Doki Doki Literature Club Plus!

Doki Doki Literature Club Plus!

Ikke nok vurderinger
สรุปเรื่องราวต่างๆภายในเกม DDLC PLUS (ระวังสปอย!)
Af Ave Maria
คู่มือนี้เป็นการสรุปเรื่องราว เนื้อหา อีสเตอร์เอ้ก อีเมล และเหตุการณ์ต่างๆภายในเกม DDLC PLUS
(พูดง่ายๆก็คือการสปอยเนื้อหาภายในตัวเกมดีๆนี้เอง) ซึ่งถ้าหากใครที่ยังไม่เคยเล่นเกมนี้หรือไม่อยากโดนสปอย
ก็ขอแนะนำให้ไปเล่นเกมนี้มาก่อนรอบหนึ่ง เพื่อที่จะได้เข้าใจเรื่องราวต่างๆภายในเกมมากยื่งขึ้น

เนื่องด้วยทางผู้เขียนมีความชำนาญภาษาอังกฤษอยู่ในระดับเบสิก และเข้าใจเนื้อหาต่างๆภายในตัวเกมเท่าที่ได้ไปค้นคว้าหาความรู้
และได้ไปเล่นเกมมา หากมีการตีความเนื้อหาหรือทฤษฎีภายในตัวเกมผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
2
   
Pris
Føj til foretrukne
Gjort til foretrukken
Fjern som foretrukken
อีเมล์ (Mail1 - Mail3)
[อีเมล์เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องภายในเกม DDLC PLUS ที่จะเล่าเรื่องของเกมผ่านข้อความภายในอีเมล์
ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกันระหว่างสมาชิกภายในทีม ซึ่งก็จะมีให้อ่านเรื่อยๆตามจำนวนเปอร์เซ็นของข้อมูลที่เราได้เก็บภายในเกมนี้ โดยสามารถเพิ่มจำนวนของข้อมูลได้จากการเล่นเกม ตามหาอีสเตอร์เอ้ก ตามเก็บภาพสะสมต่างๆภายในเกม ตัวอย่างเช่น หากเราตามเก็บภาพสะสม เนื้อเรื่อง และอีสเตอร์เอ้กต่างๆภายในเกมได้สำเร็จครบทุกอย่าง ข้อมูลภายในเกมทั้งหมดจะครบ 100% และปลดล็อกอีเมล์ทุกฉบับ]

โดยตัวเกม DDLC PLUS นั้นจะเป็นเกมในรูปแบบของการ “จำลองการใช้คอมพิวเตอร์"
ที่จะให้บรรยากาศเสมือนเราเป็นพนักงานคนหนึ่งภายในทีมที่มาเปิดคอมพิวเตอร์ และตรวจสอบสิ่งต่างๆ
ภายในคอมพิวเตอร์ ทำให้เรามีอารมณ์รู้สึกเหมือนเป็นคนเล่นคอมเครื่องนั้นในเกมจริงๆ
(แต่เราไม่สามารถมองเห็นตัวละครที่กำลังบังคับอยู่ได้ และจะเห็นแค่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เรากำลังใช้งานแทน)

ซึ่งเนื้อเรื่องคร่าวๆภายในเกม DDLC PLUS นั้น เราจะได้สวมบทบาทเป็นพนักงานคนหนึ่งที่ไม่ทราบชื่อ
(ภายในเกมก็ไม่ได้บอกเอาไว้) ได้มานั่งเล่นคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ ซึ่งเราก็สามารถทำกิจกรรมต่างๆ
ภายในคอมพิวเตอร์ได้ ตัวอย่างเช่น เล่นเกม DDLC ภาคแรกอีกรอบ เล่นเกมภาคเสริม ตามเก็บรูปสะสม
และอารต์เวิรค์สวยๆ เปิดเพลงฟัง ตามหาไฟล์ลับและอีสเตอร์เอ้ก และสุดท้ายคือการอ่านอีเมล์

ในส่วนของเนื้อหาภายในอีเมล์นั้น ก็จะเป็นข้อความการสนทนากันในเรื่องต่างๆ ระหว่างพนักงานภายในทีมงานด้วยกันเอง (ทีมงานอันนี้ก็ทีมงานจำลองในเกมนะครับ ไม่ใช่ทีมงานของพี่เดนจริงๆในชีวิตจริง )
โดยเรื่องราวต่างๆของพนักงานภายในทีมงานนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องในภาคนี้ ที่ขยายต่อออกมา
จากเกมภาคแรกอีกที ซึ่งมันก็จะคลายปมและปัญหาต่างๆของภาคแรก เช่น ทำไมโมนิก้าถึงพังกำแพงที่ 4 ได้
โปรเจคก์ลิบิทิน่าคืออะไร แต่จะไปผูกปมใหม่แทน เช่น เราที่กำลังใช้คอมของทีมงานเป็นใคร
แล้วโมนิก้าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง บริษัทนี้ตั้งใจจะทำอะไรต่อกันแน่



ข้อความสีแดงในภาพในภาพในวงเล็บ คือ ข้อความเกรียนๆจากผู้แปล (ผมเองแหละ) ซึ่งจะไม่อ่านส่วนนั้นก็ได้
ส่วนข้อความสรุปที่ผมวงเล็บไว้คืออธิบายเนื้อหาบางส่วนที่เชื่อมกันหรือขยายความเพิ่มเติม






1.Let's move on (จะได้จากการตามเก็บทุกอย่างภายเกมครบ 100%)



เนื้อหาภายในเมลนี้จะสามารถสรุปได้ว่า
หัวหน้าทีมของเรา นายพอลล่า ไมน์เนอร์ เขาอยากจะจัดตั้งประชุมเกี่ยวกับการหน้าที่ของพนักงาน
และเป้าหมายในการทำงาน เนื่องจากพนักงานภายในทีม วันๆเอาแต่เล่นเก็บข้อมูลภายในเกม DDLC
ทั้งๆที่ก็ได้ข้อมูลภายในเกมมาจนครบแล้ว หัวหน้าจึงวอนขอให้มาช่วยกันเคลียร์งานที่เหลืออยู่
และมาช่วยกันเพิ่มความเสถียร์ให้กับการเชื่อมต่อกับ VM2 (Project Libitina) เพื่อที่จะได้สร้างเกม
ที่สุดยอดและสมจริงยิ่งกว่านี้สำหรับลูกค้าที่มีความสามารถที่ใกล้เคียงกับ MONItor Kernel Access
(ระบบควบคุมและจัดการการเข้าถึงไฟล์)

และได้กล่าวขอบคุณนายโร ทีตเตอร์ ที่ได้ไปดึงข้อมูลจากอีกทีมหนึ่งที่กำลังพัฒนาอีกเกมหนึ่งอยู่
ซึ่งจะเป็นข้อมูลในการเชื่อมต่อข้อมูลกันระหว่างตัวละครทั้ง 2 เกม และมีแผนที่จะเพิ่มความเสถียร์
ของการเชื่อมต่อกับ VM2 ผ่านการทำอะไรสักอย่างภายในตัวเกม

ซึ่งดูเหมือนว่าหัวหน้าทีมเราก็จะพยายามดึงข้อมูลของอีกทีมหนึ่งมาดูผ่านการใช้ระบบ Hyperviser
(ระบบจำลองการใช้งาน) เพื่อนำมาใช้ทดสอบไอเดียต่างๆที่จะสร้างขึ้นมา
โดยมีชื่อ VM ไว้ว่า TEST VM (เราสามารถเข้าไปดูได้ถ้าหากเราสำรวจทุกอย่างครบ 100%
แต่จะเห็นเป็นเพียงข้อความเท่านั้น เนื่องจากหัวหน้าของเราดูดข้อมูลมาในรูปแบบของ Read Only)

(VM หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Vitual Machines หมายถึงระบบจำลองเหตุการณ์ที่ใช้กันทั่วไป
ในเครือข่ายและเซิรฟ์เวอร์ แต่ถ้าในเกม DDLC มันหมายถึง เกมที่ถูกสร้างหรือจำลองขึ้นมา
อย่าง VM1 คือเกม DDLC ส่วน VM2 คือเกม Project Libitina และ Test VM คือข้อมูลที่ไปดูดจาก VM2
เพื่อนำมาใช้ในการศึกษาและทดลองต่างๆ ผ่านระบบ Hyperviser ซึ่งเป็นระบบที่จะจำลองเหตุการณ์
การทำงานของคอมพิวเตอร์)






(ภาพนี้คือข้อมูลต่างๆในของ Project Libitina ที่อีกทีมหนึ่งกำลังพัฒนากันอยู่ ซึ่งหัวหน้าเราก็ได้ไปดึงข้อมูลของอีกทีมมาให้ทีมของเราดูและพยายามทดลองไอเดียต่างๆที่อีกทีมกำลังทำอยู่ )

[คำแปลของข้อความในรูป]
ทำการเชื่อมต่อ….เชื่อมต่อเสร็จสิ้น
พยายามจะแปลงเลขฐานสอง

แปล
(ภาษาต่างดาว) การตื่นขึ้นของตาที่สาม ซึ่งถูกสร้างจากภายในแกนสมองทั้งสองซีก
อันเป็นเหตุให้เกิดลักษณะทางอารมณ์ เช่น สติสัมปชัญญะ อิสระทางความคิด ถึง(ภาษาต่างดาว)

หลุดการเชื่อมต่อ

( มาถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจจะสงสัยกันว่า Project Libitina มันคืออะไร ทำไมมีแต่คนพูดถึงมันเต็มไปหมด
ตามช่องวิเคราะห์เกม DDLC ต่างๆในยูทูป ซึ่งเอาจริงๆแล้วมันคือ เกมใหม่ที่อีกทีมกำลังพัฒนา
โดยเนื้อหาของเกมนั้นเกี่ยวข้องกับการจับเด็กสาวมาทดลองกับอะไรบางอย่าง ที่เกี่ยวกับศาสนาและตาที่สาม ซึ่งมันเป็นอีสเตอร์เอ้กที่ซ่อนอยู่ในไฟล์ของโมนิก้าของเกม DDLC
ถ้าอยากรู้เพิ่มคลิกลิ้งค์นี้--->https://projectlibitina.com/ )






( ประโยคที่ขีดเส้นใต้สีแดงเอาไว้คือ ระบบควบคุมและจัดการการเข้าถึงไฟล์
(หรือพูดง่ายๆก็คือสิทธิ์การเข้าถึงและจัดการไฟล์ในระดับสูงเองครับ)
ดูเหมือนทีมงานคนหนึ่งจะเอามายัดใส่ในตัวละครโมนิก้า โมนิก้าเลยมีสิทธิ์เข้าถึงไฟล์ต่างๆภายในเกม
และสามารถจัดการกับไฟล์ได้ และถึงแม้ไฟล์ตัวละครของโมนิก้าจะหายไป
แต่ค่าที่ได้ตั้งเอาไว้จะถูกย้ายไปยังไฟล์ถัดไปแทน (ก็ไฟล์ตัวละครซาโยรินั้นแหละ) )






2.Binary data in VM2? (จะได้จากการตามเก็บทุกอย่างภายเกมครบ 90%)



