Baldur's Gate 3

Baldur's Gate 3

No hay suficientes valoraciones
[BG3] Build#023 นักเล่นแร่แปรธาตุสาดระเบิดเถิดเทิง
Por Kingreader-K
บิ้ว Endgame (Act 3 Lv12) สำหรับผู้ที่อยากเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ คราฟยาพิษ ขว้างระเบิด ยิงกระสุนแบบบึ้มบั้ม โดยไกด์นี้ จะอธิบายการทำบิ้ว, อุปกรณ์ที่จำเป็น, และวิธีการเล่นให้อย่างละเอียดระดับโมเลกุล

อ้างอิงจากเกม Version 4.1.1.5022896 (Patch 6 Hotfix 25)
   
Premiar
Favoritos
Favorito
Quitar
Introduction & Overview
คุณเคยเล่นเกมอื่นแล้วเจออาชีพ Alchemist สายยิงหน้าไม้ปาระเบิดมั๊ย?
คุณอยากเป็นนักคราฟยาสำหรับปาร์ตี้ของคุณหรือไม่?
คุณชอบเล่นบิ้วที่เน้นอุปกรณ์เสริมทั้งหลายมาช่วยให้เล่นสนุกขึ้นมั๊ย?


สวัสดีนักผจญภัยผู้ไม่ยอมหลับยอมนอนทั้งหลาย มาพบกับผม Kingreader-K อีกแล้ว ซึ่งคราวที่แล้วผมบอกว่า จะรอ Patch 7 ออกก่อนแล้วค่อยทำบิ้วต่อไป แต่รอยังไง มันก็ไม่ยอมออกมาซักที ... อ่ะ ไม่รงไม่รอมันละ ทำเลยละกันนนน!!!

โดยรอบนี้ไม่ได้เป็นบิ้วรุนแรงขนาดเมต้าหรือเล่นง่ายอะไรอย่างใด แต่เป็นบิ้วที่ผมคิดว่ายังขาดไปสำหรับเกมนี้ นั่นก็คือ สาย Alchemist หรือที่เราเรียกกันว่า นักเล่นแร่แปรธาตุ นั่นเอง ... ซึ่งพอพูดแบบนี้ ผมก็จะนึกถึงตัวละครยุคกลางที่ใส่หน้ากากนกปากยาวๆ หมวกพ่อมด Pointy Hat ถือหน้าไม้พร้อมกับขวดสารเคมีทั้งหลายไว้ขว้างใส่เหล่าศัตรู โชคดีที่ในเกมนี้ ถึงไม่มีหน้ากากหมอให้ใส่ แต่ก็มีอย่างอื่นให้เราทำแบบนั้นได้ครับ

จริงๆแล้ว บิ้วสำหรับนักคราฟยานั้นก็มีอยู่ แต่อาจจะเอามาลงไฟท์ได้ลำบาก ผมเลยเอามาปรับให้สามารถลงไฟท์ก็ได้ คราฟยาก็ดี จนได้เป็นบิ้วนี้ออกมา ... และต้องสารภาพก่อนว่า ผมเองก็ไม่ได้เล่นเก่งหรือรู้ไปซะทุกอย่างในเกมนะครับ 555 เพราะยังมีอีกหลายอย่างที่การเล่นแค่ 600 ชม.ของผมยังไม่ได้พบเจอมากับตัว ดังนั้น หากมีคำแนะนำหรือความเห็นอะไรก็อย่าลืมเอามาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันนะครับ

หากคุณชอบบิ้วที่คราฟยาได้จำนวนมากกว่าชาวบ้าน ขว้างระเบิดบึ้มบั้ม ยิงธนูจนเหล่าศัตรูเละเทะกระจัดกระจายแล้วล่ะก็ บิ้วนี้จะเป็นเพื่อนซี้ของคุณแน่นอน ... เชิญพบกับรายละเอียดของบิ้วที่ 23 นี้ได้เลยครับผม

การสร้างตัวละครที่ Level 01
Wizard Lv1

Origin/Race/Sub-Race - อันนี้ไม่บังคับอะไรครับ เลือกตามที่ชอบได้เลย

Class - Wizard อย่างแน่นอน จริงๆถ้าไม่ได้ซีเรียสเรื่องคราฟยา ก็สามารถข้ามไปอัพ Ranger ก่อนได้นะครับ แต่ที่ผมเอาคลาสนี้ก่อนเพื่อเอา Proficiency ของ Int และ Wis ครับ แถมเรายังได้สกิล Arcane Recovery เอาไว้ฟื้น Slot เวทย์ได้ด้วยครับ


Cantrips - อันนี้เลือกอะไรก็ได้ครับ ไม่ได้มีผลกับการเล่นเราเท่าไหร่


Spells - เลือก 6 อย่างที่ชอบได้เลยครับ เพราะสุดท้ายเราสามารถเรียนเวทย์ทุกอันได้จาก Scrolls อยู่แล้ว แต่ผมแนะนำ 2 อย่างนี้ก่อน

> Shield - ยังต้องบอกความสำคัญของเวทย์นี้กันอยู่มั๊ยครับ 555+ เวทย์ Reaction สายป้องกันที่จะทำให้คุณได้ AC+5 ไปจนกว่าจะถึงเทิร์นของคุณเลย แถมเวทย์นี้คือเวทย์เดียวที่เอาไว้ป้องกัน Magic Missile ได้แบบ 100% เลยด้วยครับ หรือเรียกว่าเป็นเวทย์แก้ทาง Magic Missile เลยก็ว่าได้ ... อีกอย่างที่ผมแนะนำให้เลือกอันนี้ เพราะมันไม่มี Scrolls ให้เรียนเวทย์นี้นะครับ ต้องได้จากการเลือกตอนเลเวลอัพเท่านั้น


> Longstrider - เวทย์เพิ่มระยะการเดินให้ไกลขึ้น 3 เมตร มีผลยาวทั้งวัน แถมยังเป็นเวทย์แบบ Ritual ที่ไม่ต้องใช้ Slot เวทย์ในการร่ายด้วย ของดีสุดๆ แถมยังเป็นเวทย์สาย Transmutation ที่เหมาะกับ Subclass ที่เราจะเลือกในเวลถัดไปด้วยครับ


Abilities - อันนี้จะยุ่งยากเล็กน้อย เพราะในตอนแรกๆเราจะไม่มีของที่ใช้เพิ่ม Int หรือ Con ดังนั้น ผมจะจัดไว้ให้สองแบบนะครับ สำหรับคนที่มีอุปกรณ์พร้อมกับคนเพิ่งเริ่มเล่น ... โดยผมแนะนำให้อัพ Wis ไว้ 16 ครับ เพื่อให้เราสามารถผ่านเช๊ค Medicine ของสกิล Experimental Alchemy ได้ง่ายขึ้น

Abilities
Score แบบเพิ่งเริ่ม
Score แบบ Respec
Strength
8
14
Dexterity
16
17
Constitution
14
8
Intelligence
12
8
Wisdom
16
16
Charisma
8
10


Skills - อันนี้บังคับเลือก Medicine 1 อันแบบบีบคอเลย ส่วนอันอื่นเลือกอะไรก็ได้ครับ

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 02
Wizard Lv2

Subclass - มุ่งไปที่ Transmutation School เลยครับ เพราะเราจะได้สกิลหนึ่งเดียวในการคราฟยาของเรา นั่นก็คือ ...

