House of Legacy

House of Legacy

50 ratings
ไกด์เบื้องต้นสำหรับคนไทย
By Vanadisy
หมายเหตุ: ไกด์นี้ทำจากประสบการณ์ที่เล่นมาล้วนๆซึ่งคำศัพท์ที่แปล ตัวผู้เขียนจะอิงกับบริบทในเกมเพื่อให้เข้าใจง่ายและรู้สึกว่าเหมาะสม + ความรู้ประวัติศาสตร์จีนนิดหน่อย(เท่าที่ทราบ) + ทำมาจากอินเนอร์ส่วนตัวล้วนๆ

หวังว่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย



6
2
   
Award
Favorite
Favorited
Unfavorite
วิธีเล่นเบื้องต้น / Besic Guide
หมายเหตุ: ไกด์นี้ทำจากประสบการณ์ที่เล่นมาล้วนๆซึ่งคำศัพท์ที่แปลให้ ตัวเองจะอิงกับบริบทในเกมเพื่อให้เข้าใจง่ายและรู้สึกว่าเหมาะสม + ความรู้ประวัติศาสตร์จีนนิดหน่อย(เท่าที่ทราบ) + ทำมาจากอินเนอร์ส่วนตัวล้วนๆ

หมายเหตุ: รูปประกอบทั้งหมดมาจากการเล่นนะครับ แต่ต้องบอกให้ทราบก่อนว่า รูปประกอบส่วนใหญ่จะเป็นเกมที่เล่นมานานแล้วระดับนึง

เนื้อเรื่อง
ตระกูลของเราเคยมั่งคั่งมีอันจะกินมาก่อน แต่ถูกกลุ่มกบฏตีเมืองที่ตระกูลเราอาศัยอยู่ในปัจจุบันจนสุดท้ายเมืองแตก ต้องหลบหนีซ่านเซ็นออกจากเมือง แน่นอนเมื่อเราไม่สามารถกลับไปได้ พวกเราที่เหลืออยุ่จึงออกเดินทางมาที่จวนตระกูลหลังเก่า และตรงนี้จุดเริ่มต้นของทุกเรื่องราวอีกครั้ง

ค่าสถานะตัวละคร (Status)


Renown - ค่าชื่อเสียง (เพิ่มจาก ค่าชื่อเสียงตระกูล ระดับการศึกษา/บัณฑิต นิสัย การพูดคุยกับคนอื่นและตำแหน่ง)
Stamina - ค่าความเหนื่อยของตัวละคร (ใช้เพื่อทำกิจกรรม เช่น ซื้อขายกับพ่อค้าเร่, พูดคุยกับคนอื่น เป็นต้น)
Age - อายุ
Health - ค่าสุขภาพร่างกาย (ถ้าค่าน้อยเนี่ยไม่ดีแน่ๆ common senseมากๆ)
Mood - ค่าอารมณ์ (ถ้าค่าน้อยจะส่งผลในตัวละครทำลักษณะนิสัยไม่ดี)
Charisma - ค่าเสน่ห์ (ถ้าค่าเสน่ห์เยอะ ก็จะมีคนชอบง่ายขึ้น)
Luck - ค่าโชค (เป็นค่าที่เพิ่มความเป็นไปได้ในการทำActionต่างๆ เช่น การออกรบ,การสอบบัณฑิต,การพนัน)
Hobby - งานอดิเรก (จำพวกของที่ตัวละครชื่นชอบ เราสามารถหาของมาเพิ่มค่าอารมห์ [Mood] หรือ ทำให้ความสัมพันธ์ [relationship] เพิ่มขึ้นได้)
Trait - นิสัย (จะส่งผลต่อการกระทำของตัวละครนั้น และถ้านิสัยแย่ก็จะส่งผลให้กระทำบางอย่างไม่เหมาะสมได้เวลาทำActionต่างๆ)

