดใสก็ว่าได้ สีเด่นๆเลยคือสีชมพู และดีไซน์ตัวละครที่มีสีสันสดใสจดจำง่าย
เป็นเอกลักษณ์ ในด้านเสียงต่างๆออกแบบมาได้ดี มีการเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมกับเหตุการณ์ มีเพลงประกอบที่ส่วนตัวว่าน่าสนใจมาก คือใช้
motif เดิมแต่เปลี่ยนจังหวะและดนตรีให้เข้ากับจังหวะนั้นๆได้

Verdict : เป็นเกมที่เนื้อเรื่องดีตราตรึงใจ มีการนำเสนอที่แปลกใหม่ และที่สำคัญคือฟรี!!!!! แต่ผู้เล่นสามารถสนับสนุนได้โดยการ
อุดหนุน Fan Pack ที่รวมเพลงประกอบ วอร์เปเปอร์ บุ๊คเล็ดไว้ให้เสพอย่างเต็มที่

Final Score : 10/10



















































































just monika

- System Shock: Enhanced Edition : Review -

Story : เรารับบทเป็นแฮกเกอร์นิรนามคนหนึ่งที่พยายามแฮกเข้าข้อมูลของสถานีอวกาศแห่งหนึ่งแต่ถูกจับได้เสียก่อน และได้รับข้อเสนอจากผู้บริหารในองค์กรให้แฮกเข้าไปในระบบ A.I ของ สถานีที่ชื่อว่า SHODAN อย่างลับๆ เพื่อไปปิดข้อจำกัดทางศีลธรรมออก โดยแลกกับอวัยวะเทียมไฮเทคและยกเลิกข้อหาทั้งหมด หลังจากตื่่นมาจาากการพักฟื้นการผ่าตัดถึง 6 เดือน แฮกเกอร์กับพบว่าสถานีนี้มีความผิดปกติเนื่องจากการที่ SHODAN แทรกซึมยึดครองสถานีและสังหารมนุษย์ทั้งหมดและมีเป้าหมายในการยึดครองโลก การต่อสู้เพื่อหยุดการทำลายล้างโลกจึงเกิดขึ้น

-ทั้งหมดเป็นแค่เรื่องราวเพียงย่อๆของเกมนี้ โดยเนื้อเรื่องและ lore จะถูกเล่าผ่านเทปเสียงตามที่ต่างๆ ที่สามารถหาได้ตามฉาก โดยเนื้อหาทั้งหมดจะเป็นภาษาอังกฤษล้วน จึงจำเป็นต้องมีทักษะภาษาอังกฤษในระดับนึง

Gameplay : เรื่องแรกที่จะพูดถึงเลยคือ การควบคุมตัวละครที่ค่อนข้างจะยุ่งยากไปสักหน่อย ถ้ายึดตามของดั้งเดิมที่เป็นเวอร์ชั่น MS-DOS
การควยคุมถือว่านรกแตกเมื่อเทียบกับเกมในยุคเดียวกันอย่าง DOOM II ที่เรียบง่ายมากกว่า แต่ใน Enhanced Edition ได้ overhaul ระบบใหม่ให้มีความทันสมัยขึ้น ทำให้เล่นได้ง่ายขึ้นระดับนึง เกมนี่คุณสามารถ กระโดด คลาน เอี้ยวตัว ปีนได้ ในยุคนั่นถือว่าล้ำมาก อ่าแล้วสามารถมองขึ้นมองลงได้ (ในยุคนั่นเกมยังไม่ค่อยมีการมองขึ้นและมองลง System Shock จึงเอามาโฆษณาแม่งซะเลย ฮา)
-การต่อสู้ถือว่าความเรียบง่ายไม่หวือหวามาก แต่มีการจำแนกประเภทศัตรู ผู้เล่นจึงต้องใช้อาวุธและการสุนให้เหมาะสมกับศัตรู ไม่ง้้นจะใช้เวลาและทรัพยากรในการสู้มากขึ้น
-ในเกมมีการแก้ปรึกษาต่างๆ เช่น การต่อท่อในกระแสไฟไหลไปสู้เป้าหมายให้ถูกต้อง หรือการต่อสายไฟให้ค่าถึงกำหมดที่ต้องการ
ความยากเกมนี้สามารถเลือกได้จากหน้า New Game โดยแบ่งเป็นหมวดต่างๆ ให้ผู้เล่นได้ปรับตามความชอบ มีตั้งแต่ง่ายสุดคือ 0 ถึงยากสุดคือ 3