Experimental Alchemy
โดยปกติเมื่อเราเปิดหน้า Alchemy แล้วผสมยาหรือยาพิษอะไรซักอย่าง เราจะได้ยานั้นๆมา 1 ขวด แต่ถ้าคุณมีสกิลนี้อยู่ มันจะมีโอกาสในการได้ยานั้นๆเพิ่มมาฟรีอีก 1 ขวดครับ โดยคุณต้องผ่าน Medicine Check DC15 ให้ได้ถึงจะได้ของฟรีมา จึงเป็นเหตุผลที่ผมแนะนำให้อัพ Wis ไว้เยอะๆ เพื่อให้เราผ่านสกิลนี้ได้ง่ายขึ้นครับ

ในช่วงแรกๆที่ Proficiency Bonus เราน้อยๆนี่ ยังไงก็ผ่านยากเพราะโบนัสแค่ 5 แต้ม ก็คือมีผล 50/50 ครับ แต่หลังๆพอเรามี Bonus เยอะๆก็แทบจะทำให้โอกาสได้ยาฟรีนี่สูงถึง 80% เลยทีเดียว แม้จะไม่ได้เยอะแบบ 95%+ เหมือนสายที่เน้นคราฟยาให้ตี้โดยตรง แต่ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่สูงมาก แค่พนมมือให้มัน Roll ผ่านตอนเราคราฟยาเทพๆอย่าง Elixir of Bloodlust อะไรพวกนี้ก็แล้วกันครับ 5555+


Spells - เลือก 2 อย่างที่ชอบได้เลยครับ ผมแนะนำสาย Transmutation School ทั้งหลายที่เป็น Utilities หรือ Ritual ก็ดีนะ ส่วนตัวผมเลือก Magic Missile มาไว้ทำดาเมจแบบแน่นอนช่วงต้นเกมครับ

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 03
Wizard Lv3

Spells - เลือกเวทย์เวล 2 จำนวน 2 อย่าง ผมแนะนำอันนึงที่ควรเลือกไว้ใช้ครับ อีกอันจะเลือกอะไรก็ได้เลย

> Misty Step - เวทย์วาร์ปอเนกประสงค์โดยใช้แค่ Bonus Action เท่านั้น มีไว้เพื่อให้ใช้เข้าออกพื้นที่ต่างๆได้ง่ายขึ้นครับ

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 04
Wizard Lv4

Cantrips - เลือกอะไรก็ได้มาซักอย่างครับ ผมแนะนำเลือก Mage Hand ก็ดีนะ เอาไว้ช่วยเราขว้างระเบิดได้รอบนึงก็ถือว่าดีอยู่ครับ


Spells - เลือกเวทย์เวล 2 อีก 2 อันที่ชอบได้เลย แค่ไหนๆก็มีทางสายเลนแร่แปรธาตุก็เลือก Knock ไว้ก็ได้ครับ เอาไว้ปลดล็อคประตูหรือหีบในกรณีที่ตี้ไม่มีคนเล่นสายนี้


Feat - ในตอนนี้ผมแนะนำให้เลือก Ability Improvement แล้วเพิ่ม Dex+2 ไปก่อนครับ เพราะถ้าเลือก Sharpshooter ตอนนี้เลยจะทำให้คุณยิงว่าวได้เยอะกว่ายิงโดนเพราะของยังไม่พร้อม ... แต่ถ้าคุณ Respec ตัวละคร จะเลือกอันไหนก่อนหลังก็ไม่ซีเรียสครับ

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 05
Wizard Lv5

Spells - ตอนนี้เราจะเลือกเวทย์เวล 3 ได้แล้ว ซึ่งผมขอแนะนำให้เลือก 2 อันนี้

> Counterspell - เวทย์ Anti Magic ที่ใช้ได้ผลดีสุดๆ เมื่อศัตรูร่ายเวทย์เราจะสามารถใช้ Reaction ในการป้องกันการร่ายเวทย์นั้นของศัตรูได้ โดยศัตรูจะเสีย Action Point และ Spell Slot ในการร่ายเวทย์นั้นไปฟรีๆเลย ถือว่าเป็นของดีที่คุณคู่ควรครับ แถมเวทย์นี้ไม่มี Scroll ให้เราเรียนด้วย ยังไงก็ควรเลือกไว้นะ


> Haste - เวทย์ที่สำคัญมากๆสำหรับทุกคน เพราะจะเพิ่ม Action Point ให้กับคนที่เราร่ายใส่อีก 1 แต้ม หมายความว่า คุณจะสามารถโจมตีหรือขว้างระเบิดใส่ศัตรูได้อีก 2 รอบเลย แต่เวทย์นี้ต้องการ Concentration นะครับ ดังนั้นจะใช้กับเวทย์ที่ต้อง Concentrate ไปด้วยไม่ได้นะ

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 06
Wizard Lv6

ในเลเวลนี้จะเป็น Wizard เลเวลสุดท้ายที่เราอัพครับ เพราะเราจะได้สิ่งที่เราต้องการจาก Transmutation อีกอย่างมา นั่นก็คือ ...

Transmuter's Stone
สกิลสำหรับการสร้างหินบัฟ สามารถเลือกได้ 8 แบบ จะให้เราหรือเพื่อนถือก็ได้ และยังสามารถสร้างได้อีกครั้งหลังจาก Long Rest หรือหลังจากเราใช้เวทย์สาย Transmutation Lv1 ขึ้นไปครับ ซึ่งเวทย์อย่าง Longstrider หรือ Enhanced Jump ที่เป็น Ritual ก็จะทำให้เราสร้างหินนี้ได้เรื่อยๆ แต่มันก็จำกัดแค่ 1 ก้อนต่อ 1 คนสร้างเท่านั้นนะครับ แค่จะสามารถเปลี่ยนประเภทหินได้เรื่อยๆแค่นั้น

เรามาดูกันดีกว่าว่าหินบัฟของเรานี่มีอะไรกันบ้าง
  • Transmuter's Stone: Constitution - ทำให้คนที่ถืออยู่ ได้ Proficiency Bonus ไปบวกให้กับ Con ด้วย ใช้ได้ผลดีมากสำหรับคนที่ต้อง Concentrate เวทย์ต่างๆ
  • Transmuter's Stone: Darkvision - ทำให้คนที่ถืออยู่ มองเห็นในที่มืดได้ 18 เมตร ก็ถือว่าโอเคสำหรับเผ่ามนุษย์หรือเผ่าที่ไม่มี Dark Vision ครับ
  • Transmuter's Stone: Speed - ทำให้คนที่ถืออยู่ เดินได้ไกลขึ้น 3 เมตร ในความเห็นของผม อันนี้คือดีและใช้งานได้กับทุกคนครอบคลุมที่สุดครับ หากไม่ได้มีความจำเป็นต้องเลือกอันอื่นก็เลือกอันนี้แหละ
  • Transmuter's Stone: Acid Resistance - ทำให้คนที่ถืออยู่ ได้ค่า Resistance ธาตุ Acid ทำให้โดนดาเมจธาตุนี้เบาลงครึ่งนึง
  • Transmuter's Stone: Cold Resistance - ทำให้คนที่ถืออยู่ ได้ค่า Resistance ธาตุน้ำแข็ง ทำให้โดนดาเมจธาตุนี้เบาลงครึ่งนึง
  • Transmuter's Stone: Fire Resistance - ทำให้คนที่ถืออยู่ ได้ค่า Resistance ธาตุไฟ ทำให้โดนดาเมจธาตุนี้เบาลงครึ่งนึง
  • Transmuter's Stone: Lightning Resistance - ทำให้คนที่ถืออยู่ ได้ค่า Resistance ธาตุสายฟ้า ทำให้โดนดาเมจธาตุนี้เบาลงครึ่งนึง
  • Transmuter's Stone: Thunder Resistance - ทำให้คนที่ถืออยู่ ได้ค่า Resistance ธาตุ Thunder ทำให้โดนดาเมจธาตุนี้เบาลงครึ่งนึง

ก็ถือเป็นหินบัฟที่มีประโยชน์และมีโอกาสได้ใช้งานทุกอันเลย ส่วนจะใช้อันไหนในสถานการณ์ไหนก็ขึ้นอยู่กับคุณเลยครับ