Talent - ค่าความสามารถพิเศษ (บ่งบอกว่าตัวละครนั้นเด่นในด้านไหน ทำให้ฝึกฝนในด้านนั้นเร็วขึ้น)
Skill - ทักษะ (อันนี้จะมีโอกาสได้จากอิทธิพลของพ่อแม่หรืออาจารย์ ซึ่งทักษะจะทำให้เราสามารถทำActionพิเศษได้)
Writing - ค่ารู้/คัดอักษร (ใช้เพื่อสอบบัณฑิต หรือActionเกี่ยวกับความรู้)
Might - พละกำลัง (ใช้เพื่อออกรบ หรือ ทำActionเกี่ยวกับการใช้กำลัง เช่น ต่อยตีคนอื่น [Beat up] )
Business - หัวการค้า/ธุรกิจ (ใช้เวลาพูดคุยเกี่ยวกับการTrade หรือ การแก้ปัญหาเกี่ยวกับการค้าขาย)
Art - ศิลป์ (ใช้เวลาทำAction เกี่ยวกับการพูดคุย [Interact] ระหว่างตระกูล)
Cunning - ความเล่ห์เหลี่ยม / ไหวพริบ (ตามชื่อเลย ค่านี้จะใช้เวลาทำActionเกี่ยวกับการใส่ร้ายป้ายสี หรือ สืบค้นเรื่องราว)



สิ่งที่ควรรู้ในเกม

แผนที่ [ Map ]
จะเป็นแผนที่ใหญ่บอกสถานการณ์ของเมืองแต่ละเมือง
  • ชื่อสีฟ้าคือ จวนตระกูลของเรา
  • Clan คือ จวนตระกูลอื่น
  • ชื่อที่มีไฮด์ไลด์สีแดง คือ ชื่อเมืองหน้าด่าน/ระดับอำเภอ
  • Province คือ หัวเมืองประจำมณฑลนั้นๆ
  • ฟาร์ม คือ สถานที่ซึ่งเราสามารถซื้อ/ขาย เพื่อมาจัดการเพาะปลูก/เลี้ยงสัตว์/ทำโรงหัตถการได้ ซึ่งจะขอไม่ลงลึก
  • Royal Capital[เมืองหลวง] คือสถานที่ของฮ่องเต้และเหล่าเชื้อพระวงศ์ (จะเปิดอัตโนมัติเมื่อเป็นขุนนางหน้าพระพักตร์ หรือ ขุนนางขั้น3ที่มารับตำแหน่งในเมืองหลวง)






เมือง [ Province ]
เมืองจะเป็นสถานที่หลักในการทำกิจกรรมทุกอย่างของเรานะครับ

ทางด้านขวาบนของเราจะบอกสถานะของตระกูลเรานะครับ เรียงจากซ้ายไปขวา
  1. ค่าเงินในตระกูล - หาได้จากการทำค้าขายครับ
  2. ค่าตำลึงทองในตระกูล - หาได้จากการ แลกเปลี่ยนเงินเป็นทองที่ร้านแลกเปลี่ยน หรือ เบี้ยหวัดของคนรับราชการ
  3. จำนวนของผู้ติดตามในตระกูล - ผู้ติดตามหาได้จากการรับสมัคร [Recuited] ในเมือง
  4. จำนวนนักโทษของตระกูล - จะบ่งบอกจำนวนผู้กระทำผิดที่ได้รับโทษของตระกูลเรา



ทางด้านซ้ายบนของเราจะเห็นค่าสถานะอีกส่วนนึงของตระกูลครับคือ
  1. Level ของตระกูล
  2. ระดับของตระกูล - จะอ้างอิงตามLevel ของตระกูลเรา จะเปลี่ยนระดับทุกๆ 10 Level
  3. Renown - ค่าชื่อเสียงตระกูล คล้ายๆกับExp เมื่อเก็บครบ Levelของตระกูลจะเพิ่มขึ้น
รองลงมาจาก ค่าสถานะตระกูลเราก็จะบ่งบอกถึง ค่าสถานะของตัวเมือง ซึ่งจะไม่ลงรายละเอียดครับ
รองลงมาจาก ค่าสถานะเมืองคือ ข่าวประจำเดือน สามารถสืบค้นข่าวได้จากในส่วนนี้





Lineage [ ผังตระกูล ]
เช็คได้จากปุ่ม C หรือรูปคน ข้างๆMap


หน้านี้จะเป็นหน้าหลักเวลาที่เราต้องการค้นหาคนในตระกูลเรา โดยสมาชิกแต่ละคนสามารถทำได้ 6 อย่างคร่าวๆคือ