เนื้อหาในเมลนี้จะสรุปได้ว่า
คุณโร ทีตเตอร์ ซึ่งเป็นวิศวะกรระบบและเป็นเพื่อนร่วมทีมของเรา
เขาได้สร้างตัวเชื่อมตัวกับ VM2 และสามารถไปดึงเศษซากของข้อมูลที่อีกทีมได้ลบทิ้งไว้ได้แล้ว
รวมมถึงได้ทำการแกะรหัสฐานสองของเศษซากข้อมูลของเกมใหม่ให้เป็นข้อความมาให้ทีมเราอ่านกัน
แต่เพราะการไปดึงข้อมูลจากทีมอื่นมา มันจะทำให้ไทม์เซิรฟ์เวอร์มันทำงานหนักขึ้น
(ไทม์เซิร์ฟเวอร์ ก็คือ เซิร์ฟเวอร์ประเภทหนึ่งที่เป็นเครื่องใช้อ้างอิงเวลาของระบบเพื่อให้เวลา
ของคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องตรงกัน ในหลายองค์กรก็จะใช้การตั้งหรือกำหนดให้เซิร์ฟเวอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง
เป็นไทม์เซิร์ฟเวอร์ของระบบ)

เพราะงั้น เขาก็เลยแก้ปัญหาด้วยการไปตั้งค่าไทม์เซิรฟ์เวอร์ซัก 3 วัน ในสัปดาห์ถัดไป
เพื่อทำให้เศษซากข้อมูลทุกตัวกลายเป็นเลขฐานสองก่อนแล้วค่อยรวบรวมมาแกะรหัสอีกที
แล้วก็จะได้ยลโฉม VM2 ซักที ว่ามันเป็นยังไง และได้บอกปิดท้ายกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆว่า
ไม่ต้องสนใจผมหรอก ให้ไปเล่นอะไรบ้าๆในเกม DDLC ต่อไป ไว้มีข่าวคราวแล้วจะบอก






3.Issues caused by unprotected memory (จะได้จากการตามเก็บทุกอย่างภายเกมครบ 85%)



เนื้อหาในเมลนี้จะสรุปได้ว่า
คุณราวี่ ราโซ เป็นวิศวะกรระบบและเป็นเพื่อนร่วมทีมของเรา
เขาได้ออกมาถามมาว่ามีใครได้ประเมินถึงผลข้างเคียงจากการใช้วิธี(มักง่าย)เอาตัวเก็บข้อมูลของ VM(เกม) หลายๆตัวมาแชร์ร่วมกันแทนที่จะแยกเป็นตัวๆไปเลย เพราะตอนที่เขากำลังตรวจสอบเกม DDLC อยู่
ก็ดันไปเจอว่าเกมนี้มันสร้างไฟล์ขึ้นมาเอง และพบเจอข้อมูลที่ไม่ควรจะเจอในเกม DDLC
อีกทั้งก็ยังไม่เจอหลักฐานหรือต้นเหตุที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา (ก็เพราะว่าข้อมูลจากมันไปสิงอยู่ในไฟล์ตัวละครไง)
ซึ่งเขามองว่าวิธีนี้มันชักจะไม่เข้าท่าซะแล้ว

ซึ่งเขาได้คาดเดาไว้ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้น่าจะเกิดจากการที่ไม่ได้ตั้งค่าข้อมูลจาก VM2 ที่ได้เชื่อมต่อเอาไว้
ให้เป็น 0 ดังนั้นเมื่อมีการเชื่อมต่อระหว่าง VM เข้าด้วยกัน VM1 หรือเกม DDLC จึงสามารถเข้าถึง
และดึงข้อมูลนั้นมาได้
(เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นอีสเตอร์เอ้กของเกม DDLC ในไฟล์ของโมนิก้า ซึ่งภายในไฟล์จะเป็นโค้ดลับให้เราแกะรหัส
และเมื่อแกะได้แล้วก็จะพบกับข้อความของโมนิก้าที่ขอร้องให้เราช่วยกลับไปบอกเพื่อนๆในชมรม
ว่าในโปรเจคลิบิติน่าหรือเกมที่จะออกมาใหม่นั้น ทุกคนในชมรมจะตายกันหมดไม่มีใครรอดซักคนเดียว
อีกทั้งยังเคยมีสมาชิกของชมรมซักคนหนึ่งที่เคยผ่านการทดลองมาแล้วและมีพลังของตาที่สามอยู่
ถ้าใครอยากรู้เพิ่มเติมคลิกลิ้งค์นี้ไปเลยครับ https://medium.com/@etanitinojunin/decode-monika-chr-file-of-doki-doki-literature-club-5526ff373ab2 )


ซึ่งสุดท้ายเขาก็จะลองหาทางแก้ไขด้วยโปรแกรมสแกนและติดตามปัญหา ร่วมถึงฝากให้คนอื่น
ช่วยจับตาดูเอาไว้ด้วยเผื่อว่าจะเจอต้นตอของปัญหา
อีเมล์ (Mail4 - Mail9)
4.Re: Ethics (จะได้จากการตามเก็บทุกอย่างภายเกมครบ 80%)



เนื้อหาในเมลนี้จะสรุปได้ว่า
หัวหน้าทีมเรา นายพอลล่า ไมน์เนอร์ เขาได้ออกมาบ่นถึงรัฐบาล เนื่องจากโดนบังคับให้ต้องเปลี่ยนเนื้อหาภายในเกมให้เบาลง และมานั่งเขียนโค้ดใหม่ ซึ่งเขามองว่ามันเป็นงานของรัฐบาลที่จะต้องจัดการเองมากกว่า
เพราะงานของเขาคือการสร้างเกม อีกทั้งยังมองว่าเรื่องศีลธรรมมันคืออารณ์ด้านลบของเราอย่างความสงสารหรือความโศกเศร้าของมนุษย์ืัมีต่อสิ่งมีชีวิตที่คล้ายมนุษย์เองก็เท่านั้น ไม่เห็นว่าจะมีกฎหมายหรือศีลธรรม
ที่ห้ามฆ่าพืชหรือแบคทีเรียเลย จะมีก็แต่เฉพาะสัตว์ที่เราสามารถมีอารมณ์สงสารให้กับมันได้ก็เท่านั้น
ซึ่งมนุษย์ ใน VM(เกม) ที่ถูกสร้างขึ้นมาแค่ระดับและสภาพของตัวตนก็ไม่เหมือนกับมนุษย์แล้ว
เพราะมันก็เป็นแค่เครื่องจักรที่ถูกตั้งค่าให้รู้สึกเศร้าก็เท่านั้น อย่าได้ไปให้ค่ามันมาก
พวกเราเป็นวิศวะนะครับ ไม่ใช่จิตแพทย์” [/b]

(เหมือนพี่เดนเขาตั้งใจมาล้อเลียนข่าวของแกนะ ถ้าใครยังจำกันได้
เมื่อหลายปีก่อนมีเด็กฆ่าตัวตายเพราะเกมของแก แต่สุดท้ายเหมือนจะเป็นแค่ความเข้าใจผิดกัน
ซึ่งถ้าใครอยากอ่านต่อก็คลิกลิ้งนี้เลยครับ https://web.facebook.com/sookphum.game/posts/196988734339426/ )

https://youtu.be/d8OoWS1rBtU






5.Staying focused on our goals (จะได้จากการตามเก็บทุกอย่างภายเกมครบ 75%)



เนื้อหาในเมลนี้จะสรุปได้ว่า
หัวหน้าทีมเรา คุณพอลล่า ไมน์เนอร์ เขาได้มาถามว่าพอจะมีข้อมูลหรือวิธีอะไรมาช่วยตอบคำถามเหล่านี้ไหม

1.การมอบสิทธิในการควบคุมและจัดการไฟล์ให้กับตัวละครภายในเกม ส่งผลต่ออารมณ์ของผู้เล่นยังไง
2.การมอบสิทธิในการควบคุมและจัดการไฟล์ให้กับตัวละครภายในเกม ส่งผลต่อความคิดและเป้าหมาย
ของผู้เล่นยังไง
3.หากมีใครสักคนได้พยายามเปลี่ยนแปลงไฟล์ภายในเกม เนื้อหาภายในเกมจะแปลเปลี่ยนเป็นเช่นไร
4.สิทธิในการควบคุมและจัดการไฟล์สามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นอาวุธได้ยังไง
5.การกระทำและค่าตัวแปรใดที่ส่งผลต่อจักรวาล(หมายถึงรูทจีบในแต่ละรูท)นั้นพังทลายลงไป
6.และที่สำคัญที่สุด ความคิดเหตุของคุณจะสามารถนำมาปรับใช้กับเกมของเราได้ยังไง
7.แถม เราจะนำเสนอแผนงานนี้ให้เหล่าผู้บริหารบริษัท ในฐานะผลงานที่มีประโยชน์ต่อบริษัทได้ยังไง

และทางหัวหน้าของของเราได้ขอร้องให้บุคคลใดก็ตามที่ได้ไปปรับเปลี่ยนรูปแบบโทนสีของคอมพิวเตอร์
เป็นสีชมพู ให้ช่วยเปลี่ยนเป็นแบบเดิมที เนื่องจากมันเด่นสะดุดตาเกินไป






6.omg (จะได้จากการตามเก็บทุกอย่างภายเกมครบ 70%)



เนื้อหาในเมลนี้จะสรุปได้ว่า
คุณอีฟ ลาสเตอร์ ซึ่งเป็นวิศวะกรระดับสูงและเป็นเพื่อนร่วมทีมของเรา
เธอได้ออกมาถามถึงสมาชิกภายในทีมที่ได้สร้างทวิตเตอร์ให้กับโมนิก้า
ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ออกจะขำกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยซ้ำ
แต่เธอเองก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าคนที่สร้างขึ้นมานั้นทวีตเองหรือใช้บอท

สุดท้ายแล้วเธอเองก็เตือนๆเพื่อนร่วมทีมอยู่เหมือนกันว่าอย่าเอาไปบอกหัวหน้าทีม(คุณพอลล่า)ละกัน
เนื่องจากหัวหน้าเป็นคนที่เคร่งและเอาจริงเอาจังกับงานมาก






7.Character discrepancy (จะได้จากการตามเก็บทุกอย่างภายเกมครบ 65%)



เนื้อหาในเมลนี้จะสรุปได้ว่า
คุณเรวี่ ราโซ ซึ่งเป็นวิศวะกรและเป็นเพื่อนร่วมทีมของเรา
เขาได้ลองทดสอบและรันเกมมาซักระยะหนึ่งแล้ว และก็พบว่าตัวละครบางตัวที่ควรจะปรากฎตัวขึ้นภายในเกม
ได้หายไปจากเดิมที่ควรจะเป็น
และทำให้เขาได้รับรู้ถึงความสามารถในการแก้ไขไฟล์ของโมนิก้า ซึ่งดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก
เพราะว่าโมนิก้านั้นได้สร้างตัวละครของเธอขึ้นมาเอง เพื่อนำมาใช้ในการ บังคับ ติดต่อกับผู้เล่นโดยตรง
ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลหลักที่ว่าทำไมตัวละครภายในเกมถึงต้องมีขีดจำกัดของการกระทำภายในเกม
และมีนิสัยที่แตกต่างกันออกไป
แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตนเองคิดสันนิฐานเอาไว้นั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง บางทีเขาอาจจะคิดมากเกินไปก็ได้
และตัวเขาเองก็จะติดตามและสังเกตุความผิดปกติของตัวละครตัวนี้ต่อไป