Graphic, Environment, Sound, And Design : เกมนี้มีฉากหลังเป็นสถานีอวกาศที่ถูกทิ้งร้างเนื่องจากการสังหารของ SHODAN ในตามฉากจะมีศพเกรื่อนกราดและคราบเลือดพร้อมกับไฟสลัวๆ ทำให้เราไม่รู้เลยว่าจะมีอะไรซ่อนอยู่และย้ำเตือนให้ระวังตัวอยู่ตลอดเวลา
-เสียงในเกมนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความน่ากลัวของบรรยากาศ เสียงไฟฟ้า เสียงหุ่นยนต์ เสียงประตูที่เปิดเองทำให้เกิดความกดดันของผู้เล่น
แต่ในบางจุด เสียงเอฟเฟคต่างๆก็น่ารำคาญจนเกินไปจนแทบอยากจะปิดเสียงหนี แต่รวมๆแล้วถือทำออกมาได้ดี
-เพลงเกมนี้มีความเป็นอิเล็กทรอนิคจังหวะสนุกซะส่วนใหญ่ แต่ความที่เป็นเพลงจังหวะแบบนี้ จึงทำให้ในบางฉาากที่ทำออกมาค่อยข้างน่ากลัวกลับไม่น่ากลัวเลย

Performance : เกมนี้ได้ port ลงเอ็นจิ้นยุคใหม่ ทำให้แก้ปัญหาเกมเก่ากับคอมใหม่ได้หมดเลย รองรับการปรับแบบรายละเอียดสูงพร้อมท้้ง AA ลบรอยหยักและเทคเจอร์ที่คมชัดขึ้น แต่เกมนี้ถูกล็อกไว้แค่ 60 FPS เท่านั้นไม่สามารถปลดล็อกได้

Worth a price ? : ราคาเต็มอยู่ที่ 219 บาท ส่วนตัวคิดว่าซื้อราคาเต็มก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่จะรอให้ลดก่อนก็ได้ เพราะเกมนี้ลดแล้วลดเยอะพอสมควร

-Final Score-
8/10
เนื้อเรื่องน่าสนใจ เกมเพลย์หลากหลาย ระบบที่ทันสมัยขึ้นทำให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย แต่ต้องใช้เวลาเรียนรู้สักหน่อย ถ้าคล่องแล้ว คุณอาจชอบก็ได้

good

- The Elder Scrolls III: Morrowind : Review -

Story : เรื่มต้นด้วยคุณเป็นนักโทษที่ถูกส่งตัวมาถึงแคว้น Morrowind เกาะ Vvardenfell ตามคำสั่งขององค์จักรพรรดิ เพื่อผจญภัยทำตามคำทำนายที่ว่าถึงการเกิดใหม่ของ Indoril Nerevar ฮีโร่ในตำนาน เพื่อต่อกรกับ Dagoth Ur ที่ได้สร้างความเดือดร้อนแก่แคว้นด้วยโรคร้าย และ
อสูรกาย เนื้อถือว่าทำมมาได้ดี มีความน่าสนใจ แต่ต้องอาศัยการอ่านและการสังเกต เพราะเกมนี้เนื้อเรื่องส่วนใหญ่เป็น Text-Based แทบทั้งหมด และยังต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษระดับนึงด้วย