1. Event - จะเป็นหน้าที่บอกเหตุการณ์ว่าตัวละครนี้เคยเจออะไรมาบ้าง รวมทั้งชีวประวัติ


2. Train - สามารถให้ตัวละครอ่านหนังสือเพื่อเพิ่มStatus / ให้ผู้ติดตามของตระกูลเป็นอาจารย์ส่วนตัวมาสอน / ส่งไปเรียนตามสถาบันเพื่อเพิ่มค่าStatus / เดินทางท่องเที่ยวตามเมืองต่างๆ


3. Gift - ให้ของขวัญเพื่อเพิ่มค่าอารมณ์ [ Mood ] / ให้กินยา / อนุญาตให้กินอาหารคบเคี้ยวหรือขนมต่างๆเพิ่มเพิ่มค่าHealthและMood / ให้อุปกรณ์เพิ่มสถานะเช่น ม้า,อาวุธ เป็นต้น


4. Expel - ขับไล่ออกจากตระกูล

5. Resign - ลาออกจากตำแหน่ง (กดได้ก็ต่อเมื่อมีตำแหน่งราชการแล้ว)

6. Set Duty - ให้ทำกิจกรรมของตระกูล เช่น ซื้ออาหารให้ตระกูล / สานสัมพันธ์กับตระกูลอื่น / เก็บค่าเช่าบ้าน / เก็บเงินเบี้ยหวัดร้านค้าตระกูล เป็นต้น





เงิน
สามารถหาได้หลายทางแต่ที่ผมแนะนำช่วงแรกคือ
  1. รับงานจากในตัวเมือง โดยใช้คนในตระกูลไปรับงานในตัวเมืองใหญ่ (Province) แต่ต้องดูด้วยว่าค่า Status ของตัวละครนั้นพอไหม


  2. ใช้วิธีซื้อมาขายไป กินค่าส่วนต่าง หรือง่ายๆก็คือรับบท "พ่อค้าคนกลาง" คือ ซื้อของจากพ่อค้าในราคาถูก แล้วขายให้พ่อค้าเร่ที่ให้เปอร์เซ็นราคาสูง


  3. สามารถถอดถอนสิ่งก่อสร้างในจวนตระกูลตนเองเพื่อรับเงินคืนได้ เช่น พวกต้นหญ้า หรือสุสานเก่า สามารถขายได้ ไม่แนะนำขายสิ่งปลูกสร้างที่พังนะครับ


  4. เมื่อมีบ้านในเมืองแล้วสามารถให้ Retainer [ผู้ติดตาม] ทำงานที่1กับ2แทนเราได้



Retainer [ ผู้ติดตาม ]

หาได้จากการRecuited ประชากรในเมือง ยิ่งStatusดีเท่าไหร่ก็ยิ่งเสียค่าจ้างเยอะ


หน้าที่ของผู้ติดตามคือ
  • ทำหน้าที่จัดการธุระต่างๆให้เรา เพื่อทำให้ตระกูลเรามีรายได้ [ ต้องมีบ้านในเมือง ]

  • สั่นสอนให้กับเด็กในตระกูลเราที่มีอายุต่ำกว่า18ปี เพื่อที่Statusของคนในตระกูลเพิ่มขึ้นเร็วขึ้น

  • เป็นครูสอนให้กับเด็กทั้งตระกูลได้ [ ต้องมี Private School ในจวนตระกูล ]

  • สามารถช่วยในการรบได้คือ การข่มขู่/เขย่าขวัญกองทัพศัตรู




    Farm [ ฟาร์ม ]
    สามารถหาซื้อได้จากการที่ตระกูลอื่นขาย สามารถดูได้จากใน X


    เราสามารถเพาะปลูก/เลี้ยงสัตว์ ได้หมดเพื่อเป็นทรัพยากรของตระกูล ซึ่งผมจะไม่ขอเจาะลึกมาก แต่แนะนำในช่วงเริ่มควรจะปลูกข้าว, ผัก, เลี้ยงสัตว์ 3อย่างนี้ครับ เพราะตระกูลเราจะได้ไม่ต้องซื้อข้าวจากในเมือง





เส้นทางขุนนาง
เนื้อหาจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆคือ
1. การสอบบัณฑิต
2. การดำรงตำแหน่งขุนนาง