(ทางทีมงานได้ตั้งค่าขีดจำกัดของตัวละครเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวละครไปรบกวนผู้เล่นมากเกินไป
ซึ่งโมนิก้าเองก็เคยบอกกับเราในช่วงท้ายเกมเอาไว้ว่า ตนเองนั้นไม่ไปเขียนโค้ดหรือแก้ไขอะไรใหม่เลย
แค่ไปปลดล็อคค่าอะไรบางอย่างของตัวละครก็เท่านั้นเอง เช่น ตอนที่โมนิก้าไปปลดค่าขีดจำกัดของยูริออก
ยูริเลยยันแตก ขโมยปากกาเราไปช่วยตนเองกับรั้งเราให้อยู่หลังเลิกเรียนด้วยกันกับเธอ
หรือจะเป็นตัวของโมนิก้าเองที่ไปปลดขีดจำกัดของตนเองได้ในช่วงตอนท้าย
ทำให้สามารถใช้คำสั่ง CMD ภายในเกมได้อย่างเต็มที่ในช่วงเกือบท้ายเกม )







8.Side Stories (จะได้จากการตามเก็บทุกอย่างภายเกมครบ 65%)



เนื้อหาในเมลนี้จะสรุปได้ว่า
คุณเรอา วอลเท่ร์ ซึ่งเป็นวิศวะกรและเป็นเพื่อนร่วมทีมของเรา
เธอได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่ทำงานกันอย่างหนักไปกับการสร้างเกมในครั้งนี้
เนื่องจากต้องมาช่วยกันซ่อนสิทธิในการควบคุมและจัดการไฟล์ในตัวเกมให้ห่างจากเงื้อมมือของโมนิก้า
แบบสุดฝีมือ โดยที่มันจะไม่ไปรบกวนการเชื่อมต่อกับเกมอื่นๆ

จากนั้นก็มาอธิบายสิถึงเนื้อหาในรายงานที่มีชื่อว่า ไซด์สตอรี่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตัวเกมก่อนหน้านี้ (DDLC)
โดยเธอสังเกตุเห็นถึงความแตกต่างของตัวละครในรายงานนี้ (side story) ตรงที่เหตุการณ์ต่างๆภายในเกม
มีลักษณะที่แตกต่างไปเดิม ซึ่งเธอเองก็ม่แน่ใจว่าเกิดจากการที่พวกเธอไปเปลี่ยนค่าพื้นฐานบางอย่าง
ของไฟล์เกม และการซ่อนสิทธิในการควบคุมและจัดการไฟล์ของโมนิก้า
จนก่อให้เกิดเหตุการณ์ผีเสื้อกระพือปีก (Butterfly effect)
(ผีเสื้อกระพือปีก (Butterfly effect) คือทฤษฎีที่ว่าด้วยการกระทำบางอย่าง สามารถส่งผลกระทบ
ถึงเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ยกตัวอย่างเช่น ทีมอเวนเจอร์ใช้ความสามารถของมิติควอตตัม
ในการย้อนไปในอดีตแล้วไปไล่เก็บหินแห่งพลังมาให้ครบ เพื่อเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต)

หรือว่าจะเป็นผลมาจากการที่โมนิก้าไปทดลองเล่นกับไฟล์ตัวละครของเพื่อนๆในภาคแรกกันแน่

ซึ่งตัวเธอนั้นก็ยังตามไปไล่เก็บทุกจักรวาล(รูท) ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 5 แบบด้วยกัน
โดยมีจักรวาล(รูท) 3 หรือ 4 แบบที่โดนทำลายไปแล้วด้วยฝีมือของโมนิก้า (รูทที่ 1 จบแบบซาโยริตาย
รูทที่ 2 จบแบบนัทสึกึหักคอ และรูทที่ 3 จบแบบปกติที่ซาโยริหลงไหลไปกับพลังของประธานชมรม
ส่วนอีก 2 แบบที่ไม่ใช่ฝีมือของโมนิก้าก็มี รูทที่4 จบแบบลบไฟล์โมนิก้าก่อนเล่นเกม
และรูทที่ 5 จบแบบดีที่ซาโยริยอมยุบชมรมและเกมนี้ทิ้ง






9.Have a nice weekend! (จะได้จากการตามเก็บทุกอย่างภายเกมครบ 55%)



เนื้อหาในเมลนี้จะสรุปได้ว่า
คุณอีฟ ลาสเตอร์ ซึ่งเป็นวิศวะกรระดับสูงและเป็นเพื่อนร่วมทีมของเรา
เธอจะลาพักร้อนในช่วงสุดสัปดาห์หน้า เนื่องจากเก็บข้อมูลมาเป็นอาทิตย์แล้ว
ทำให้ตอนนี้มีข้อมูลอยู่เยอะมาก และคิดว่างานของเธอคงใกล้จะเสร็จในอีกไม่กี่วันนี้
ดังนั้นหากต้องการตารางงานของเซิรฟ์เวอร์ไทม์ให้ไปติดต่อกับราวี่แทน
แล้วค่อยมาจัดประชุมกันต่อเรื่องของผลลัพท์ หลังจากเธอกลับมาจากการพักร้อนแล้ว
ไฟล์ลับภายในเกม (File1 - File3)
ไฟล์ลับ (Secret Files) จะเป็นไฟล์ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในเกม DDLC PLUS
ซึ่งเป็นไฟล์อีสเตอร์เอ้กที่จะบอกใบ้ถึงเนื้อเรื่องและความลับต่างๆภายในเกมนี้ ตัวอย่างเช่น
คอนเซปต์เดิมของเกม DDLC ที่มันควรจะเป็น หลักกระบวนการสร้างเกมของบริษัทนี้
และบุคคลที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงเกม DDLC ให้กลายเป็นเกมสยองขวัญสั่นประสาทในตำนาน
แต่ในขณะเดียวกันก็มีการเพิ่มปมและปัญหาใหม่ๆเข้ามาแทน เช่น ทีมลับที่แอบในบริษัทเป็นใคร ?
ทำไมอีฟถึงแปลกไปจากเดิมที่ควรจะเป็น ? และตัวละครตัวที่ 5 เป็นใครและมาอยู่ในไฟล์เกมได้อย่างไร ?

ไฟล์ลับเหล่านี้ไม่สามารถหาอ่านได้ด้วยวิธีการแบบทั่วๆไป แต่จะต้องทำตามเงี่อนไขที่เกมได้กำหนดเอาไว้
ถึงจะสามารถพบเจอไฟล์ลับเหล่านี้ได้ ผ่านการตั้งวันเวลาและเข้าไปตามหาในโฟลเดอร์ที่ได้กำหนดเอาไว้
ตัวอย่างเช่น เวลา 2.44 ในโฟลเดอร์ internal/2/2/4





ข้อความสีชมพูคือ อีสเตอร์เอ้กจากผู้พัฒนาที่(อาจจะ)อ้างอิงเรื่องบางเรื่องในชีวิตจริง
ส่วนข้อความในวงเล็บคำอธิบายก็คือ คำอธิบายเพิ่มเติมเพื่อทำให้เข้าใจเนื้อหาภายในเกมมากยิ่งขึ้น






1.project plan.txt (อยู่ในโฟลเดอร์ internal/2/2/1 และต้องตั้งค่าเวลาเป็น 2:40 AM or PM.)



เนื้อหาภายในไฟล์นี้จะสรุปได้ว่า
หัวหน้าทีมของเรา นายพอลล่า ไมน์เนอร์ ได้จัดตั้งประชุมขึ้นมาผ่านขึ้นระบบออนไลน์แชต
โดยจัดตั้งประชุมขึ้นมาเพื่อปรึกษาและออกแบบแนวคิดที่จะใช้ในการสร้างเกมขึ้นมา
โดยมีแผนการภาพรวมในการสร้างเกมดังนี้
1.เป็นเกมในรูปแบบของสื่อที่มนุษย์สามารถเข้าใจได้ (เสมือนว่าเราเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในโลกของเกมจริงๆ)
2.จำลองสภาพแวดล้อม (ฉากและแบคกราว์ภายในเกม) ออกมาได้เหมือนจริง
3.ตั้งค่าของตัวแปร (ตัวละคร) เพื่อสร้างตัวละครขึ้นมาเรื่อยๆ
( genetic iterations หรือเรียกอีกอย่างว่า การสร้างพันธุกรรมขึ้นมาซ้ำๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอน
ของ หลักการขั้นตอนวิธีเชิงพันธุกรรม (genetic algorithm) โดยอ้างอิงมาจากทฤษฎีวิวัฒนาการของชีววิทยา
ซึ่งแทนคำตอบที่มีอยู่ให้อยู่ในลักษณะของโครโมโซม แล้วปรับปรุงคำตอบในแต่ละชุด
โดยใช้วิธีการเปลี่ยนแปลงยีนแบบสุ่ม และการวิวัฒนาการเพื่อให้ได้คำตอบที่ต้องการ
ผ่านการสุ่มค่าของประชากรในแต่ละรุ่น ซึ่งในแต่ละรุ่นจะมีคำตอบอยู่หลายชุด และสุ่มค่าของประชากรอยู่เสมอ
เพื่อทำให้ง่ายเกิดการกลายพันธุ์ ซึ่งก็จะทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพบกับคำตอบที่มีค่าที่เหมาะสมตามต้องการ

สรุปง่ายๆคือจะใช้วิธีการเจเนอเรทและตั้งค่าขึ้นมาซ้ำๆ เพื่อใช้ในการสร้างสิ่งต่างๆภายในเกม
ไม่ว่าจะเป็นฉาก ตัวละคร และระบบต่างๆภายในเกม ซึ่งก็จะสร้างไปเรื่อยๆ
จนกว่าจะครบตามเป้าหมายที่กำหนดเอาไว้

และตั้งค่าสิทธิในการเข้าถึงและจัดการไฟล์ของตัวละครภายในเกม ( 1 ตัวหรือมากกว่านั้น)
4.ทำซ้ำๆไปเรื่อยๆจนกว่าเกมจะเสถียร ตามเป้าหมายและเวลาที่กำหนดเอาไว้
5.สังเกตุถึงผลลัพธ์จากการมอบสิทธิในการเข้าถึงและจัดการไฟล์ และการมอบความรู้ให้กับตัวละครภายในเกม
6.เก็บรวบรวมและบันทึกข้อมูลภายในเกม
7.นำชิ้นงานไปเสนอให้กับผู้บริหารเบื้องบนให้ทราบกันโดยตรง และอย่าส่งงานผ่านแบรี่
(ไม่มีการระบุถึงตำแหน่งงาน แต่คาดว่าน่าจะเป็นหัวหน้าแผนกของเรา)

และมีสมาชิกที่จะก่อตั้งทีมขึ้นมาและเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างเกมในครั้งนี้ ได้แก่
1.โร(มีความรู้และความสามารถในการเข้าถึงระบบควอนตัมเซิร์ฟเวอร์ได้)
2.ราวี่(ลูกมือโร)
3.ลิป(จัดการปัญหาต่างๆด้วยโฟลเดอร์ลิป)
4.อีฟ(ต้องมีเธอคนนี้อย่างแน่นอน)
ซึ่งในตอนนี้ยังไม่มีคนอื่นเข้ามาร่วมกับทีมที่ตั้งเอาไว้

โดยงานที่ต้องทำในปัจจุบันนั่นก็คือ VM1 (เกมขนาดเล็ก) และในอนาคตก็จะสร้าง VM2 (เกมขนาดกลาง)
ซึ่งรายละเอียดของ VM1 มีดังนี้
1.เกี่ยวกับวรรณกรรม (เกมจะดำเนินเนื้อเรื่องด้วยข้อความ ทำให้ง่ายต่อการเก็บข้อมูล )
2.ตัวละคร4ตัว
3.เกมมีขนาดเล็ก ส่งผลให้เซิรฟ์เวอร์ และการสร้างเกมด้วยวิธีสร้างค่าซ้ำๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น
4.ใช้ระบบเชื่อมต่อตัวเกมขั้นสูงในการสร้างกล่องข้อความ (หน้าต่าง) ขึ้นมาเพื่อเก็บข้อมูลต่างๆภายในเกม
โดยแลกกับการที่เกมนี้จะไม่ค่อยสมจริง (เพราะในชีวิตจริงมันไม่มีกล่องข้อความเด้งมาให้ดูบทสนทนาหรอกนะ)






2.DDLC.txt (อยู่ในโฟลเดอร์ internal/4/0/4 และต้องตั้งค่าเวลาเป็น 12:55 AM or PM.)