Spells - เลือกเวทย์เวล 3 สองอัน ผมแนะนำดังนี้

> Glyph of Warding - เวทย์กับดักที่เราคุ้นเคย สามารถเลือกประเภทดาเมจธาตุต่างๆได้ด้วย เอาไว้ทำดาเมจ AOE ใส่ศัตรูได้ครับ

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 07
Wizard Lv6 / Rogue Lv1

Class - Rogue ซึ่งเราจะอัพแค่เลเวลเดียวเท่านั้นครับ เพราะเราต้องการแค่ Expertise ในสกิล Medicine ซึ่งจะเพิ่ม Proficiency Bonus เข้าไป 2 เท่า แค่นั้นเลย แต่เราก็จะได้ Sneak Attack มาด้วย ถึงจะเป็นสกิลที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาก แต่ก็เป็นของแถมที่ดีครับ โดยผมจะขอยกคำอธิบายคร่าวๆของสกิลนี้จากบิ้วเก่ามาเลยนะ

Sneak Attack
โดยเมื่อเราได้ Advantage ในการโจมตีศัตรูตัวนั้นๆ หรือมีเพื่อนเรายืนติดศัตรูตัวนั้นอยู่ เราจะสามารถใช้สกิลนี้ในการเพิ่มดาเมจกายภาพได้ 1-6 หน่วย ใช้ได้แค่เทิร์นละ 1 ครั้งและใช้ได้แค่กับอาวุธสาย Finesse และอาวุธระยะไกลเท่านั้น ซึ่งดาเมจของสกิลนี้จะเพิ่มเต๋า 1d6 ทุกๆ 2 เวลของคลาส Rogue นั่นก็คือ
> Rogue เลเวล 1 จะได้ดาเมจเพิ่มจากสกิลนี้เป็น 1-6 หน่วย
> Rogue เลเวล 3 จะได้ดาเมจเพิ่มจากสกิลนี้เป็น 2-12 หน่วย
> Rogue เลเวล 5 จะได้ดาเมจเพิ่มจากสกิลนี้เป็น 3-18 หน่วย
> Rogue เลเวล 7 จะได้ดาเมจเพิ่มจากสกิลนี้เป็น 4-24 หน่วย
> Rogue เลเวล 9 จะได้ดาเมจเพิ่มจากสกิลนี้เป็น 5-30 หน่วย
> Rogue เลเวล 11 จะได้ดาเมจเพิ่มจากสกิลนี้เป็น 6-36 หน่วย

โดยในบิ้วนี้เราจะอัพ Rogue แค่เวล 1 ทำให้ได้ดาเมจจากสกิลนี้แค่ 1-6 หน่วยเท่านั้น แต่ก็ยังสามารถใช้งานได้นะครับ ผมแนะนำให้กดติ๊กถูกใน Reaction ไว้ให้หมดให้เราสามารถเลือกใช้เป็นดาเมจเพิ่มเติมได้


อีกอย่างในเลเวลนี้ เราจะเลือก Skills เพิ่มได้ 1 อันและ Expertise สำหรับสกิลที่เรามี Proficiency ได้อีก 2 อัน นอกจาก Medicine ที่บังคับเลือก นอกนั้นก็เอาตามที่ถนัดเลยครับ

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 08
Wizard Lv6 / Rogue Lv1 / Ranger Lv1

Class - Ranger ครับเพราะเราต้องการ Extra Attack และ Archery Fighting Style จากคลาสนี้ แถมคาสนี้ยังเป็น Half-Caster และใช้ประโยชน์จาก Wis Modifier ในการร่ายเวทย์ได้ ก็ถือว่าเหมาะสมในการมัลติเข้ามาในบิ้วนี้ครับ

Favoured Enemy - เลือกศัตรูที่เราชอบล่า 1 อย่างตามที่ชอบได้เลยครับ ส่วนตัวผมเลือก Ranger Knight เพื่อให้ใส่เกราะหนักได้


Natural Explorer - สภาพแวดล้อมที่ชื่นชอบ อันนี้ผมแนะนำ Wasteland Wanderer ที่เอาไว้ป้องกันดาเมจธาตุพิษครับ เพราะธาตุไฟกับน้ำแข็งเราสามารถได้จากอุปกรณ์หรือหินบัฟได้


Skills - เลือกเพิ่มความถนัดในสกิอได้อีก 1 อย่าง ผมแนะนำ Perception หรือ Survival ครับ สองอันนี้ได้ใช้งานเยอะอยู่

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 09
Wizard Lv6 / Rogue Lv1 / Ranger Lv2

Spells - ผมแนะนำให้เลือก Hunter's Mark และ Ensnaring Strike ครับ เพราะได้ใช้ประโยชน์จากทั้งสองอย่างนี้ในต้นเกมยันท้ายเกมได้ดีมากๆ

> Hunter's Mark - สำหรับสาย Ranger นี่เป็นเวทย์ Must Have เลยครับ เพราะเป็นเวทย์เวล 1 ที่ใช้แค่ Bonus Action ในการร่าย โดยเป็นเวทย์แบบ Concentration ... เมื่อศัตรูที่โดน Mark โดนโจมตีด้วยพวก Weapon Attack ศัตรูตัวนั้นจะได้รับดาเมจเพิ่มครับ และหลังจากที่ศัตรูนั้นตายไปโดยเรายังไม่หลุด Concentrate เราจะสามารถร่าย Mark ใส่ศัตรูตัวอื่นได้ฟรีไม่เสีย Slot เวทย์อีก ... เป็นเวทย์เวล 1 ที่คุ้มค่าและมีประโยชน์มากๆตั้งแต่ต้นเกมเลยครับ


> Ensnaring Strike - โจมตีเพื่อตรึงศัตรูไม่ให้เคลื่อนที่ไปไหนได้ เป็นเวทย์ Concentration ที่ใช้ได้ดีระดับนึง เวลาเราต้องการล็อคการเคลื่อนที่ของศัตรูครับ แถมเวทย์นี้ยังได้รับผลจากสกิล Extra Attack ด้วยนะ ถือเป็นตัวเลือกที่ดีอันนึงครับ


Fighting Style - สายยิงไกลแบบนี้ แน่นอน Archery สิครับ เพราะเราจะได้ Bonus +2 Attack Roll เวลาใช้อาวุธระยะไกล เอาไว้ช่วยยื้อผล Attack Roll -5 จากสกิล Sharpshooter: All-In ได้ดีมากๆด้วย

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 10
Wizard Lv6 / Rogue Lv1 / Ranger Lv3

Subclass - แนะนำเลือกสาย Hunter ครับ โดยเราจะได้ Class Feature อีกอย่างมา นั่นคือ ...