การสอบบัณฑิต/การสอบขุนนาง [ imperial examination ]
หรือที่คนไทยรู้จักมากที่สุดคือ การสอบจอหงวน ในเกมนี้จะมีการสอบทั้งหมด 4 ระดับซึ่งมีการดัดแปลงจากการสอบขุนนางในประวัติศาสตร์คือ
  1. Preliminary Exam [ การสอบระดับท้องถิ่น ]
    - ผู้สอบต้องอายุ 8 ปี+
    - ผู้สอบผ่านจะถูกเรียกว่า Xiucia [ ซิ่วไฉ ]
  2. Rural exam [ การสอบระดับท้องถิ่น ]
    - ผู้สอบต้องอายุ 18 ปี+
    - ผู้สอบผ่านผ่านคะแนนสูงสุด จะถูกเรียกว่า Xieyuan [ เจี้ยหยวน ]
    - ผู้สอบผ่านจะถูกเรียกว่า Juren [ จู่เหริน ]
  3. Provincial exam [ การสอบระดับมณฑล ]
    - ผู้สอบต้องอายุ 18 ปี+
    - ผู้สอบผ่านผ่านคะแนนสูงสุด จะถูกเรียกว่า Huiyuan [ ฮุ้ยหยวน ]
    - ผู้สอบผ่านจะถูกเรียกว่า Gongshi [ ก้งชื่อ ]
  4. Ultimate exam [ การสอบระดับบัณฑิตขั้นสูง / การสอบจอหยวน ]
    - ผู้สอบต้องอายุ 18 ปี+
    - ผู้สอบผ่านคะแนนอันดับ1 จะถูกเรียกว่า Zhuangyuan [ จอหยวน ] สามารถรับตำแหน่งขุนนางขั้น 4
    - ผู้สอบผ่านคะแนนอันดับ2 จะถูกเรียกว่า Bangyan [ ปั้งเหยี่ยน ] สามารถรับตำแหน่งขุนนางขั้น 5
    - ผู้สอบผ่านคะแนนอันดับ3 จะถูกเรียกว่า Tanhua [ ทั่นฮวา ] สามารถรับตำแหน่งขุนนางขั้น 6
    - ผู้สอบผ่านจะถูกเรียกว่า Jinshi [ จิ้นชื่อ ] สามารถรับตำแหน่งขุนนางขั้น 7

วิธีในการสอบคือ รอให้มีการจัดสอบ
  • การสอบระดับ Rural จะมีจัดทุกๆ 1 ปี
  • การสอบระดับ Ultimate exam จะมีจัดหลังจากการสอบ Provincial exam 1เดือน
  • ค่าที่ใช้ในการสอบคือ Writing หรือ ค่ารู้/ค่าคัดอักษร
    - Writing 20 = ผ่านระดับ Preliminary Exam
    - Writing 40 = ผ่านระดับ Rural exam
    - Writing 60 = ผ่านระดับ Provincial exam
    - Writing 80 = ผ่านระดับ Ultimate exam

*หมายเหตุ: ค่าWriting ที่เขียนไว้คือค่ามาตรฐานที่มาจากประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ
*หมายเหตุ: ค่าWritingไม่ถึงค่าระดับมาตรฐานไม่ได้หมายความว่าจะสอบไม่ผ่านนะครับ เพราะยังมีค่าLuckเพิ่มด้วย แต่แน่นอนว่าถ้าจะเอาให้ชัวร์ก็ทำให้ถึงค่ามาตรฐานจะดีที่สุดครับ
*หมายเหตุ: ถ้าในตระกูลมีคนดำรงตำแหน่ง Rite Minister [ เสนาบดีว่าการกระทรวงพิธีการ ] ก็สามารถเปลี่ยนผลการสอบได้ 1คนต่อ1ครั้งการสอบ


เมื่อสอบผ่านจะมีระดับของบัณฑิตแสดงให้เห็นที่หน้าตัวละครถัดจากค่า Renown [ ค่าชื่อเสียง ]


หมายเหตุ: ตัวละคร1ตัวสามารถสอบซ้ำหลายรอบได้นะครับ
การดำรงตำแหน่งขุนนาง
ลำดับขุนนาง
ขุนนางของจีนจะแบ่งตามลำดับขั้น เรียงจากขั้น1-9 ขั้น9คือล่างสุด แต่ในเกมจะเห็นถึงขั้น7เท่านั้นเพราะ ขั้น8-9 เป็นขุนนางระดับล่าง ไม่ได้มีหน้าที่บริหารแต่อย่างใด