เนื้อหาภายในไฟล์นี้จะสรุปได้ว่า
สมาชิกคนหนึ่งภายในทีม ตัดสินใจที่จะลุกขึ้นมาก่อกบฎและแก้ไขเปลี่ยนแปลงเนื้อหาของเกม
โดยให้เหตุผลว่า พวกเราทำงานกันอย่างหนักภายในบริษัทมาตลอด เพราะงั้นพวกเราก็ควรมีสิทธิ
ที่จะเข้าไปเล่นสนุกกับงานของพวกเราสิ
และได้เชิญชวนให้สมาชิกทุกคนภายในทีมให้เข้ามามีส่วนร่วมในการกบฎครั้งนี้
โดยยื่นข้อเสนอไปว่า หากเข้าร่วมกับการกบฎในครั้งนี้ เป้าหมายในการสร้างเกมจะถูกเปลี่ยนไป
และจะสร้างลูกเล่นใหม่ๆอย่างการเชื่อมต่อกับเกมแบบเรียลไทม์ที่จะยกระดับความสนุกมากยิ่งขึ้น
และจะปฏิเสธที่จะเข้าร่วมก็ได้ แล้วกลับไปทำเกมธรรมดาเล็กๆเกมหนึ่ง โดยไม่เสียดายเวลาที่เสียไป
โดยแผนการในการกบฎนั่นก็คือ การแอบซ่อนเนื้อหาที่ได้ดัดแปลงเหล่านี้ไว้ภายในเกม
และนำเนื้อหาเดิมของเกมมาปิดบังเอาไว้ในช่วงต้นเกม ซึ่งมันจะช่วยปกปิดร่องรอยการกบฎของพวกเรา
ซึ่งถ้าผลงานมันออกมาได้ดีพอ ก็อาจจะนำเอาผลงานชิ้นนี้ไปเสนอให้กับหัวหน้า

โดยจุดขายสำคัญของเกมนี้นั่นก็คือ (จุดเปลี่ยนเนื้อหาภายในเกม)
1.5-6 ชั่วโมงแห่งความหลอนและสาวๆที่น่ารัก
2.เรียนรู้ผ่านวิกฤตการณ์ของแต่ละตัวละครและจัดการปัญหาต่างๆด้วยมือของคุณเอง
3.ร่วมกันเป็นสักขีพยานของการล่มสลายของเกมซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อีกทั้งกลุ่มกบฎยังได้แอบสร้างทีมลับในบริษัทอีกที ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าการเปิดรับพนักงานเองเสียอีก
ซึ่งก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ยอมมาทำงานให้กับบริษัท metaverse enterprise solutions

ถึงแม้แผนการกบฎจะไปได้สวยเพียงใด แต่ก็ไม่สามารถจะนำไปจำหน่ายได้ทันที
ทำให้กลุ่มกบฎได้สร้างทีมผู้พัฒนาปลอมๆขึ้นมา เพื่อที่จะได้วางจำหน่ายและซ่อนเรื่องราวอันดำมืดเหล่านี้ไว้
โดยใช้ชื่อทีมปลอมๆว่า team salvation





ชื่อทีมปลอมที่ชื่อว่า team salvation เป็นอีสเตอร์เอ้กเล็กๆถึงทีมผู้พัฒนาเกม DDLC ในชีวิตจริง
โดยใช้ชื่อว่า team salvato ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นแค่มุกเกรียนๆที่พี่เดนใส่มาภายในเกม
หรือว่ามุกนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อเนื้อเรื่อง ก็ไม่รู้เช่นกัน





ในเรื่องการกบฎและการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาภายในเกม เป็นอีสเตอร์เอ้กของพี่เดน ถึงแนวคิดในการสร้างเกม
โดยจะเป็นการเล่าถึงความในใจของเขาที่มีต่อเกมในรูปแบบของกระดาษโน้ต
ซึ่งปรากฏขึ้นมาในเกม DDLC ภาคแรก ในตอนจบแบบ good ending โดยเขียนเอาไว้ประมาณว่า
เขานั้นชอบเกมที่มีการเล่าเรื่องที่ไม่เหมือนใคร แหวกแนว แปลกใหม่ และฉีกออกจากเกณฑ์เดิมๆ
เป็นดั่งแรงบรรดาลใจในการสร้างเกมนี้ และใช้ความรักและความทุ่มเทในการสร้างเกมนี้ขึ้นมา
เพื่อสร้างเกมที่เล่าเรื่องได้ในแบบที่เกมอื่นทำไม่ได้ โดยใช้แค่รูปแบบของเกมจีบสาวทั่วไป



อันนี้แชตของพรี่เดนตอนทำเกมไปซักระยะหนึ่ง



พรี่เดน: ฉันว่าฉันอยากสร้างตัวละครแนวเพื่อนสมัยเด็กที่มีอาการทางจิตหน่อยนะ
แต่ฉันก็อยากจะสร้างตัวละครที่จะฉลาด เก่งด้านกีฬา และป๊อปปูล่าสุดๆ ที่มีอาการทางจิตเหมือนกัน
เพื่อน: (อะไรไม่รู้อ่านไม่ออก)
พรี่เดน: และฉันก็อยากจะฆ่าตัวละครเพื่อนสมัยเด็กด้วย
เพื่อน: (อะไรไม่รู้อ่านไม่ออก)
พรี่เดน: ฆ่าในทีนี้หมายถึง "ฉันแค่อยากให้ทุกคนมีความสุข" เป็นหญิงสาวที่มีจิตใจที่แปรปวน
พรี่เดน: โดยเฉพาะการเลือกที่จะฆ่าตัวตายละนะ







3.Meeting notes 1.txt (อยู่ในโฟลเดอร์ internal ไม่ต้องตั้งค่าเวลา)



เนื้อหาภายในไฟล์นี้จะสรุปได้ว่า
ตอนนี้มีงานใหม่เข้ามาถึง 3 งาน ได้แก่
1.ทดสอบโมเดลของตัวละครใหม่
2.การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเซิรฟ์เวอร์
3.การเก็บข้อมูลอัตโนมัติ

ตอนนี้ VM2 (เกมใหม่) ได้บล็อคเส้นทางการเชื่อมต่อระหว่างเกมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
จึงทำให้โรที่ตอนนี้กำลังช่วยอีกทีมสร้าง VM2 อยู่ จำเป็นที่จะต้องนำข้อมูลที่ถูกย้าย
ไปเข้ารหัสให้กลายเป็นไฟล์และนำไปส่งสมาชิกภายในทีมได้ดูกันในวันจันทร์
ในขณะที่สมาชิกทุกคนภายในทีมจะต้องช่วยกันเก็บรวบรวมข้อมูลของ VM1 (DDLC)

โดยมีแนวคิดในการค้นหาของข้อมูลภายในเกม DDLC ดังนี้
1.ผลการแสดงภาพ
2.ข้อมูลเสียง
3.สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปของเกม
4.การเปลี่ยนแปลงของค่าที่คงที่ และการประทับเวลา
5.การแจกแจงผ่านระบบ แต่คงใช้ไม่ได้ เพราะมันจะทำให้ไทม์เซิรฟ์เวอร์ทำงานหนักมากเกินไป

และหลังจากประชุมครั้งนี้เสร็จ หัวหน้าจะทำการนัดประชุมนอกเวลางาน
เนื่องจากมีสมาชิกภายในทีมคนหนึ่งชอบทำงานนอกเรื่องอยู่เป็นประจำ
ทำให้หัวหน้าจำเป็นที่จะต้องเข้มงวดในเรื่องของการตั้งใจทำงานให้มากกว่านี้
ไฟล์ลับภายในเกม (File4 - File8)
4.MES.txt (อยู่ในโฟลเดอร์ internal/3/4/4 และต้องตั้งค่าเวลาเป็น 8:33 AM or PM)



เนื้อหาภายในไฟล์นี้จะสรุปได้ว่า
ตอนนี้บริษัท metaverse enterprise solutions บริษัทที่เป็นต้นสังกัดของทีมผู้พัฒนาเกม DDLC
กำลังเผชิญหน้ากับการแข่งขันกันเป็นบริษัทเจ้าตลาดของอุตสาหกรรมเกมในยุคปัจจุบัน
ซึ่งเหล่าทีมผู้พัฒนาเกมภายในบริษัทได้ตัดสินใจยื่นมือเข้ามาช่วย เพื่อแบ่งเบาภาระของบริษัท
โดยเหล่าทีมผู้พัฒนาเกมภายในบริษัทจะจัดการกับปัญหาของเกม
และขอให้บริษัทมุ่งมั่นไปกับการบริหารและจัดการกับปัญหาธุรกิจต่างๆภายในบริษัทกันต่อไป

โดยวิศวะกรระดับโลกและผู้เชี่ยวชาญในวงอุตสาหกรรมเกมที่ถูกจ้างอยู่ในบริษัท
จะเข้ามาช่วยจัดการปัญหาเรื่องงบประมาณไม่เพียงพอของบริษัท ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนถึง 30% ในระยะยาว
และให้เหล่าผู้บริหารของบริษัทตอบแบบสอบถามง่ายๆของทีมผู้พัฒนาเกม เพื่อนำไปใช้เป็นข้อเสนอแนะ
ให้แก่ทีมผู้พัฒนาเกมในการนำไปใช้สร้างเกม





บริษัทนี้พยายามที่จะสร้างเกมให้ออกมาสมจริงให้มากที่สุด โดยได้สร้างระบบการเชื่อมต่อกับเกม (SAO)
ระบบเวลาแบบเรียลไทม์ และระบบมัตติเพลเยอร์ ซึ่งมันอาจจะเป็นอีสเตอร์เอ้กเล็กๆที่กล่าวถึงบริษัทเฟสบุ๊ค
ที่กำลังจะสร้างโลกเสมือนจริงขึ้นมาที่เรียกว่า MetaVerse โดยที่เราสามารถเข้าไปที่โลกเสมือนนั้นได้
ผ่านการใช้อุปกรณ์ VR ที่ใช้ระบบเวลาแบบเรียลไทม์ เพื่อใช้ในการพบปะสังสรรค์กับผู้คน
และเล่นกับผู้เล่นคนอื่นๆในโลกเสมือน แต่ก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าเป็นความตั้งใจของพี่เดน
ที่คิดจะใส่กล่าวถึงหรือไม่ หรือแค่บังเอิญเฉยๆ เรื่องนี้ก็ไม่อาจทราบได้