Hunter's Prey - Colossus Slayer ครับ เพราะเมื่อเราโจมตีศัตรูที่เลือดไม่เต็ม จะทำดาเมจเพิ่มได้ 1-8 หน่วย ใช้ได้ 1 ครั้ง/เทิร์น ซึ่งก็ได้ผลดีมากๆตั้งแต่ต้นยันท้ายเกมอีกเช่นกันครับ


Spells - เลือกเวทย์เวล 1 อีก 1 อัน เอาอะไรก็ได้ครับ จะเลือก Cure Wound ไว้ฮีลหรือ Hail of Thorns ไว้ทำดาเมจก็ได้นะ

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 11
Wizard Lv6 / Rogue Lv1 / Ranger Lv4

Feat - ก็ Feat เลือกอีกอันที่เราไม่ได้เลือกไว้ตอนเลเวล 4 ครับ ถ้าอัพมาตามไกด์ผม ก็เลือก Sharpshooter ได้เลย

Sharpshooter
เลาใช้อาวุธระยะไกล และเราอยู่ในระดับต่ำกว่าศัตรู เราจะไม่โดนปรับจาก High Ground Rules ครับ โดยที่เรายังสามารถใช้โบนัสจากกฎนี้ได้อยู่ ... อ่ะ พูดง่ายๆคือ ตอนเราอยู่ต่ำกว่าเราจะไม่เสียอะไร แต่เรายังได้ประโยชน์อยู่ถ้าเราอยู่สูงกว่า ... ก็เป็น Feat แบบ Must Have ของมือธนูก็ว่าได้ครับ โดย Feat นี้จะให้สกิล Passive ที่เปิด-ปิดได้กับเราอีกอย่างคือ

Sharpshooter: All In - ลด Attack Roll -5 แต้ม เพื่อแลกกับดาเมจที่เพิ่มขึ้น 10 แต้ม ถ้าเราเลือก Archery Fighting Style ไว้ อันนี้จะเหมือนแค่เรา -3 Attack Roll แต่ได้ดาเมจเพิ่ม 10 หน่วย ซึ่งถือว่าเยอะและคุ้มค่ามากๆครับ ... ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณต้องเป็นคนตัดสินใจเองนะครับว่า จะยิงเอาโดนชัวร์กว่าแต่ดาเมจน้อยกว่า หรือเอาแบบลดโอกาสโดนลงแต่ดาเมจมากกว่า ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และของที่คุณใส่อยู่ด้วยครับ

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 12
Wizard Lv6 / Rogue Lv1 / Ranger Lv5

มาถึงเลเวลสุดท้ายกันแล้ว โดยในเลเวลนี้เราจะได้ Extra Attack มาครับ ทำให้เราโจมตีหรือขว้างระเบิดได้ 2 ครั้ง ต่อ 1 Action Point กันแล้ว ทำให้บิ้วเรามีประสิทธฺภาพมากขึ้นไปอีก หากคุณอัพ Ranger ก่อนตอนเวล 1 ก็ให้อัพมาให้ถึงเลเวล 5 เพื่อเอา Extra Attack นี่ก่อนก็ดีครับ


Spells - เลือกเวทย์เลเวล 3 มา 1 อัน ผมแนะนำ Spike Growth เอาไว้ถ่วงการเคลื่อนไหวของศัตรูแถมทำดาเมจใส่ศัตรูที่เดินผ่านได้ด้วย แต่ตอนใช้ต้องระวังหน่อยนะครับ เนื่องจากมันมี AOE ที่กว้างมากและโดนพวกเดียวกันได้ด้วย


เป็นอันจบการอัพเลเวลทั้งหมดเพียงเท่านี้ เราไปดูส่วนของอุปกรณ์กันต่อเลยครับ
Equipment อุปกรณ์สวมใส่ที่จำเป็น
MINOR SPOILER ALERT!!!

สำหรับอุปกรณ์สวมใส่ที่จำเป็นนี่ ยังไงก็คงหลีกเลี่ยงการสปอยได้ยาก ... แต่ก็เช่นเดิม ผมจะทำแถบปิด Spoiler เอาไว้ และจะ Spoil ให้น้อยที่สุดครับ

หากใครกลัวพลาดหรือแค่อยากรู้ว่าชิ้นไหนทำอะไรได้บ้างจริงๆ ให้ข้ามไปดูสรุปข้อมูลได้เลย

Helmet ส่วนหัว/หมวก
Warped Headband of Intellect

หาได้จาก Blighted Village ใน Act 1 ... ดรอปจาก Lump The Enlightened ออร์คตัวใหญ่ที่สุมหัวกันอยู่ในหมู่บ้านร้าง

Cloak ส่วนผ้าคลุม
Cloak of Protection

หาซื้อได้จาก Quartermaster Talli ที่ Last Light Inn ใน Act 2

Armor/Clothing ส่วนเกราะ/ชุด
Unwanted Masterwork Scalemail

หาซื้อได้จาก Dammon ที่ Baldur's Gate ใน Act 3 Dammon จะต้องไม่ตายใน Act 1 (ต้องเลือกช่วย Druid Grove) และ Act 2 (ต้องเลือกช่วย Isobel) นะครับ ถึงจะมีให้ซื้อใน Act 3 ได้

Gloves ส่วนถุงมือ
Legacy of the Masters

หาซื้อได้จาก Dammon ที่ Forge of Nine ใน Act 3

Boots ส่วนรองเท้า
Evasive Shoes

หาซื้อได้จาก Mattis ที่ Last Light Inn ใน Act 2

Amulet ส่วนสร้อยคอ
Amulet of Greater Health

ได้จาก House of Hope ใน Act 3 อยู่ในห้องโชว์ Artifact ที่เดียวกันกับ Orphic Hammer

Rings ส่วนแหวน
Caustic Band

หาซื้อได้จาก Derryth Bonecloak ที่ Myconid Colony ใน Underdark Act 1

Ring of Protection

หาได้จาก Druid Grove ใน Act 1 ... เป็นรางวัลของเควส Steal the Sacred Idol ของ Mol หลังจากที่เราไปขโมยรูปปั้นมาให้เธอแล้ว

Melee Weapon ส่วนอาวุธประชิด
Rhapsody

หาได้จาก Szarr Palace ใน Act 3 ... ดรอปจาก Cazador Szarr ในตอนจบเควสไลน์ของ Astarion

Drakethroat Glaive

หาซื้อได้จาก Roah Moonglow ที่ Moonrise Towers ใน Act 2

Shield ส่วนโล่
Viconia's Walking Fortress

โล่ที่ดีที่สุดในเกม ดรอปจาก Viconia ที่ House of Grief ใน Act 3 ... โดยถ้าเล่นปกติ เราต้องเลือกฆ่าเธอถึงจะได้ของนะครับ แต่ถ้าจะเลือกปล่อยไปแล้วอยากได้โล่ด้วย หลังจบไฟท์ก่อนคุยให้กดคลิกขวาที่ Viconia แล้วกด Loot ของทั้งหมดมาก่อน จากนั้นค่อยคุยให้ปล่อยไปได้ครับ ผมเทสแล้วว่าสามารถทำได้จริง ณ Patch 6 Hotfix 25