Gameplay : สำหรับคนที่เคยเล่น Skyrim หรือ Oblivion ก่อนมาเล่นภาคนี้ อาจรู้สึกว่าภาคนี้เล่นและเข้าถึงค่อนข้างยาก เพราะว่าระบบที่ค่อนข้างซับซ้อน และคุณอาจหัวเสียกับระบบต่อสู้ภาคนี้ได้ เพราะเกมนี้มีโอกาศตีติด miss ว่าง่ายๆคือมีโอกาศตีไม่เข้า เพราะมันอิงจาก skill point ของอาวุธชนิดนั้นๆ กับค่าควาามเหนื่อยหรือ fatique หากมีสองค่านี้เยอะ ยิ่งตีได้ง่ายๆ ระบบนี้ใช้กับการร่ายเวทด้วย ยิ่งค่าสายนั้นน้อย ยิ่งมีโอกาศร่ายติดน้อย วิธีเพื่ม skill point ก็คือ ใช้อาวุธชนิดนั้นๆให้บ่อยๆจนชำนาญ อ่านหนังสือบางเล่มที่บวกค่าเพื่มได้ หรือไปฝึกกับคนที่รับฝึกแต่ต้องเสียตังค์ เกมนี้ตัวละครจะอัปเลเวลได้ต่อเมื่อได้เพื่ม skill point ที่เป็น major skill และ minor skill หรือสกิลที่เราเลือกเป็นสกิลหลักกับสกิลรองเท่านั้น เกมนี้ไม่มี waypoint บอกทาง การตามหาเส้นทางต้องอาศัยจากการอ่านป้ายและจากที่ npc บอก ซึ่งจะถูกบันทึกในสมุดไว้อ่านภายหลังได้ ไม่สามารถ fast travel อย่างอิสระได้ ต้องใช้ silt strider หรือ ใช้คนวาร์ปใน Mage guild ไม่ก็ใช้คำภีร์ในการวาร์ปไปวิหารในเมืองที่ใกล้มากที่สุด ระบบ quest ที่มีอย่างเยอะ ทั้งของกิลด์ต่างๆและของคนทั่วไปที่เจอในแมป เอาเป็นว่าผู้เขียนยังเล่นเควสหลักไม่ถึงไหนเลย เควสรองเยอะมาก ศัตรูในเกมมีเลเวลค่อนข้างที่ตายตัว ไม่ได้อิงจากเลเวลของตัวละครเอกของเรา เราจึงมีสิทธิที่จะเจอศัตรูเวลสูงๆตั้งแต่ต้นๆเกมได้

Theme, Graphics, And Environment : ในยุคนั้น นี่เป็นหนึ่งในเกมที่ภาพค่อนข้างสวย น้ำที่เป็น pixel shade ฉากที่ fantasy น่าทึ่ง ตึกรามบ้านช่องที่ใหญ่โตดูอลังการ และหมอกที่ทำให้ฉากดูใหญ่อลังการ ทำให้มันเป็นเสน่ห์ของเกมไปเลย แต่สำหรับสมัยนี้คือมันตกยุคไปแล้ว หากไม่ชอบภาพเดิม สามารถลงม็อดได้ ทำให้ภาพสวยและเพื่มระยะมองเห็นได้

Performance : ด้วยความที่มันค่อนข้างเก่า เกมนี้ค่อนข้างจะรันได้แย่ในคอมพิวเตอร์สมัยใหม่และบัคที่กระจุยกระจาย สามารถแก้ได้โดยการ patch เกมโดยใช้ ตัว Morrowind code patch ที่สามารถหาโหลดได้ในอินเทอร์เน็ต

Worth a price ? : ราคาเต็มอยู่ที่ 369 บาท เวลาลดจะเหลือ 110 บาท แนะนำให้ซื้อตอนลดเผื่อไม่ชอบการเล่นของมัน

-Final Score : 8.5/10

netflix should've make a series based on this game :D

Scarface Heist
10/10
-Extremely fun and great replay value
-Good loots worth for all loots
-Beautiful map design
-Powerful weapon included within the pack
-Nice masks
-Kinda like Hoxton Revenge but bigger