คนในตระกูลสามารถเป็นขุนนางได้มีทั้งหมด 3 วิธีคือ
  1. สอบผ่านถึงระดับUltimate exam เป็น Jinshi
  2. เป็นทหารที่มีระดับ Yihui officer ขึ้นไป
  3. ช่วยราชการแผ่นดิน เช่น ช่วยบริจาคข้าวในช่วงสงคราม

เพื่อความง่าย จะสมมุติสถานการณ์ของตัวละครคือสอบผ่านเป็น Jinshi

สิ่งที่เราทำได้ คือ
1. รอรับตำแหน่ง จนกว่าจะมีตำแหน่งว่างแล้วทางการเสนอมาให้
2. ถ้าในตระกูลเรามีขุนนางระดับสูงอยู่ ก็สามารถโยกย้ายให้มารับตำแหน่งได้เลย

ต่อจากนี้เพื่อความง่ายจะแบ่งระดับขุนนางตามระดับหัวเมืองที่รับราชการนะครับ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------

หัวเมืองหน้าด่าน

ขุนนางขั้น7 มี 2 ตำแหน่ง ประจำการที่หัวเมืองหน้าด่าน/ระดับอำเภอ
1. Deputy Magistrate - รองผู้พิพากษาเมือง | สามารถจัดการภาษีในเมือง
2. County Marshal - ผู้ตรวจตราอำเภอ/ผู้บัญชาการระดับอำเภอ คือ ข้าราชการพลเรือนซึ่งมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในระดับเมือง/อำเภอ | สามารถเพิ่ม/ลด จำนวนทหารประจำเมืองได้

ขุนนางขั้น6 มี 1 ตำแหน่ง ประจำการที่หัวเมืองหน้าด่าน/ระดับอำเภอ
1. Magistrate - ผู้พิพากษาเมือง มีหน้าบริหารในระดับหัวเมือง | สามารถปลด/แต่งตั้งขุนนางในเมืองประจำการได้

*หมายเหตุ: Magistrate ไม่ได้หมายถึง ผู้พิพากษา [ Judge ] นะครับ ในบริบทนี้หมายถึง ข้าราชการผู้มีอำนาจหน้าที่ทั้งในทางบริหารและตุลาการนั่นเอง คล้ายๆกับตำแหน่ง "ยกกระบัตร" ของไทยสมัยก่อนน่ะครับ



-------------------------------------------------------------------------------------------------------

หัวเมืองหลักประจำมณฑล

ขุนนางขั้น5 มี 3 ตำแหน่ง
1. Deputy governor - รองผู้ว่าการมณฑล เป็น ข้าราชการรองจากผู้ว่ามณฑล มีหน้าที่ช่วยบริหารในระดับมณฑล | สามารถจัดการภาษีในเมืองหลักได้
2. Provincial Marshal - ผู้บัญชาการมณฑล เป็น ข้าราชการรองจากผู้ว่ามณฑล มีหน้าที่ดูแลความสงบในระดับมณฑล | สามารถเพิ่ม/ลด จำนวนทหารประจำเมืองได้
3. Cheif censor - ผู้ตรวจการมณฑล เป็นข้าราชการที่ไม่ขึ้นตรงกับ Provincial Governor [ ผู้ว่าการมณฑล ], ถูกแต่งตั้งมาจาก Censor [ ผู้ตรวจการเข้าเฝ้าในท้องพระโรง ] มีหน้าที่ตรวจดูการทุจริตของมณฑล | สามารถฟ้องร้องขุนนางในท้องที่/มณฑลที่ประจำการอยู่ได้

ขุนนางขั้น4 มี 1 ตำแหน่ง
1. Provincial Governor - ผู้ว่าการมณฑล ถือเป็น ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มีหน้าบริหารในระดับมณฑล | สามารถปลด/แต่งตั้ง ขุนนางขั้น5ลงไปได้ (ยกเว้น Cheif censor) ในมณฑลที่ดูแล



-------------------------------------------------------------------------------------------------------