Range Weapon ส่วนอาวุธระยะไกล
Hellfire Engine Crossbow

หน้าไม้ลับที่เราต้องคราฟเอา หาได้จาก Steel Watch Foundry ใน Act 3 … โดยเราต้องหาของ 3 อย่างมาใช้ในการคราฟ คือ Watcher Crossbow Blueprint, Targeting Module และ Steel Watcher Arm ซึ่งหาได้จากในโรงงานชั้นแรก เราสามารถเอาของสามอย่างนี้ไปคราฟเป็นหน้าไม้ได้ที่โต๊ะใน Security Office ของโรงงานครับ
สรุปความจำเป็นของอุปกรณ์แต่ละชิ้น
Warped Headband of Intellect - ใส่เพื่อให้ Int เรากลายเป็น 17 หน่วย
Cloak of Protection - ใส่เพื่อเพิ่ม AC+1 และ Saving Throw +1
Unwanted Masterwork Scalemail - ใส่เพื่อเพิ่ม AC ที่ได้จากโบนัส Dex Modifier เต็มๆ เพราะโดยปกติเกราะ Medium จะเพิ่ม AC ที่ได้จาก Dex จำกัดแค่ +2 แต้ม แต่เกราะนี้สามารถเพิ่มได้สูงสุดเลย เช่น ถ้าเรามี Dex Modifier +5 (Dex 20) เราจะได้ AC จากเกราะนี้ = 16+5 = 21 หน่วยเลย ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถหลบการโจมตีได้เกือบทุกแบบ ยกเว้นเวทย์ดาเมจแบบ AOE แถมเกราะนี้ยังให้ Fire Resistance กับเราด้วย เหมาะกับการใช้ในบิ้วนี้มากครับ
Legacy of the Masters - ใส่เพื่อให้ได้โบนัส Attack Roll +2 และดาเมจ +2 เวลาใช้อาวุธโจมตี
Evasive Shoes - ใส่เพื่อเพิ่ม AC+1 และได้ของแถมเป็น Acrobatics+1 ด้วย
Amulet of Greater Health - ปรับ Constitution ของเราให้เป็น 23 ของดีที่ต้องมีไว้ในครอบครอง
Caustic Band - ใส่เพื่อเพิ่มดาเมจ Acid 2 หน่วยฟรีๆเวลาใช้อาวุธโจมตี
Ring of Protection - ใส่เพื่อเพิ่ม AC+1 และ Saving Throw +1
Rhapsody - ใส่เพื่อเอาสกิล Scarlet Remittance อธิบายง่ายๆคือ เมื่อเราฆ่าศัตรูเราจะได้ Stack สกิล 1 แต้ม (สะสมได้สูงสุด 3 แต้ม) โดยเราจะได้โบนัส Attack Roll, ดาเมจ, และ Spell Save DC ตามจำนวน Stack ที่เรามีอยู่ (สูงสุด +3) ... ซึ่งถ้าเรามี Stack นี้ครบ 3 แต้ม จะสามารถใช้สกิลได้หลายอย่างเลยครับ เช่น บังคับติดคริในการตีครั้งถัดไปหรือ Heal ตัวเองได้ ... แต่ที่เราต้องการจริงๆคือ โบนัส +3 Attack Roll และ +3 ดาเมจครับ ดังนั้น ส่วนอื่นๆที่ได้เกินมา ก็ถือว่าเป็นกำไรไปละกัน
Drakethroat Glaive - ไม่ได้ใส่ แต่เอาไว้ร่ายสกิล Draconic Elemental Weapon ธาตุไฟให้กับ Hellfire Engine Crossbow ครับ
Viconia's Walking Fortress - ใส่เพื่อเพิ่ม AC+3 และได้สกิล Warding Bond (ไม่ได้ใช้ครับ) กับสกิล Reflective Shell ซึ่งดีมากเวลาเล่น Tank แล้วเจอกับกลุ่มศัตรูสายระยะไกล เพราะเมื่อเราเปิดใช้สกิลนี้ มันจะอยู่เป็นเวลา 2 เทิร์น และในระยะเวลานั้น มันจะสะท้อนการโจมตีระยะไกลแบบ Missile ที่เล็งมาที่เราทุกชนิด ใช่ครับ เวทย์ระยะไกลก็สะท้อนได้เช่นกัน นอกจากนั้นยังมี Shield Bash แบบพิเศษที่สามารถทำดาเมจ Force ได้ด้วย ยิ่งใน Patch 6 ขึ้นไปได้แก้ไขบั๊กของ Bash แล้ว ยิ่งทำให้โล่นี้ใช้งานได้เต็มที่มากขึ้นครับ
Hellfire Engine Crossbow - หน้าไม้หนัก อาวุธหลักในการทำดาเมจของบิ้วนี้เลย นอกจากจะเอาไว้ยิงกระสุนธนูพิเศษต่างๆแล้ว หน้าไม้นี้ยังมีสกิล Lightning Arrow Lv4 ให้ใช้ฟรี 1 ครั้ง / 1 Long Rest แถมยังมี Action พิเศษที่ชื่อ Reposition Malefactor ไว้ใช้ในการทำดาเมจครึ่งนึงของปกติ แต่จะดึงศัตรูให้กระเด็นมาหาเราเป็นระยะ 9 เมตรด้วย (Dex Save DC15) ถือเป็นสกิลในการ Repositioning ศัตรูที่ดีมากครับ เพราะใช้ได้เรื่อยๆไม่จำกัดจำนวน ข้อเสียคือ Special Action นี้ไม่นับเป็น Weapon Action ทำให้ไม่ได้รับผลจาก Extra Attack แหม่ น่าเสียดายจริงเชียว
Items อื่นๆที่จำเป็นสำหรับบิ้ว
สำหรับบิ้วนี้ หมวดนี้จะพิเศษหน่อย เพราะใช้ของเสริมเยอะครับ ในส่วนนี้ผมจะแบ่งเป็น 4 หมวดย่อยๆ และแนะนำเฉพาะอันที่จำเป็นเท่านั้นนะครับ คุณอาจจะมีไอเท็มหรือกระสุนอื่นๆที่ชอบใช้มากกว่าพวกนี้ ก็สามารถใช้ได้นะ มันหลากหลายจนผมเอามาลงไว้ในหมวดเดียวไม่หมดเลยล่ะ 555+

1. หมวดยาเสริมพลังและ Elixirs

Elixir of Bloodlust

ยาเทพที่ทุกคนต้องมี ผลของมันคือ เมื่อฆ่าศัตรูได้ จะได้ Action Point คืนมา 1 แต้ม มีผล 1ครั้ง / 1เทิร์น นั่นหมายความว่า ถ้าคุณฆ่าศัตรูได้ในเทิร์นนั้น คุณจะโจมตีฟรีได้อีก 2 ครั้งครับ


2. หมวดยาพิษและ Coatings

Oil of Combustion

น้ำมันเทพที่เหมาะกับบิ้วนี้สุดๆ โดยเมื่อเราเคลือบไปที่ธนูแล้วยิงใส่ศัตรู ศัตรูจะติดสถานะเคลือบน้ำมัน ทำให้เวลาโดนดาเมจไฟจะระเบิดออกสร้างดาเมจไฟ 3-18 หน่วยในระยะ 3 เมตรจากตัวที่ระเบิด ซึ่งทุกอย่างที่อยู่ในระยะจะโดนดาเมจหมด แม้แต่ตัวเราเองด้วย โดยจะเคลือบไว้ที่อาวุธได้ 10 เทิร์น ... ซึ่ง Oil นี้ผมไม่แน่ใจว่าหาจากไหน แต่สามารถคราฟได้จาก Heart-Shaped Rock ที่ดรอปจาก Magma Mephit ... แนะนำว่าให้ใช้ตอนจำเป็นๆหรือในไฟท์ที่ศัตรูเยอะๆแล้วรวบได้ด้วย Blackhole เท่านั้น เพราะแรงระเบิดมันอาจจะโดนพวกเราหรือ NPC สำคัญๆได้ครับ


Crawler Mucus

ยาพิษเคลือบอาวุธ 10 เทิร์น ซึ่งจะเปลี่ยนการโจมตีของอาวุธนั้นให้มีโอกาสในการทำให้ศัตรูติดชา Paralysed ได้ โดยศัตรูจะต้อง Save ให้ผ่าน Con DC11 เท่านั้น ไม่งั้นจะโดนติดชาและทำอะไรไม่ได้ในเทิร์นนั้นไป (มีการทอยเซฟทุกๆครั้งที่เริ่มเทิร์น) โดยศัตรูที่ Paralysed ถ้าโดนการโจมตีในระยะ 3 เมตรจะเป็น Critical Hit 100% ให้ผลคล้ายๆกับเวทย์ Hold ครับ แต่ข้อเสียคือ DC แค่ 11 และถ้าศัตรูเซฟผ่าน จะมีภูมิต้านทานพิษนี้ไปอีก 2 เทิร์นเลย ซึ่งก็ถือเป็นยาพิษเคลือบอาวุธที่ใช้ในการ CC ได้ดีมากๆอันนึง สามารถคราฟหรือหาซื้อได้จาก Fytz the Firecracker และ Echo of Abazigal ใน Lower City ที่ Act 3