Breakfast In Tijuana Heist
8/10
-Good design
-The additional loots are good
-Decent objectives
-Hajrudin escort part are pretty boring and horrible

San Martin Bank Heist
Score : 7/10
-New and original map design with little to no reused assets
-new police faction
-loots are somewhat good
-The map is like a simplified version of Big Bank with easier objectives
-Mariachi costume included with the heist without buy a individual pack

Border Crossing Heist
Score : 5/10
-High value of loots (Meths,Money,Weapons)
-Somewhat fun
-Lack of creativity
-Reused assets and map designs
-Long and boring objectives
-Feels like unfinished / badly modder-made map

Border Crystal
Score : 3/10
-Reskinned Cook Off with Locke instead of Bain
-Bad map design
-Objective-related Items placements are horrible

Note : I kinda enjoy this map because of loots but because of bad design and boring objectives so i wouldn't play this again only if i have to

-Mirror's Edge Catalyst Review-
-Story : 3/5
*ภาคนี้เป็นการรีบูทเนื้อเรื่องขึ้นมาใหม่ ไม่เกี่ยวข้องกับภาคแรกทั้งสิ้น*'
ภาคนี้ เนื้อเรื่องมีโครงใกล้เคียงกับภาคแรกอย่างมาก ออกจะดีกว่าภาคแรกอยู่หน่อย มีความเป็นเส้นตรงอย่างมาก มีโมเมนต์หักมุมที่งุนงง และยังมีภารกิจเสริมให้ทำ รวมๆแล้วไม่น่าชวนให้ติดตามมากนักและมีความยาวเนื้อเรื่องที่สั้นมาก สามารถจบภายในวันเดียวได้.
-Gameplay : 3.5/5
เกมเพลย์มีความหลากหลายมากกว่าภาคแรกอย่างมาก ทำให้ผู้เล่นสามารถสำรวจพื้นที่เดิมได้ในหลายรูปแบบ และเกมนี้มีความเป็น Open World
สามารถสำรวจพื้นที่ได้มาก หากแต่พื้นที่ใหม่ๆ จำเป็นต้องเล่นไปตามเนื้อเรื่องเพื่อปลดล็อก.
ระบบ AI การต่อสู้ ทำออกมาได้แย่ ขาดความท้าทายในการต่อสู้ ศัตรูระดับยากยังสามารถเอาชนะได้ด้วยรูปแบบท่าซ้ำๆได้ง่ายดาย และได้ตัดระบบอาวุธปืนออกเพื่อให้ผู้เล่นใช้การต่อสู้มือเปล่า
มีระบบ Skill Tree ที่สามารถอัพเกรดได้โดยใช้แต้มที่ได้จากการทำภารกิจหลักและภารกิจเสริม แต่บางสกิลที่ควรมีตั้งแต่เริ่มเกมกับถูกใส่ให้ผู้เล่นอัพเกรดทีหลังเองทั้งๆที่ควรมีให้อยู่แล้ว.
ถึงแม้จะใช้แพลตฟอร์ม Steam ยังจำเป็นต้องใช้ Origin เพื่อการเก็บ Achievements และการติดตามค่าสถานะ
-Theme,Graphics And Environment : 5/5
ฉากหลังและสภาพแวดล้อมทำออกมาดีและสวยงามมาก ตามธีมเกมที่เป็นธีมอนาคต ภาคนั้ยังใช้โทนสีหลักเดิม คือ สีขาวและสีแดง เรียบง่ายแต่สวยงาม แสงไฟ เงาสะท้อนทำออกมาได้สวยงาม แม้ในภาพระดับต่ำ
-Worth a Price?
ราคาเต็มขายอยู่ที่ 540 บาท ควรรอให้ลดราคาถึงจะคุ้มค่า ส่วนตัวซื้อมาที่ราคา 270 บาท

-Final Score : 3.5/5