เมืองหลวง
ขุนนางที่ปรากฎเป็นตัวแทนของ ปู้ (กระทรวง) ต่างๆซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารรัฐกิจ ซึ่งถือเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มีโอกาสทัดทาน/เสนอนโยบายให้แก่ฮ่องเต้ได้ เวลาเสด็จราชกิจที่ท้องพระโรง ขุนนางระดับนี้ถูกเรียกว่า "ขุนนางเข้าเฝ้าท้องพระโรง"

ขุนนางขั้น 3 มีตำแหน่งทั้งหมด 10 ตำแหน่ง แบ่งเป็น2หน่วยงานหลักๆคือ กระทรวงทั้งหก กับ ฝ่ายตรวจการซึ่งมีสถานะเทียบเท่ากระทรวงทั้งหก

6 ตำแหน่งแรก ทำงานให้กับ ปู้ (กระทรวง) ทั้งหกแบ่งเป็น
1. Justice Minister [ เสนาบดีว่าการกระทรวงราชทัณฑ์ ] - รับผิดชอบกระบวนการยุติธรรมและราชทัณฑ์ | ดูแลการฟ้องร้องของขุนนางขั้น5ลงไปทั้งหมด
2. Civil Minister [ เสนาบดีว่าการกระทรวงขุนนาง ] - รับผิดชอบแต่งตั้ง/ถอดยศ ขุนนางขั้น4ลงไปทั้งหมด
3. Revenue Minister [ เสนาบดีว่าการกระทรวงครัวเรือน ] - รับผิดชอบเก็บภาษีและบริหารรายจ่ายแผ่นดิน
4. Rite Minister [ เสนาบดีว่าการกระทรวงพิธีการ ] - รับผิดชอบการสอบขุนนาง | สามารถเปลี่ยนผลการสอบได้
5. Industry Minister [ เสนาบดีว่าการกระทรวงโยธาธิการ ] - รับผิดชอบงานโยธาของทั้งอาณาจักร
6. War Minister [ เสนาบดีว่าการกระทรวงยุทธนาการ ] - รับผิดชอบกิจการทหารต่าง ๆ | สามารถสั่งเคลื่อนทัพ/ส่งกำลังเสริมในการรบได้

4 ตำแหน่งหลัง ขึ้นตรงกับ Imperial Censor [ หัวหน้าฝ่ายตรวจการ ]
1. Censor[ ผู้ตรวจการเข้าเฝ้าในท้องพระโรง ] มีทั้งสิ้น 4 คน - รับผิดชอบแต่งตั้ง/ปลด Cheif censor [ ผู้ตรวจการมณฑล ] และ สามารถยื่นเรื่องตรวจสอบการทุจริต/ฟ้องร้อง ขุนนางขั้น3ลงไปได้

ขุนนางขั้น 2 มีตำแหน่งทั้งหมด 2 ตำแหน่ง
1. Grand Minister [ นายกรัฐมนตรี / เสนาบดีฝ่ายบริหาร] - แต่งตั้ง/ปลด เสนาบดีว่าการกระทรวง [ Minister ] ทั้ง 6 ได้
2. Imperial Censor [ หัวหน้าฝ่ายตรวจการ ] - สถานะเทียบเท่าเสนาบดีกระทรวงทั้งหก แต่ขึ้นตรงกับฮ่องเต้ มีอำนาจปลด/แต่งตั้ง Censor [ ผู้ตรวจการเข้าเฝ้าในท้องพระโรง ]

ขุนนางขั้น 1 มีตำแหน่งทั้งหมด 1 ตำแหน่ง
1. Chancellor [ อัครมหาเสนาบดี ] - ข้าราชการฝ่ายบริหารชั้นสูงสุด | สามารถแต่งตั้ง/ปลด ขุนนางขั้น2ลงไปได้








คำแนะนำสำหรับผู้เล่นใหม่
วิธีที่แนะนำที่สุดในการเป็นขุนนางคือสอบเข้าให้ได้อันดับดีๆ ขั้นต่ำคือสอบให้ได้ถึง Jinshi แล้วหลังจากนั้นก็ไต่เต้าขึ้นไปตามเกมเลย + ตีสนิทกับตระกูลอื่นไว้เยอะๆ เพื่อที่เวลามีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือจะได้มีคนช่วย

Tip เสริม
นายทหารสามารถเป็นขุนนางได้ แต่ไม่แนะนำเท่าไหร่
  1. Yihui officer - เทียบเท่าขุนนางขั้น 7
  2. Gui'de officer - เทียบเท่าขุนนางขั้น 6
  3. General of Cavalry - เทียบเท่าขุนนางขั้น 4 - 5
  4. General of Xuanwei - เทียบเท่าขุนนางขั้น 3