5.Track 06 name ideas.txt (อยู่ในโฟลเดอร์ internal/1/2/3 และต้องตั้งค่าเวลาเป็น 4:30 AM or PM)



เนื้อหาภายในไฟล์นี้จะสรุปได้ว่า
อีฟ ลาสเตอร์ 1 ในสมาชิกของทีม กำลังคิดชื่อเพลงที่ 6 ของเกมใหม่

Work Together (ร่วมมือกันทำงาน)
Discussion Time (ช่วงเวลาของการปรึกษา)
Debate time (ช่วงเวลาของการอภิปราย)
Brainstorm (ระดมสมอง)
Listen Up (ตั้งใจฟังให้ดี)
Teamwork Time (ช่วงเวลาของงานกลุ่ม)
Let's Discuss (มาปรึกษากันเถอะ)
Let's Teamwork (มาเป็นทำงานเป็นทีมกันเถอะ)
I'll Handle It (ฉันจะจัดการกับปัญหานี้เอง)
Leader (หัวหน้า)
Take The Lead (การนำทาง)

ซึ่งเธอก็คิดที่จะใส่อิโมจิต่อท้ายเพลงลงไปด้วย แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นความคิดที่ดีหรือไม่
หรือควรนำใช้กับเพลงอื่นแทน

o3o
0, 3, 0
:3
-w-

สุดท้ายแล้วก็ได้ชื่อเพลงที่ 6 ออกมา นั่นก็คือ Let’s Teamwork!
และดูเหมือนว่าสุดท้ายแล้วเธอก็เลือกที่จะไม่ใส่อิโมจิลงไป








6.Meeting notes 2.txt (อยู่ในโฟลเดอร์ internal/1/3/0 และต้องตั้งค่าเวลาเป็น 9:15 AM or PM)



เนื้อหาภายในไฟล์นี้จะสรุปได้ว่า
ตอนนี้ทางหัวหน้าได้จัดประชุมออนไลน์ขึ้นมา และสมาชิกคนหนึ่งของทีมที่มีชื่อว่าลิป
ได้บันทึกกิจกรรมของเกม DDLC เสร็จเรียบร้อยแล้ว และอัดมาในรูปแบบของสคริป์ที่เปิดเล่นได้
แต่ดูเหมือนว่าสคริปนี้จะโดนสมาชิกอีกคนหนึ่งภายในทีมที่มีชื่อว่า อีฟ ได้เข้าไปป่วนไฟล์ในสคริปเรียบร้อยแล้ว
และก็โดนทุกคนภายในทีมด่าไปว่าตั้งใจทำงานหน่อย อีฟ

ซึ่งอีฟเองก็โกรธแค้นมะยมดองเป็นอย่างมากจึงได้วางแผนที่จะแกล้งทำเป็นพูดเรื่องสำคัญ
ระหว่างรอให้ทุกคนกลับมาคุยกันถึงหัวข้อเดิม โดยเริ่มที่ 4 โมงครึ่งจนจบประชุม

ซึ่งเธอก็ได้เปิดประเด็นสำคัญขึ้นมา นั่นก็คือการตั้งชื่อตัวละครภายในเกม
(โดยมีคนตอบถามถึง 4 คน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นใครบ้าง ต้องคาดเดานิสัยของสมาชิกภายในทีมกันเอาเอง)
คนแรก: ABCD ก็พอแล้วน่า
คนที่สอง: 123 ละดีไหม
คนที่สาม: การใช้ชื่อจริง มีแต่จะส่งเสริมให้เรายึดติดกับพวกตัวละครภายในเกมในรูปแบบของสัตว์เลี้ยง
แทนที่จะเป็นตัวตนจำลองที่สร้างขึ้นมา
คนที่สี่: ทุกคนกำลังพยายามกันทำงานโง่ๆ อย่างการตั้งชื่อให้กับตัวละครเนี่ยนะ

และเธอก็ได้ประเด็นที่สองต่อ นั่นก็คือเกมใหม่ที่กำลังจะสร้าง
คนแรก: จะสร้างเกมเหมือนเกมแรก (DDLC) แบบไม่มีตัวละครที่มีสิทธิในการจัดการและเข้าถึงไฟล์ใช่ไหม
คนที่สอง: มันไม่เหมือนกับว่าเกมมันจะแตกต่างกันตรงไหนเลยนะ
คนที่สาม: โคลนเกม DDLC มาใช้งั้นหรอ มีสิทธิในการจัดการและเข้าถึงไฟล์ที่เหมือนกันอย่างงี้
แล้วจะซ่อนสิทธิในการจัดการและเข้าถึงไฟล์ยังไงไม่ให้พวกตัวละครไปเจอเข้าละ
คนที่สี่ : เลยตอบว่า มันก็ดูยุ่งยากนะ แต่ก็น่าจะทำได้แหละน่า

จากนั้นประชุมก็ได้จบลง และอีฟได้พิมพ์ระบายอารมณ์ของเธอลงไปว่า jklsdfjklsdafjkjaggsfdjlsdfjk
( jklsdfjklsdafjkjaggsfdjlsdfjk คือแบบฝึกพิมพ์มาตรฐาน คล้ายๆกับการพิมพ์ หกดเ ่าสว น )






7.Meeting notes 3.txt (อยู่ในโฟลเดอร์ internal/0/3/0 และต้องตั้งค่าเวลาเป็น 1:58 AM or PM)



เนื้อหาภายในไฟล์นี้จะสรุปได้ว่า
โปรเจกต์เกมใหม่ในตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนา ซึ่งถ้ามองโดยรวมแล้ว
เกมในภาคนี้นั้นก็ไม่ต่างอะไรกับเกม DDLC ในช่วงเวลาก่อนที่ตัวเอกจะเข้ามาในชมรม
ซึ่งถ้าเทียบกันทั้งสองเกมระหว่างเกมใหม่กับเกม DDLC เกมใหม่นั้นสามารถตรวจจับข้อผิดพลาดได้ง่ายกว่า
และสามารถซ่อนสิทธิในการจัดการและเข้าถึงไฟล์ให้พ้นมือจากตัวละครได้ดีกว่า

แต่ในระหว่างที่กำลังพัฒนาเกมอยู่นั่นเอง ทีมงานก็ได้ไปพบกับไฟล์ตัวละครที่ 5 ภายในเกม DDLC
ซึ่งทีมงานถึงกับตะลึงกับตัวละครที่ 5 เนื่องจากพวกเขานั้นก็ไม่ได้สร้างมันขึ้นมา แม้แต่ข้อมูลในถังขยะก็ยังไม่มี
แล้วตัวละครที่ 5 จะมาอยู่ในเกมได้อย่างไร แต่ในขณะที่พวกเขากำลังประหลาดใจอยู่นั้นเอง
ก็มีสมาชิกภายในทีมคนหนึ่งสังเกตุถึงความผิดปกติของอีฟ ว่าอีฟนั้นทำตัวแปลกไป
เพราะวันนี้อีฟไม่ค่อยพูดมากซักเท่าไหร่ ผิดกับนิสัยเดิมของอีฟ
จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป ก็มีสมาชิกคนหนึ่งที่หลับอยู่ได้ตื่นขึ้นมา (คาดเดาว่าน่าจะเป็นอีฟ) ในช่วงเวลา 12.55
(ในเกมไม่บอกว่า PM หรือ AM) และก็พบว่าการประชุมได้จบลงแล้ว



ภาพตัวละครตัวที่ 5 นี้เป็นแบบร่างคร่าวๆของตัวเอกในเกม DDLC แต่ก็ไม่ได้นำมาใช้ในเกมแต่อย่างใด








8.note - insecure directory.txt (อยู่ในโฟลเดอร์ internal ไม่ต้องตั้งค่าเวลา)



เนื้อหาภายในไฟล์นี้จะสรุปได้ว่า
หัวหน้าได้เขียนโน๊ตเตือนถึงบุคคลที่จะย้ายข้อมูลต่างๆภายในคอมพิวเตอร์ เรื่องความปลอดภัยของข้อมูล
โดยเวลาจะคัดลอกข้อมูลให้ใช้แผ่นดิกส์ในการเก็บข้อมูล แต่ต้องไม่เอาไปใช้กับข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
และไม่นำไปใช้ในกับข้อมูลประเภทฝังไว้ในดิกส์ถาวร ซึ่งถ้าหากอยากจะเปิดไฟล์ที่เข้ารหัสมาแล้วของโร
ที่เปิดแชร์เอาไว้ ให้ก๊อปข้อมูลใส่แฟลชไดร์แบบใช้แล้วทิ้ง จากนั้นนำไปเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์ลูกข่ายขนาดเล็ก
(คอมพิวเตอร์ลูกข่ายขนาดเล็ก เป็นคอมพิวเตอร์ลูกข่ายที่ใช้สำหรับควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์
ที่เป็น Host และสามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็น Host ร่วมกับผู้ใช้งานคนอื่นๆได้
โดยที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปใช้งานคอมพิวเตอร์เครื่องที่เป็น Host และสามารถใช้งานโปรแกรมต่างๆ
ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็น Host ร่วมกับผู้ใช้งานคนอื่นๆได้อย่างอิสระ )

ซึ่ง ณ ตอนนี้ มีสมาชิกภายในทีมคนหนึ่งที่มีชื่อว่า เรอา ซึ่งเธอก็กำลังตั้งค่า proxy mail server
(proxy mail server คือเซิร์ฟเวอร์แม่ข่ายที่คอยควบคุมการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ และการติดต่อสื่อสารผ่านอีเมล์
ของคอมพิวเตอร์ที่เป็น Host โดยมีหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างเครื่องลูกข่ายกับแม่ข่าย และทำการติดต่อสื่อสาร
รวมถึงส่งข้อมูลจากครื่องลูกข่ายกับแม่ข่าย และระหว่างครื่องลูกข่ายกับเคื่องลูกข่าย)

เพื่อที่ว่าจะสามารถติดต่อสื่อสารและทำงานควบคู่กันไป โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าพวกเบื้องบนจะรู้เรื่อง
จึงทำให้ต้องใช้วิธีคัดลอกข้อมูลแบบออฟไลน์แบบนี้ไปก่อน



ข้อมูลภายในสแครชดิสก์
(ข้อมูลในไฟล์นี้เหมือนเป็นแค่การทดสอบคัดลอกไฟล์ไปยังดิกส์เอาไว้เฉยๆ)


ไฟล์ลับภายในเกม (File9)
9.14 (อยู่ในโฟลเดอร์ internal/5/0/1 และต้องตั้งค่าเวลาเป็น 2:14 AM or PM.)