3. หมวดระเบิดขว้างแบบ Grenades

Smokepowder Bomb

ระเบิดมือ ทำดาเมจแบบ Force 12-21 หน่วยในระยะ AOE 4 เมตร เรียกว่าเป็นระเบิดมือมาตรฐานในเกมนี้ก็ว่าได้ครับ ไม่สามารถคราฟได้ แต่หาซื้อได้จากร้านค้าสมุนไพรหรือของคราฟยาชั้นนำทั่วๆไปได้


Sanguine Explosive

ระเบิดพิเศษที่ทำดาเมจไฟ 4-32 หน่วย และดาเมจ Force 4-32 หน่วย นี่มีความยุ่งยากในการหามาหน่อยครับ โดยผมขอสรุปวิธีหาให้คร่าวๆ ประมาณนี้
  1. ใน Act 2 ที่ Moonrise Tower คุณต้องทำเควสของ Araj Oblodra
  2. ใน Act 3 เราจะพบกับ Araj Oblodra อีกครั้งแถวๆโรงเตี๊ยมเรือ Blushing Mermaid
  3. เมื่อคุยกับเธอ เธอจะให้ยา Mysterious Potion มา ให้เราดื่มยานั้นครับ (จะทำให้เลือดเราระเบิดได้)
  4. หลังจากนั้น กลับมาคุยกับเธอใหม่ แล้วเลือกบริจาคเลือดให้ไปเป็นตัวอย่างทดลอง
  5. หลังบริจาคเลือดแล้วจะมีระเบิดนี้ขายที่ Araj Oblodra โดยเราสามารถกลับมาบริจาคเลือดได้ 1 ครั้ง / 1 Long Rest และจะมีระเบิดนี้ขาย 2 อันทุกครั้งหลังบริจาคเลือดแล้ว
อันนี้ถือเป็นระเบิดที่ดีมากๆครับ ราคาถูกและดาเมจแรง แต่ตอนใช้งานจริงระยะมันไม่ได้กว้างมากนัก แถมยังต้องระวังโดนตัวเองและเพื่อนด้วยครับ


4. หมวดลูกกระสุน Ammunition

Arrow of XXX Slaying

ธนูที่จะทำให้คุณทำดาเมจใส่ศัตรูประเภทนั้นๆได้ 2 เท่า หาซื้อได้จาก Fytz the Firecracker ใน Act 3 หรือร้านขายอาวุธอื่นๆครับ


Arrow of Many Targets

ธนูยอดนิยมที่เรียกได้ว่าเทพที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะหลังจากยิงใส่ศัตรูตัวแรกทำดาเมจแบบปกติแล้ว สามารถชิ่งไปหาศัตรูอื่นๆในระยะ 18 เมตรและทำดาเมจครึ่งนึงได้อีก 3 ตัวเลยทีเดียว ... ซึ่งไอ้เจ้าดาเมจครึ่งนึงเนี่ย นับแค่ดาเมจจากอาวุธ + Weapon enchantment + Ability Modifier เท่านั้นครับ ไม่นับพวก Damage Rider และดาเมจจากสกิล All-In ดังนั้น ในบิ้วนี้ก็ยังสามารถทำดาเมจใส่ศัตรูที่โดนชิ่งได้รุนแรงอยู่มากครับ แถมใช้คู่กับบาพิษอย่าง Crawler Mucus ได้ดีสุดๆ หาซื้อได้ตามร้านอาวุธทั่วไปเลย


Smokepowder Arrow

หัวธนูติดระเบิด ทำดาเมจไฟ 4-24 หน่วยและ Force 4-24 หน่วย ในระยะ AOE 5 เมตร ซึ่งตัวคนยิงจะไม่โดนดาเมจของธนูนี้ครับ (แต่เพื่อนโดนนะ) ทำให้สามารถทำดาเมจใส่ศัตรูวงกว้างได้ดี ยิ่งถ้าใช้คู่กับ Oil of Combustion และ Arrow of Many Targets นี่ยิ่งระเบิดระเบ้อมากๆ หาซื้อได้จาก Fytz the Firecracker ใน Act 3 หรือร้านขายอาวุธอื่นๆครับ


Arrow of Transposition

ธนูสำหรับใช้แทน Misty Step โดยเราจะวาร์ปไปในจุดที่เรายิงธนูนี้ไป ใช้ได้ดีในการ Repositioning ตัวเราเองให้ขึ้นไปอยู่ High Ground หรือหลบหนีจากการถูกศัตรูล้อมได้ครับ แถมไม่ทำให้เราหลุด Stealth ด้วย ใช้ในการรอบเล้นได้ดีเลยล่ะ หาซื้อได้จาก Dammon และ Quartermaster Talli ใน Act 2 หรือร้านขายอาวุธอื่นๆครับ
Illithid Powers & Passive Bonus ที่จำเป็น
MAJOR SPOILER ALERT!!!

จริงๆถึงไม่มีพวกนี้ก็เล่นได้ แต่ถ้าอยากไปให้สุดก็ควรต้องมีบัฟและสกิลพวกนี้ครับ ผมจะแบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆก่อน คือ 1.Illithid Powers ที่แนะนำและ 2.Permanent Passive Buff ที่จำเป็นสำหรับบิ้วนี้

Illithid Powers ที่แนะนำกับบิ้วนี้

ผมจะยกมาแค่อันที่จำเป็นๆนะครับ แต่ถ้ามีโอกาสอัพเต็มก็ทำได้เลยครับ ได้ใช้คุ้มแน่นอนเพราะสกิลพวกนี้มัน OP เอามากๆ และก็ไม่ได้ส่งผลกับเนื้อเรื่องในเกมมากมายอย่างที่เรากลัวด้วยครับ

Luck of the Far Realms
เมื่อเราโจมตีศัตรูโดน จะสามารถบังคับติด Critical ได้ ใช้ได้ 1 ครั้ง / 1 Long Rest ถือว่าเป็นสกิลที่จำเป็นสำหรับสายโจมตีเลยครับ เพราะเราจะบังคับติดคริได้
Cull the Weak
เมื่อเราลดเลือดศัตรูให้ต่ำกว่าจำนวน Tadpole ในหัวเรา ศัตรูจะตายทันทีและระเบิดทำดาเมจพลังจิตใส่ศัตรูใกล้เคียงอีก 1-4 หน่วย เป็นสกิลที่ดีมาก สำหรับคนที่ใช้พลังของ Tadpole เยอะๆอยู่แล้ว เพราะถ้าคุณอัพเกรดจนครบ แค่คุณลดเลือดศัตรูลงมาเหลือแค่นิดหน่อยก็สามารถฆ่าศัตรูตัวนั้นได้ทันที พูดง่ายๆคือ ยิ่งใช้หนอนมาก สกิลนี้ก็ยิ่งได้ผลดีมากขึ้น และบอกลาความเซ็งตอนศัตรูเหลือเลือด 1 ไปได้เลย
Fly
อีกสกิลที่ตรงตามตัวเป๊ะๆเลย ทำให้เราสามารถเคลื่อนที่ได้ดีกว่าเดินปกติมากๆ ซึ่งสกิลนี้จะได้มาฟรีๆ เมื่อเรายอมเปิดใจรับพลังจาก Astral Tadpole ที่ได้จาก The Emperor ในตอนต้น Act 3 ครับ (แต่ต้องยอมลดสวยลดหล่อ มีเส้นเลือดดำขึ้นหน้านะ 5555)
Blackhole
สกิลจำเป็นเลยครับ ถ้าคุณอยากจะปาระเบิดหรือยิงธนูระเบิดทำดาเมจให้ได้มากที่สุด ก็อาจจะต้องรวบศัตรูมากองรวมกันก่อนครับ 555 จะอัพไปสกิลนี้ได้ เราต้องเลือกยอมเปิดใจรับพลังจาก Astral Tadpole ที่ได้จาก The Emperor ในตอนต้น Act 3 ครับ และผมแนะนำให้ตัวละครที่จะเล่นบิ้วนี้ไปเอาบัฟ Passive: Awakened ที่จะอธิบายไว้ด้านล่างด้วยครับ