จากประสบการณ์ในการเล่น: เมื่อคนในตระกูลอยู่ตำแหน่ง General of Xuanwei แล้วตำแหน่ง Justice Minister [ เสนาบดีว่าการกระทรวงราชทัณฑ์ ] หรือ War Minister [ เสนาบดีว่าการกระทรวงยุทธนาการ ] ว่างอยู่ ทางการจะเสนอแต่งตั้งให้

ถ้ามีเวลาเดี๋ยวจะมาเขียนต่อครับ
สำหรับคนที่อ่านอังกฤษได้
สำหรับใครที่ต้องการBasic Guide ก็แนะนำของคนนี้ครับ🤩

https://steamcommunity.com/sharedfiles/filedetails/?id=3485252311
11 Comments
S'la'z'ze'r Jul 10 @ 6:08am 
สอบถามครับ ทำไงให้เกษตรกรมาอะครับ ผมซ์้อไป 4 มาแค่2 ที่ อีก2ที่ 0/100+ กว่าตลอดเหมือนหาไม่ได้

ทั้งที่ สภาแวดล้อม ความสะดวก50+หมด
Pycnonotus[TH] Jun 29 @ 11:44pm 
พอจะรู้ไหมครับ พวกบทละคร เครื่องราง พวกนี้ มันได้มายังไง บางทีก็มีคนมาขายให้
และก็อยากรู้เกี่ยวกับพวกหอนางโรม กับโรงน้ำชา ใช้ทำไรครับ นอกจากไปเอาตัวนางรำมาทำเมีย
onajao Jun 13 @ 10:30pm 
ว่าแต่พอรู้บ้างมั้ยครับว่ามีวิธีในที่จะสอบผ่าน Ultimate exam แบบได้ อันดับที่ 1 บ้างครับตัวละครผมมี Writing 100 แต่ได้ที่สองตลอด พอรู้วิธีบ้างมั้ยครับหรือมัน Rng ไปเลย
:steamsad:

ต้องมีทักษะพิเศษ เช่นหมอ
RinBlue Jun 1 @ 12:03pm 
@libar88 มาจากสายไหนก็ได้ครับ สายทหารตำแหน่งขึ้นง่ายกว่าสายสอบด้วย
Hongjou May 29 @ 6:28pm 
เล่นสายทหารถ้าไต่ไปจนถึง General of Xuanwei แล้วยังไปออกรบต่อบางครั้ง ฮ่องเต้ จะพระราชทานที่ดินให้มีให้ขุดแร่กับที่ดินทำฟาร์มและก็เก็บค่าที่ดินรายปีได้ด้วยครับ
Stupedasso May 29 @ 8:21am 
ว่าแต่พอรู้บ้างมั้ยครับว่ามีวิธีในที่จะสอบผ่าน Ultimate exam แบบได้ อันดับที่ 1 บ้างครับตัวละครผมมี Writing 100 แต่ได้ที่สองตลอด พอรู้วิธีบ้างมั้ยครับหรือมัน Rng ไปเลย
:steamsad:
Stupedasso May 27 @ 4:59am 
ขอขอบคุณสำหรับไกด์ดีๆครับ😭🙏
1GvP May 26 @ 11:16pm 
ผมก็เล่นสายทหาร
5 ปีได้เป็นเสทหาร (ขั้น 3)
10 ปี ได้เป็น อธิบดีกรมราชเลขา (ขั้น 2)
แต่งตั้งน้องเข้าแทนตำแหน่ง รอมีคนตุยยัดน้องเข้าแทน
อย่าปลดตระกูลอำนาจเยอะ
ตอนนี้รออัครเสนาตุย มัน 78 ปีละ ผมก็น่าจะได้เป็นละ
:steamhappy:
libar88 May 25 @ 10:13pm 
งั้นไปสายทหารแบบออกรบนี่ไม่น่ารุ่งใช่มั้ยครับ ต้องสอบเก็บสายพลเรือนไปเรื่อยถึ่งจะเห็นหนทางกว่า
Mizato May 25 @ 1:16pm 
ขอบคุณมากๆ นะคะ