Permanent Passive Buff ที่จำเป็นกับบิ้วนี้

ผมจะยกมาแต่อันที่จำเป็นนะครับ แต่ถึงพลาดไปก็ไม่เป็นไร แค่อย่างน้อยขอให้ได้บัฟ Dex+2 จากตอน Act 3 ได้ก็พอ ... ถ้าไม่ได้บัฟเลยถามว่าเล่นได้มั๊ย ก็เล่นได้ครับ แต่จะไม่สุดเท่าคนที่มีบัฟแค่นั้นเอง

[Act 1] Passive: Awakened จากเครื่อง Zaith'isk ใน Crèche Y'llek
บัฟนี้จำเป็นมากๆสำหรับคนที่ใช้พลัง Tadpole และไม่ค่อยได้ใช้ Bonus Action เป็นดาเมจหลัก เช่น พวกนักเวทย์ทั้งหลาย และบิ้วนี้ก็เช่นกันครับ ... เมื่อคุณ Awakened แล้วมันจะทำให้ Illithid Powers ทุกอย่างที่ใช้ Action Point มาใช้ Bonus Action แทน ถือว่าเป็นทางเลือกในการใช้ Bonus Action ที่ดีครับ แต่ยังไง ถ้าเล่นตี้ก็ต้องลองดูความจำเป็นและเหมาะสมของ Role คนในทีมด้วยนะครับ บางคนอาจจะต้องการมันมากกว่าเรานะ

[Act 1] Abilities+1 จากหนังหัวของป้าแม่มด Ethel
ได้จากการปราบป้า Ethel ในรังแม่มดที่ Act 1 ก่อนป้าจะตายจะทำการต่อรองให้เราไว้ชีวิตโดยแลกกับหนังหัวเพิ่มค่า Abilities ค่าใดค่าหนึ่ง จำนวน 1 แต้มครับ ... เช่นเดิม ลองดูความจำเป็นคนในทีมด้วยก็ดีครับ

ถ้าเราจะเอาค่าโบนัสจากข้อนี้ ผมล็อคคอให้เลือก Dex และไปปรับ Dex ตอน Respec ตัวเราให้เป็น 17 หน่วยได้เลยครับ

[Act 3] Abilities+2 จากกระจก Mirror of Loss
หลังจากทำเควสของ Shadowheart ใน House of Grief แล้ว เข้าไปห้องด้านในที่เจอพ่อแม่ของน้อง จะมีกระจก Mirror of Loss อยู่ ตรงนี้ผมแนะนำให้เซฟไว้ก่อนนะครับ เพราะกระจกนี่ต้องผ่าน Skill Check หลายรอบมาก ผมจะเรียงไว้ให้คร่าวๆประมาณนี้
1. การ Activate กระจก ต้องผ่าน Skill Check สองอย่างคือ Religion (DC20) และ Arcana (DC25)
2. หลัง Activate กระจกแล้ว คนที่จะเพิ่ม Stat ต้องผ่าน Skill Check Religion (DC25) ของใครของมันเป็นรายบุคคลไป
3. หลังจากผ่านเช๊คทั้งหมดแล้ว เราจะสามารถมอบ Abilities 1 ใน 6 อันไหนก็ได้ของเราให้กับกระจก 2 แต้ม แล้วจะสามารถเลือกเพิ่ม Abilities 1 ใน 6 อันไหนก็ได้ของเรา 2 แต้มแทน เช่น คุณอาจะแลก Wis-2 แล้วเอา Cha+2 แทน
4. หลังจากเลือกได้แล้ว ให้ใช้ Remove Curse ลบคำสาปที่โดน -2 อยู่ ก็จะทำให้เรามีบัฟ +2 Abilities ที่เราเลือกไว้ฟรีๆอย่างถาวรครับ
5. ทำซ้ำข้อ 2-4 กับตัวละครอื่นๆได้ ยกเว้นจะเฟล Skill Check คนนั้นจะอดบัฟนี้ไปเลยถาวรครับ

ข้อนี้ บังคับเลือก Dex+2 เช่นกันครับ

จาก 2 ข้อบน ถ้าคุณอัพ Dex เริ่มที่ 17 แต้ม แล้วคุณได้ Dex+3 คุณจะสามารถมี Dex สูงสุดที่ 22 แต้มเลย (Dex Modifier+6) แต่ถ้าคุณได้แค่ Dex+2 ก็ให้ไปปรับ Dex ตอน Respec ให้เหลือ 16 แต้มแทนครับ คุณก็จะมี Dex สูงสุดที่ 20 ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอใช้งานได้แล้วเช่นกัน
วิธีการเล่นของบิ้วนี้โดยละเอียด
Role และแนวทางการเล่น
นอกจากจะเป็น Support ในการคราฟยาให้ทีมแล้ว ยังสามารถทำหน้าที่ Range DPS แบบ AOE ได้ดีมากๆด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจากบิ้วนี้จะเน้นหาของในการคราฟยา Coating เคลือบอาวุธมากกว่าบิ้วอื่นๆ ดังนั้น หลังจาก Long Rest แล้วคุณควรจะตระเวน Shopping ตามร้านค้าต่างๆ เพื่อหาซื้อลูกธนู ระเบิด หรือส่วนผสมยาทั้งหลายให้เป็นนิสัยไว้นะครับ แม้บิ้วนี้จะเล่นแบบ Range DPS ธรรมดาๆก็ได้ แต่มันจะไปสนุกอะไร ถ้าเราเป็น Alchemist ที่ไม่มีระเบิดอยู่กับตัว ถูกมั๊ย?

ในส่วนของดาเมจนั้น ถ้าจะเอา DPS สูงๆใส่ศัตรูหลายๆตัวก็น่าจะเป็นการใช้ Crawler Mucus หรือ Oil of Combustion ร่วมกับธนูเทพอย่าง Arrow of Many Targets เพราะจะได้ผลจากสกิล Sharpshooter: All-In และทำดาเมจได้มหาศาล ... แต่ถ้าคุณชอบทำดาเมจ Fire และ Force ใส่ศัตรูแบบวงกว้าง ก็สามารถใช้ Smokepowder Arrow ยิงหรือจะขว้างระบิดมืออย่าง Sanguine Explosive หรือ Smokepowder Bomb ก็ได้ครับ นอกจากนั้น คุณยังสามารถขว้างยาไปฮีลเพื่อนได้ด้วย เรียกได้ว่า ทำได้แทบทุกอย่างที่นักเล่นแร่แปรธาตุทำได้เลยล่ะ

การเตรียมพร้อมแบบ Step by Step

1. กินยา Elixir of Bloodlust
สรรพคุณตามที่แจ้งไว้แล้ว การได้ Action Point คืนในเทิร์นๆนึงนี่คือ เราจะโจมตีได้มากขึ้นอีก 2 ครั้งเลย

2. ร่ายเวทย์ Transmuter's Stone ชนิดที่เราต้องการ เก็บหินใส่ตัวไว้
บัฟฟรีที่ใครๆก็ชอบ ถ้านึกอะไรไม่ออก ก็เอาหินบัฟเดินไกลขึ้น 3 เมตรมาเลยครับ

3. ร่ายเวทย์ Longstrider ใส่ตัวไว้
เวทย์แบบ Ritual ที่ไม่เสีย Slot เวทย์ แถมยังทำให้เราเดินได้ไกลขึ้น 3 เมตรและอยู่ยาวจนกว่าจะ Long Rest ... เอ้า รออยู่ทำไม ร่ายเลยสิครับ 5555+

4. ดรอปหน้าไม้ไว้ที่พื้น ใส่ Drakethroat Glaive แล้วบัฟดาเมจไฟให้หน้าไม้
มาถึงขั้นตอนในการเพิ่มดาเมจให้ตัวเรากันแล้วครับ โดยเริ่มจากการใส่ง้าว Drakethroat Glaive เพื่อให้ได้สกิล Draconic Elemental Weapon ซึ่งสกิลนี้จะบัฟให้อาวุธใดๆมีดาเมจธาตุที่เลือก 1-4 ดาเมจ ซึ่งในบิ้วนี้ผมแนะนำให้เลือกเป็นดาเมจไฟเพราะเราจะเอาไว้ Trigger Oil of Combustion ได้ครับ

5. ร่าย Haste ก่อนเข้าการต่อสู้ (Optional)
อันนี้จะทำหรือไม่ทำก็ได้ครับ แต่ถ้าทำก็จะได้ Action Point ฟรีไว้โจมตีศัตรูได้อีก 2 ครั้งเลยครับ

การใช้งานบิ้วนี้ในการต่อสู้แบบ Step by Step

บิ้วนี้ทำผมปวดหัวใช้ได้อยู่นะ เพราะคุณสามารถเลือกเล่นได้หลากหลายมาก เอาเป็นว่าผมจะแนะนำแบบคร่าวๆตามที่ผมชอบเล่นและรู้สึกว่ามีประสิทธิภาพดีที่สุดก็แล้วกันนะครับ

1. ให้ดึงศัตรูมากองรวมกันด้วยสกิล Blackhole หรือระเบิด Void Bulb
เพื่อให้เราเลือกทำดาเมจแบบ AOE ได้ง่ายๆ ก็เอาศัตรูมากองใกล้ๆกันไว้ก็ดีครับ

2. โจมตีศัตรูและฆ่าให้ได้อย่างน้อย 1 ตัว เพื่อให้ผลของยา Bloodlust ทำงาน
ข้อนี้ผมแนะนำให้เน้นตัวที่เลือดน้อยๆก่อนเพื่อเอา Action Point ฟรีจากผลของยา Blooslust ครับ นอกจากนั้นเรายังจะได้โบนัสจากสกิล Scarlet Remittance จากมีดด้วย ซึ่งจะบวก Attack Roll และดาเมจได้มากสุดถึง 3 แต้มเลยทีเดียว

3. เลือกใช้คอมโบอุปกรณ์ต่างๆในการกำจัดศัตรูให้สิ้นซาก
ข้อนี้ถ้ารวบศัตรูในข้อ 1 มาไว้ดีๆ อาจจะทำให้จบไฟท์เล็กๆใน 1 เทิร์นได้เลยนะครับ โดบผมจะขอแจงรายละเอียดคอมโบต่างๆคร่าวๆสั้นๆให้ไม่ยาวเกิน ดังนี้
  • Oil of Combustion + Arrow of Many Targets - เอาไว้ใช้สำหรับจัดการศัตรูหมู่มากในพริบตา เป็นคอมโบเน้นดาเมจที่รุนแรงมากๆอันนึงเลยครับ เพราะเมื่อคุณโจมตีให้ศัตรูติดผลจาก Oil แล้ว พอคุณโจมตีด้วยธาตุไฟใส่ศัตรูตัวนั้น มันก็จะระเบิดทำดาเมจไฟใส่ทุกคนรอบๆอีก ยิ่งใช้กับดอกธนูติ๊ดชิ่งนี่ด้วยแล้ว บอกเลยว่าระเบิดกันต่อเนื่องการันตีความสะใจแน่นอน
  • Crawler Mucus + Arrow of Many Targets - คล้ายๆกับข้อบนแต่เป็นการทำ CC แบบหมู่แทน
  • Crawler Mucus + Arrow of XXX Slaying - เหมาะกับการทำดาเมจมหาศาลพร้อม CC ใส่ศัตรูตัวเดียว เช่น การยิงใส่บอสหรือศัตรูที่เก่งๆเลือกเยอะๆครับ
  • Smokepowder Arrow - อันนี้ไม่ได้ดาเมจสูงเหมือนกับอันบนๆ แต่ก็ทำดาเมจ Fire และ Force วงกว้างได้ดีมากๆ แถมยังผลักศัตรูให้กระเด็นกระดอนไปคนละทิศคนละทางด้วย แม้จะไม่ได้มีดาเมจสูงมาก แต่ความระเบิดสะใจนี่มาเต็มจนนึกว่าอยู่ในกองถ่ายไมเคิลเบย์เลยทีเดียว
  • Sanguine Explosive - เหมือน Smokepowder Arrow เวอร์ชั่น Low Cost แต่วงแคบกว่าและไม่ได้มีผลผลักศัตรู ทำให้ศัตรูยังสามารถเกาะกลุ่มกันได้อยู่ครับ
  • Smokepowder Bomb - อารมณ์แบบปาระเบิดมือมาตรฐานเลย ทำดาเมจไม่ได้รุนแรงมาก แต่ใช้ในกรณีที่เราต้องการดาเมจ AOE แบบแน่นอน 100% ก็ถือเป็นทางเลือกในการทำดาเมจได้ดีครับ

จริงๆนอกจากอุปกรณ์ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ก็ยังมีอีกหลายวิธีเล่นให้คุณได้เลือกใช้ตามสถานการณ์เลย เช่น ขว้างยาไปฮีลหรือบัฟเพื่อนเป็นกลุ่ม หรือ จะขว้างยาพิษให้แตกที่พื้นแล้วมา Dip พิษใส่อาวุธกันทั้งตี้ก็ยังได้ ... ใครมีวิธีเล่นสร้างสรรค์ยังไงแบบไหนก็อย่าลืมเอามาแชร์กันด้วยนะครับผม
Conclusion
จบกันไปอีกหนึ่งบิ้วแล้ว สำหรับใครที่อยากได้บิ้วสายถืออาวุธโจมตีระยะไกล ก็ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะครับ ว่าแต่ถ้าใครรู้ว่า Patch 7 จะอัพมาวันไหนก็อย่าลืมมาส่งข่าวกันด้วยนะ 555+ รอฉากจบแบบ Evil จนรากงอกแล้ว

สำหรับคนที่ยังเล่นอยู่หรือมีไอเดียบิ้วอะไร ไม่จำเป็นต้องดีเลิศเลอก็ได้นะครับ ขอแค่เป็นไอเดียมาแบ่งปันกันนี่ก็พอแล้ว เพราะเอาจริงๆเกมนี้ถึงจะอัพได้แค่ 12 เลเวล แต่ก็สามารถบิ้วผสมผสานได้หลากหลายมากมาย จนเป็นเสน่ห์อีกอย่างของเกมนี้ไปเลย ยังไงช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ก็ดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ

ขอให้ทุกท่านยิงหน้าไม้ ขว้างระเบิด คราฟยา กันให้สนุกสะใจ ไว้พบกันใหม่บิ้วไกด์หน้าครับผม
Bonus รวมคลิปการบิ้ว วิธีเล่น และเทสรัน
สำหรับใครที่ขี้เกียจอ่านเรียงความยาวๆของผมนะครับ ลองดูในคลิปด้านล่างได้เลย ผมทำเผื่อไว้ให้แล้ว ... สามารถพูดคุยสอบถามได้จากในคลิปหรือในไกด์นี้ได้เลยนะครับ

คลิปการทำบิ้วตั้งแต่ Level 01-12


คลิปวิธีเล่นแบบคร่าวๆและอุปกรณ์ที่ใช้


คลิป Tactician Solo Test Run

Link Guide&Build อื่นๆที่ผมได้ทำไว้
สำหรับใครที่ขี้เกียจเลื่อนหา หรืออาจจะหาไกด์ไหนไม่เจอ ลองกดไปดูในสารบัญรวมเล่มนี้ได้เลยครับ
https://steamcommunity.com/sharedfiles/filedetails/?id=3140547253