ไฟล์นี้เป็นไฟล์ลับไฟล์สุดท้ายของเกม เนื้อหาภายในไฟล์นี้จะสรุปได้ว่า
อีฟกับพอลล่า (หัวหน้าทีมของเรา) เคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อนในช่วงที่เรียนอยู่ที่มหาลัย
เป็นแค่เด็กมหาลัยบ้าๆบอก็แค่นั้น เขาไม่คิดเลยว่าชีวิตการทำงานของผู้ใหญ่มันจะยากลำบากขนาดนี้
และมันยากที่เชื่อว่ามีเรื่องต่างๆเกิดขึ้นมากมายหลายอย่างภายในปีนี้ และเขาก็รู้สึกคิดถึงเธอเอามากๆ
ซึ่งก็ทำให้เขาย้อนนึกถึงอีฟในช่วงสมัยที่เรียนอยู่ในมหาลัยด้วยกัน
ในตอนนั้น อีฟได้สร้างแผนแกล้งตายสนุกๆ และช่วยเขาในการเลิกกับแฟนที่มีชื่อว่าเดปนี่
และจนถึงทุกวันนี้ เขาก็ยังคาดเดาความคิดของเธอไม่ได้เลย ว่าเอาฮาหรือว่าเอาจริง ไม่ว่าจะเรื่องเกม
หรือการใช้ชีวิตของเธอก็ตาม และเขาก็ได้ขอบคุณอีฟที่มักจะคอยช่วยระงับความโกรธของเค้า
เวลาที่เจอกับปัญหาต่างๆในชีวิต that things will always be okay
( that things will always be okay แปลว่า เรื่องทุกอย่างมันจะไม่เป็นอะไร
เป็นคำพูดที่ซาโยริเคยพูดใน เกม DDLC และโมนิก้าก็พูดประโยคนี้เหมือนกันในภาค Side story)

ซึ่งพอทั้งสองจบจากมหาลัย พวกเขาก็มาทำงานที่บริษัท metaverse enterprise solutions
เพราะเป็นทางเดียวที่เขาจะสามารถหนีจากงานหน้าเบื่อของบริษัทอื่นๆได้
และยังจำคำเตือนของเธอได้อยู่เสมอ ว่าอย่าไต่เต้าไปไกลนัก เพราะว่าเขาไม่ใช่วิศวะกรระดับสูง
แต่ถึงกระนั่นเขาก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคจนหลุดออกจากเส้นทางที่ยากลำบาก และได้เป็นนายคนแล้ว
และนั่นก็เป็นอนาคตที่เขาใฝ่ปราถนาอย่างแท้จริงในทุกๆวัน

ซึ่งในตอนนี้ เขาได้ขอโทษเธอที่ทำตัวเครียดอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกว่าอยากจะพัฒนาความสัมพันธ์
ให้ลึกซึ้งมากกว่านี้ นั้นก็เพราะว่าสิ่งที่อีฟทำให้กับเขานั้นมันมากเกินกว่าที่เขาจะตอบแทนเธอได้
ตัวของเธอนั้นเป็นดั่งแรงบันดานใจให้เขาลุกขึ้นสู้อยู่เสมอ จนไม่อยากจเชื่อในสายตาของตนเอง
และในตอนนี้เขาก็มีเป้าหมายใหม่แล้วนั่นก็คือ การเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุด และจะตอบแทนเธอให้มากที่สุด
เท่าที่ความยอดเยี่ยมของเขาจะสามารถทำได้ แล้วเดินเคียงข้างไปด้วยกันกับเธอ

ฉันรักเธอและจะรักตลอดไป จนกว่าพวกเราจะเผชิญหน้ากับจุดจบของโลกไปด้วยกัน
เป็นดั่งคำอธิษฐานแด่มิตรภาพของเราสองคนในอีก 14 ล้านปีข้างหน้า

ด้วยความรักอันเป็นนิรันดร์
พอลล่า




สรุปโดนคนแปล (ซับนรก)

(ทีมพี่แกน่าจะสร้างเกม DDLC เสร็จมาก่อนแล้วในช่วงต้นปี แต่สุดท้ายเนื้อหาของเกมก็เปลี่ยนไป
เพราะมีสมาชิกคนหนึ่งไปเอาเรื่องหลอนๆมายัดใส่ไว้ในเกม แล้วเอาไปนำเสนอให้กับเบื้องบน
ซึ่งก็ไปตรงกับช่วงเวลาเดียวกันที่อีกทีมกำลังพัฒนาโปรเจคลิบิติน่าอยู่ และก็เป็นไปได้ว่าทีมลับที่แอบตั้งไว้
จะไม่ได้มีแค่ทีมที่ทำเกม DDLC ทีมเดียว และอาจเกิดการก่อกบฎขึ้นมาเหมือนกับที่เกม DDLC โดน
ซึ่งส่งผลต่อเนื้อหาภายในเกม ที่อีกทีมกำลังรับผิดชอบอยู่ ที่มีชื่อว่าโปรเจคลิบิทิน่า
อีกทั้งในปัจจุบันทางบริษัทเองก็กำลังเผชิญกับการแข่งขัน และปัญหาในด้านของบริหารบริษัท
ที่ห่วยจนลูกจ้างและทีมงานภายในบริษัทต้องยื่นมือเข้ามาช่วย แถมทางรัฐบาลก็เริ่มจับตามองเกมของบริษัทนี้
และส่งคำเตือนให้ปรับเปลี่ยนเนื้อหาภายในเกมให้เบาลง เพราะเนื้อหาภายในเกมของบริษัทนี้ชักจะเริ่มรุนแรง
ขึ้นไปทุกที เลยส่งผลให้หัวหน้าทีมของเราต้องเครียดจนกบาลระเบิด
และบ่นถึงรัฐบาลอยู่ตลอดเวลาที่มานั่งแก้ไขเกม)


ซึ่งถ้าคุณอ่านไฟล์ลับไฟล์ที่ 9 นี้ คุณก็คงจะเดาได้แล้วละครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ใช่ครับ พอลล่าหัวหน้าทีมของเราหลงรักอีฟ ลาสเตอร์ข้างเดียวอย่างหัวปักหัวปำมาแสนยาวนาน
ก็มันน่าแปลกไหมละครับ ไม่ว่าอีฟจะทำเรื่องเลวร้ายแค่ไหนหรือกวนส้นตีนสมาชิกภายในทีมมากเท่าไหร่
แต่หัวหน้ากลับไม่บ่นซักคำ แถมยังพยายามเบี่ยงเบนประเด็นคนภายในทีมด้วยเรื่องงาน
แต่ก็ไม่ได้อธิบายถึงความสัมพันธ์และเรื่องราวต่างๆให้สสมาชิกภายในทีมได้รู้
ซึ่งจากการคาดการณ์ของผมแล้ว อีฟเนี่ยแหละน่าจะเป็นคนที่ก่อกบฎขึ้นมา
เพราะในความเป็นจริงแล้ว หากลูกน้องคุณแอบยัดอะไรแปลกๆที่ไม่เกี่ยวกับงานลงไป คุณก็คงด่าไปแล้ว
แต่ในเรื่องนี้หัวหน้ากลับเห็นด้วยและร่วมมือกันสร้างออกมาจนได้เป็นเกม DDLC ในตอนนี้
และได้เอาไปนำเสนอกับเบื้องบนจนกลายเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของบริษัท
เพราะขนาดในกำหนดหน้าที่ในการสร้างเกม รายชื่อของอีฟยังเขียนติดด้านหลังว่า why not
ที่แปลว่าทำไมจะไม่มีเธอละ และก็มีแค่เธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถลาพักร้อนได้
ในขณะที่คนอื่นต้องมาเร่งงานเพราะ VM2 (โปรเจกค์ลิบิทิน่า)
เท่านี้ก็รู้แล้วละครับว่าพอลล่ายอมทุกอย่างให้อีฟจริงๆไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม [/spoiler]
สรุปเนื้อเรื่องภายในเกม DDLC PLUS
บทสรุปเนื้อเรื่องภายในเกม DDLC PLUS นี้ เป็นเพียงการวิเคราะห์เนื้อเรื่องจากข้อมูลต่างๆ
ภายในเกมเพียงเท่านั้น ซึ่งก็อาจจะมีทฤษฏีหรือบทสรุปอื่นๆที่แม่นยำกว่าบทสรุปชิ้นนี้ก็เป็นได้
ดังนั้นโปรดใชวิจารณญาณ หรือหนุมาน หรือจักรยาน ในการรับชม หากผู้รับชมมีอายุต่ำกกว่า 18 ปี
ควรได้รับคำแนะนำ

ในเกม DDLC PLUS นั้นจะแบ่งเนื้อเรื่องออกเป็น 2 เรื่องอยู่ด้วยกัน
1.เนื้อเรื่องของทีมงาน
2.เนื้อเรื่องของโมนิก้า

1.เนื้อเรื่องของทีมงานฉบับละเอียด (1/3)
ไทม์ไลน์เนื้อเรื่องของทีมงาน

01 secret :project plan
02 secret :DDLC
03 mail :01 Let's move on
04 mail :02 Binary data in VM2?
05 mail :03 Issues caused by unprotected memory
06 secret :Meeting note 1
07 secret :note - insecure directory
08 mail :04 Re: Ethics
09 secret :MES
10 mail :05 Staying focused on our goals
11 secret :name ideas
12 mail :06 omg
13 secret :Meeting note 2
14 mail :07 Character discrepancy
15 secret :Meeting note 3
16 mail :08 Side Stories
17 mail :09 Have a nice weekend!
18 secret :14

เรื่องราวทุกอย่างเริ่มที่ต้นปี 2019
ทางบริษัท metaverse enterprise solutions มีเป้าหมายที่จะสร้างเกมเสมือนจริงที่มีความสมจริงมากที่สุด
จึงได้มอบหมายให้ทีมของเราไปสร้างเกมตามเป้าหมายที่เขาได้ตั้งเอาไว้ในรูปแบบของเกมสเกลขนาดเล็กๆ
โดยเรียกโครงการสร้างเกมนี้ว่า VM1 และได้มอบหมายให้อีกทีมหนึ่งไปสร้างเกมตามเป้าหมาย
ที่บริษัทวางเอาไว้เหมือนกัน แต่เป็นเกมที่มีสเกลขนาดกลาง และเรียกโครงการนั้นว่า VM2
โดยมีสมาชิกที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาเป็นทีมเพื่อสร้าง VM1 มีอยู่ทั้งหมด 5 คน ได้แก่
1.พอลล่า ไมน์เนอร์ หัวหน้าโครงการ/หัวหน้าทีม
2.โร ทีตเตอร์ วิศวะกรระบบ
3.ราวี่ ราโซ วิศวะกรระบบ
4.ลิป มูซี่ วิศวะกร
5.อีฟ ลาสเตอร์ วิศวะกรระดับสูง

และรายละเอียดของ VM1 (จากนี้เป็นต้นไปจะขอเรียก VM1 ว่า DDLC) ที่ทีมงานของเราได้สร้างขึ้นมานั้น
ถูกพบว่าเป็นเกมที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับวรรณกรรม มีตัวละครถึง 4 ตัว มีขนาดเกมที่ไม่ใหญ่มาก
และมีระบบกล่องข้อความ (หน้าต่าง) ขึ้นมาเพื่อเก็บบันทึกข้อมูลการสนทนา
ซึ่งในตอนนี้ DDLC ยังเป็นเกมจีบสาวปกติทั่วไปที่หาได้ทั่วไปตามโลกอินเตอร์เน็ต
แต่แล้วเมื่อวันเวลาผ่านไป การกบฏก็ได้เริ่มขึ้น โดยสมาชิกภายในทีมคนหนึี่งที่มีชื่อว่า อีฟ ลาสเตอร์
เธอได้ทำการแก้ไขและเปลี่ยนแปลงเนื้อหาบางส่วนภายในเกม โดยอ้างว่าทำไปก็เพื่อให้เกมมีลูกเล่นอะไรใหม่ๆและสนุกมากยิ่งขึ้น โดยเนื้อหาภายในเกมที่ได้ถูกแก้ไขแลเปลี่ยนไปมีดังนี้
1.เปลี่ยนเนื้อเรื่องของเกมให้มันน่ากลัวมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่ช่วงกลางจนถึงท้ายเกม เป็นระยะเวลากว่า 5-6 ชั่วโมง
2.บังคับให้เผชิญหน้ากับบัค(หลอนๆ)ของเหล่าตัวละคร และต้องหาทางรับมือกับปัญหา(อันสยองขวัญ)ของเกม
3.เปลี่ยนฉากจบดีๆของเกม ให้กลายเป็นฉากจบที่ตับของคนเล่นต้องพังทลายและจิตใจแตกสลาย
โดยที่ไม่สามารถแก้ไขฉากจบอะไรได้เลย

(ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเกม DDLC เวอร์ชั่นปกติจะไม่มีบทอีกแล้ว มีแต่เวอร์ชั่นหลอนๆที่พวกเราเล่นกัน
เพราะฉะนั้นต่อจากนี้ จะเรียกเกม DDLC เวอร์ชั่นหลอน ว่าเกม DDLC ทับศัพท์เกม DDLC เวอร์ชั่นปกติไปเลย
คนอ่านจะได้ไม่งง)

แต่ก็ยังไม่จบเพราะตัวของเธอนั้น ยังแอบก่อตั้งทีมลับไว้ภายในบริษัท โดยที่ไม่รู้เลยว่าเป็นใคร อยู่ทีมไหน
และแก้ไขอะไรในเกมอื่นไปแล้วบ้าง ซึ่งเธอก็มีแผนที่จะจัดตั้งทีมงานและรายละเอียดทุกอย่างปลอมๆ
เพื่อลองปล่อยเกมนี้ออกไปสู่สาธารณะ โดยใช้ชื่อทีมว่า team salvation

หลายเดือนต่อมา หลังจากเกิดเหตุการณ์ก่อกบฎขึ้น เกม DDLC ก็ได้ถูกปล่อยออกมาสู่สาธารณะ
ซึ่งตัวเกมนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้เล่น จึงทำให้ผลงานเกมชิ้นนี้ถูกเอาไปนำเสนอ
ให้แก่เหล่าผู้บริหารระดับสูงของบริษัท จนสุดท้ายก็ได้รับการอนุมัติและถูกย้ายเข้าไปเป็นเกมในเครือของบริษัท metaverse enterprise solutions
(เหตุการณ์การย้ายผลงานเข้าไปเป็นของบริษัท อาจจะเป็นอีสเตอร์เอ้กที่กล่าวถึงทีมผู้พัฒนาเกม DDLC
ของโลกแห่งความเป็นจริงก็เป็นได้ เพราะในโลกของเรานั้น ตอนที่ทีมงานได้ลงเกม DDLC ภาคแรก
ทีมงานจะเป็นผู้จัดจำหน่ายที่มีชื่อว่า team salvato เป็นคนนำเกมมาลงวางขาย แต่พอเกมภาค Side Story
ที่เป็นเกมภาคถัดมา กลับมีบริษัท Serenity Forge มาเป็นผู้จัดจำหน่ายแทน



นี่อาจจะเป็นอีสเตอร์เอ้กเล็กๆที่สื่อถึงเหตุการณ์การเปลี่ยนผู้จัดจำหน่ายของเนื้อเรื่องภายในเกม
กับของแกในชีวิตจริงก็เป็นได้


จนผ่านไปซักระยะหนึ่ง ทีมของเราได้มีสมาชิกใหม่เพิ่มมาอีกหนึ่งคน นั้นคือ เรอา วอลเท่ร์
และวันเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปจนถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2019
หัวหน้าทีมได้ขอให้สมาชิกทุกคนภายในทีมของเรา เลิกเก็บข้อมูลของเกม DDLC
แล้วมาช่วยกันเพิ่มความเสถียรของการเชื่อมต่อกับเกมที่อีกทีมหนึ่งและโรกำลังช่วยกันพัฒนากันอยู่
ที่มีชื่อโครงการว่า VM2 เพื่อที่จะได้สร้างเกมที่สมจริงกระทิงดีด ให้กับลูกค้าที่มีความสามารถใกล้เคียง
กับระบบ "Monitor Kernel Access" หรืออีกชื่อหนึ่งคือ สิทธิในการเข้าถึงและจัดการไฟล์
(อธิบายง่ายๆก็คือสำหรับลูกค้าที่เก่งและมีความสามารถในการเข้าถึงและดัดแปลงไฟล์ของเกมได้
ซึ่งเป็นความสามารถที่ใกล้เคียงกับสิทธิในการเข้าถึงและจัดการไฟล์ของโมนิก้า เกม DDLC นี้มันไม่อาจจะไม่ดี
และไม่สมจริงพอสำหรับลูกค้า ซึ่งก็อาจจะเป็นอีสเตอร์เอ้กเล็กๆที่กล่าวถึงการม๊อดเกม DDLC
ว่าในปัจจุบันนี้ เกม DDLC ถูกคนมากมายที่มีฝีมือไปเจาะเอาไฟล์ต่างๆมายำทำเป็น Mod ต่างๆของเกม DDLC
เสมือนว่าเป็นเกม DDLC ในจักรวาลคู่ขนาน เช่น DDLC Summertime ,DDLC Blue skies
และ DDLC normal vn เป็นต้น )

โดยระบบการเชื่อมต่อระหว่าง VM นี้ จะเป็นการนำข้อมูลหรือค่าตัวแปรเก่าๆมาปรับใช้ในงานใหม่
(เหมือนกับงานใหม่คล้ายกับงานเก่า ซึ่งก็คงไม่มีใครอยากจะมานั่งทำใหม่ตั้งเริ่มแรกอยู่แล้ว
จึงเกิดวิธีนำไฟล์เก่าที่สามารถนำมาใช้ได้ นำมาปรับใช้กับงานใหม่)

ผ่านการโยงค่าตัวแปรระหว่าง VM เพื่อส่งข้อมูลเข้าหากัน หรือก็คือเอาโมเดลตัวละครของเกม DDLC
เชื่อมต่อเข้ากับตัวละครของ VM2 แล้วโอนถ่ายข้อมูลที่น่าจะใช้ได้จาก DDLC ไป VM2
และจะสร้างการเชื่อมต่อระหว่างสองเกมเข้าไว้ด้วยกัน เสมือนกับอยู่ในจักรวาลเดียวกัน
ซึ่งเป็นวิธีการทำงานที่ประหลาดแต่หัวหน้าก็เอาด้วยเพราะถ้าทำได้จริงเกม DDLC ของพวกเค้าก็คงจะเสถียร
และเห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ในระหว่างนี้เอง โร ทีตเตอร์ (วิศวะกรระบบ) ที่กำลังไปช่วยทีมงานอีกทีมในการพัฒนา VM2
เขาได้ไปดึงข้อมูลจาก VM2 ที่เขากำลังช่วยกันพัฒนาอยู่มาให้หัวหน้าได้อ่าน
ซึ่งก็ทำให้พวกเรารู้ว่า โปรเจกต์ VM2 นั้น มีอีกชื่อหนึ่งที่เรียกว่า Project Libitina (โปรเจกต์ลิบิทิน่า)
และหัวหน้าก็ได้ใช้ระบบ Hyperviser ในการดึงข้อมูลของ VM2 ในรูปแบบของ Read-Only (อ่านอย่างเดียว)
เพื่ออ่านข้อมูลบางส่วนที่อยู่ในโปรเจกต์ลิบิทิน่า และนำมาใช้ในการทดสอบไอเดียต่างๆที่อาจจะสร้างขึ้นมา
ผ่านการแกะรหัสเลขฐานสองในฐานข้อมูลของโปรเจกต์ลิบิทิน่า และนำไปเข้ารหัสให้กลายเป็นข้อความ
ซึ่งก็จะสามารถเปิดอ่านได้ผ่านการเปิดใช้งาน VM ตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า TEST VM
(จากนี้ไปจะเรียก VM2 ว่า Libitina เพื่อป้องกันความสับสน และจะได้ไม่งง)
- เนื้อเรื่องของทีมงานฉบับละเอียด (2/3)
ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2019
สมาชิกคนหนึ่งภายในทีมที่มีชื่อว่าราวี่ ราโซ (วิศวะกรระบบ) ได้พบกับปัญหาของวิธีการเชื่อมต่อกันระหว่าง VM
ของทั้ง 2 เกม ซึ่งนั่นก็คือเกม DDLC ได้สร้างไฟล์ขึ้นมาใหม่ภายในเกม
ซึ่งตัวเขานั้นได้ทำการค้นหาต้นตอของปัญหามาจนทั่วแล้วแต่กลับไม่พบอะไร
เขาจึงได้สันนิฐานว่าปัญหานี้อาจจะเกิดจากการวิธีเชื่อมต่อกันระหว่าง VM
ที่ไม่ได้ตั้งค่าไฟล์ภายใน Libitina ให้เป็น 0 ส่งผลให้ตัวแปร (ตัวละคร) ของเกม DDLC ที่ใช้ในเชื่อมต่อ
อาจจะเข้าถึงและดึงข้อมูลของ Libitina ไปก็เป็นได้ เขาจึงอาสาที่จะไปจัดการปัญหานี้ให้
และขอให้ทุกคนช่วยจับตาดูปัญหาหรือความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากการใช้วิธีการเชื่อมต่อระหว่าง VM กันต่อไป
โดยในวันเดียวกันนี้เอง หัวหน้าก็มาสั่งงานใหม่ให้แก่สมาชิกภาายในทีม โดยไม่ได้สนใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเลย
(ราวี่เคยเตือนเรื่องการใช้วิธีการสร้างเกมที่มักง่าย อย่างการใช้วิธีการแชร์ไฟล์ระหว่างสองเกม
เพื่อประหยัดเวลากับต้นทุนในการสร้าง เพราะข้อมูลภายในเกมจะเกิดการรั่วไหลขึ้นในระหว่างการย้ายข้อมูล
ของทั้ง 2 เกม ซึ่งก็อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นกับไฟล์ภายในตัวเกมเอาภายหลัง แต่หัวหน้ากลับไม่ฟัง)
ซึ่งหัวหน้าก็มาชี้แจงงานใหม่ นั่นก็คือ การทดสอบโมเดลตัวละครใหม่ การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเซิรฟ์เวอร์
และสร้างระบบเก็บข้อมูลอัตโนมัติ ในขณะที่งานเก่าอย่างการตามเก็บข้อมูลภายในเกม DDLC ก็ยังไม่เสร็จ
แต่เหตุผลที่หัวหน้าเร่งงานขนาดนี้ก็เป็นเพราะว่าต้องการจะนำข้อมูลของเกม DDLC มาประยุกต์ใช้
ในการสร้างเกมใหม่ที่คิดเอาไว้ และเมื่อจบการประชุม หัวหน้าได้ทำการนัดประชุมกันอีกรอบนอกเวลางาน
เนื่องจากมีสมาชิกภายในทีมคนหนึ่งชอบนอกเรื่องอยู่เป็นประจำ หัวหน้าจึงตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ในการอบรม
สมาชิกภายในทีมคนนั้นให้จริงจังกับงานมากกว่านี้

ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป ภายในวันเดียวกันนี้เอง
หัวหน้าได้เขียนโน๊ตเตือนถึงทุกคนที่จะย้ายข้อมูลของคอมพิวเตอร์ที่เป็น Host ซึ่งถ้าหากว่าเป็นข้อมูลต่างๆ
ภายในเครื่องให้ใช้แผ่นดิสก์ในการคัดลอกข้อมูล แต่ถ้าหากเป็นข้อมูล Libitina ที่โรไปขุดมาจากอีกทีมหนึ่ง
ให้ใช้แฟลชไดร์แบบใช้แล้วทิ้งในการคัดลอก จากนั้นให้เอาไปเสียบกับคอมพิวเตอร์ลูกข่าย
เพื่อที่ว่าจะสามารถติดต่อสื่อสารและทำงานควบคู่กันกันได้อย่างสะดวก โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าพวกเบื้องบน
จะรู้ในสิ่งที่ทีมของเรากำลังทำ จึงทำให้สมาชิกทุกคนภายในทีมต้องใช้วิธีคัดลอกข้อมูลแบบออฟไลน์
ที่แสนจะยุ่งยากนี้ไปก่อน จนกว่าเรอาจะไปตั้งค่าพร็อกซีเมล์เซิร์ฟเวอร์ได้สำเร็จ

ในวันที่ 4 ธันวาคม 2019
หัวหน้าทีมของเราได้รับคำเตือนมาจากรัฐบาลเรื่องความรุนแรงภายในเนื้อหาของเกม
และขอให้ทีมงานผู้สร้างเกม DDLC มาปรับเปลี่ยนและแก้ไขเนื้อหาภายในเกมให้เบาลง
ส่งผลให้หัวหน้าของเราด่ารัฐบาลในอีเมล์นี้ (ถ้าอยากรู้ว่าด่ายังไง แนะนำให้ไปดูในอีเมล์ที่ 4)
ซึ่งถ้าดูจากตรงนี้เราก็จะเห็นได้ว่า หัวหน้าทีมของเรา พอลล่า ไมน์เนอร์ เป็นคนที่เครียดได้ง่าย
และอาจจะเป็นโรคเครียดสะสม ส่งผลให้เขามีนิสัยที่โกรธง่ายและเป็นคนอารมณ์ร้อน
ไม่แคร์ความรู้สึกของใครยกเว้นคนที่ตนรัก และมองว่าไม่ควรจะเก็บเรื่องความรู้สึกของผู้อื่นมาใส่ใจ
ซึ่งในวันเดียวกันนี้เอง หัวหน้าของเราก็ได้นำแบบสอบถามและปัญหาต่างๆของบริษัท
มาให้กับผู้บริหารได้ลงความเห็นและตอบแบบสอบถามกัน และนำมาปรับใช้กับแผนต่างๆของบริษัท
ตามความสามารถกับงบประมาณที่บริษัทเรามี เพื่อแก้ไขปัญหาด้านบริหารของบริษัท
และทำให้บริษัทกลายเป็นผู้นำในด้านการตลาดและอุสาหกรรมเกม
ตัวอย่างเช่น การใช้วิธีการเชื่อมต่อกันระหว่าง VM เพื่อประหยัดเวลาและงบประมาณ
การแบ่งทีมย่อยในการสร้างเกมเพื่อทำให้เกิดการแข่งขัน เป็นต้น

วันที่ 5 ธันวาคม 2019
หัวหน้าได้นำความเห็นของเหล่าผู้บริหารมาใช้ปรับใช้ให้เข้ากับแผนในการสร้างเกม โดยความเห็นของผู้บริหาร
มีอยู่ทั้งหมด 7 ข้อด้วยกัน ได้แก่
1.การมอบสิทธิในการควบคุมและจัดการไฟล์ให้กับตัวละครภายในเกม ส่งผลต่ออารมณ์ของผู้เล่นยังไง?
2.การมอบสิทธิในการควบคุมและจัดการไฟล์ให้กับตัวละครภายในเกม ส่งผลต่อความคิดและเป้าหมาย
ของผู้เล่นยังไง?
3.หากมีใครสักคนได้พยายามเปลี่ยนแปลงไฟล์ภายในเกม เนื้อหาภายในเกมจะแปลเปลี่ยนเป็นเช่นไร?
4.สิทธิในการควบคุมและจัดการไฟล์สามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นอาวุธได้ยังไง?
5.การกระทำและค่าตัวแปรใดที่ส่งผลต่อจักรวาล(หมายถึงรูทจีบในแต่ละรูท)นั้นพังทลายลงไป?
6.และที่สำคัญที่สุด ความคิดเหตุของคุณจะสามารถนำมาปรับใช้กับเกมของเราได้ยังไง?
7.แถม เราจะนำเสนอแผนงานนี้ให้เหล่าผู้บริหารบริษัท ในฐานะผลงานที่มีประโยชน์ต่อบริษัทได้ยังไง?
และได้ขอร้องให้ใครก็ตามที่ไปเปลี่ยนทีมคอมพิวเตอร์ของบริษัทให้กลับไปเป็นทีมเดิม
ซึ่งก็อย่างที่รู้กัน ว่าไม่ใช่ฝีมือใครอื่นใดนอกจาก อีฟ ลาสเตอร์ ที่เป็นคนเปลี่ยนทีมคอมพิวเตอร์ของบริษัท
ให้กลายเป็นสีชมพู และถึงแม้หัวหน้าจะขอร้องให้เปลี่ยนกลับเพียงใด แต่เธอก็หาได้สนใจคำขอของหัวหน้า
ซึ่งหัวหน้าก็ไม่ได้ว่าอะไรอีฟมากนัก และปล่อยให้กลายมาเป็นทีมประจำคอมพิวเตอร์ของเกม DDLC PLUS
จนถึงทุกวันนี้
ในวันเดียวกันนี้เอง หัวหน้าได้มอบหมายงานใหม่ให้แก่อีฟ นั่นคือการแต่งชื่อเพลง
ซึ่งเธอก็ลังเลใจกับเพลงที่ 6 ว่าจะใช้ชื่ออะไรดี และจะใส่หน้าอีโมจิลงไปใหม่
แต่สุดท้ายเธอก็เลือกได้และไม่ได้ใส่หน้าอีโมจิลงไปในชื่อเพลง

วันที่ในวันที่ 6 ธันวาคม 2019
อีฟ ลาสเตอร์ได้ส่งอีเมลถามถึงสมาชิกทุกคนว่า ใครกันที่เป็นคนสร้างทวิตเตอร์ของโมนิก้า
ซึ่งเธอก็ไม่ได้โกรธอะไรเลย แต่กลับขำกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยซ้ำ แถมยังขอไม่ให้เอาไปบอกหัวหน้าอีก
และถามถึงคนที่สร้างขึ้นมาว่าใช้วิธีอะไรในการทวีตข้อความของโมนิก้า จะทวีตเองหรือใช้บอตในการทวีต
ซึ่งในวันเดียวกันนี้เอง หัวหน้าก็ได้จัดตั้งการประชุมออนไลน์ขึ้นมา ในหัวข้อเรื่องเกมใหม่ที่กำลังจะสร้างขึ้นมา
จากงานที่มอบหมายให้สมาชิกทุกคนไปรวบรวมและบันทึกเนื้อหาต่างๆของเกม DDLC
และให้ลิป มูชี่ ไปแปลงค่าเนื้อหาของเกมให้กลายเป็นไฟล์ที่เปิดเล่นได้ และนำเสนอให้แก่สมาชิกภายในทีม
แต่เมื่อถึงเวลานำเสนองานกลับพบว่าไฟล์ที่จะนำมาเสนอนั้น กลับถูกอีฟแก้ไขและเปลี่ยนแปลงเนื้อหาไฟล์
ไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ทุกคนโกรธกับการกระทำของอีฟในครั้งนี้มากๆ และได้ดุสั่งสอนเธอไป
แต่อีฟนั้นกลับไม่สำนึกและยังโกรธแค้นกับทุกคนที่ด่าตนเอง ซึ่งเธอเลือกที่จะไม่แสดงความโกรธของเธอ
ออกมาตรงๆอย่างการตอบกลับไป แต่เธอเลือกที่จะป่วนการประชุมครั้งนี้ในช่วงเวลา 4 โมงครึ่งจนจบประชุม
ผ่านการใช้ประเด็นเรื่องงานมาบังหน้า โดยเธอก็ได้เปิดประเด็นแรกเป็นเรื่องการตั้งชื่อให้กับตัวละคร
ซึ่งสมาชิกภายในทีมก็ตอบกลับมา 4 คน ดังนี้
สมาชิกคนที่ 1 : ABCD ก็พอแล้วน่า
สมาชิกคนที่ 2 : 123 ละดีไหม
สมาชิกคนที่ 3 : การใช้ชื่อจริง มีแต่จะส่งเสริมให้เรายึดติดกับพวกตัวละครภายในเกมในรูปแบบของสัตว์เลี้ยง
แทนที่จะเป็นตัวตนจำลองที่สร้างขึ้นมา
สมาชิกคนที่ 4 : ทุกคนกำลังพยายามกันทำงานโง่ๆ อย่างการตั้งชื่อให้กับตัวละครเนี่ยนะ

และต่อด้วยประเด็นที่สอง นั่นก็คือเกมใหม่ที่กำลังจะสร้าง
สมาชิกคนที่ 1 : จะสร้างเกมเหมือนเกมแรก (DDLC) แบบไม่มีตัวละครที่มีสิทธิในการจัดการและเข้าถึงไฟล์
ใช่ไหม
สมาชิกคนที่ 2 : มันไม่เหมือนกับว่าเกมมันจะแตกต่างกันตรงไหนเลยนะ
สมาชิกคนที่ 3 : โคลนเกม DDLC มาใช้งั้นหรอ มีสิทธิในการจัดการและเข้าถึงไฟล์ที่เหมือนกันอย่างงี้
แล้วจะซ่อนสิทธิในการจัดการและเข้าถึงไฟล์ยังไงไม่ให้พวกตัวละครไปเจอเข้าละ
สมาชิกคนที่ 4 : เลยตอบว่า มันก็ดูยุ่งยากนะ แต่ก็น่าจะทำได้แหละน่า

และเมื่อถึงเวลาที่กำหนด อีฟได้พิมพ์ระบายอารมณ์ของเธอลงไปอย่างสมใจอยาก
แต่เธอกลับพบว่าการประชุมได้จบลงแล้ว
- เนื้อเรื่องของทีมงานฉบับละเอียด (3/3)
วันที่ 7 ธันวาคม 2019
หลังจากการประชุมแผนการของเมื่อวานได้จบลง ลิป มูซี หนึ่งในสมาชิกภายในทีมของเรา
ได้นำเนื้อหาไฟล์เกมที่นำเสนอไปเมื่อวาน มาทดลองเล่นเกมไปซักระยะ
เพื่อตรวจสอบเนื้อหาต่างๆภายในเกมที่เปลี่ยนไป และหาวิธีจัดการสิทธิในการเข้าถึงและจัดการไฟล์ของโมนิก้า
ผ่านการศึกษาและติดตามพฤติกรรมของโมนิก้าภายในเกมซ้ำๆ ซึ่งเขาก็พบว่าฝีมือการใช้สิทธิในการเข้าถึง
และจัดการไฟล์ของโมนิก้านั้นดีกว่าที่คิดเอาไว้มากๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับไฟล์ของตัวละคร
เพื่อทำให้อีเว้นท์เนื้อเรื่องภายในเกมเกิดการบิดเบี้ยวและหายไป หรือจะเป็นการสร้าง CG ตัวละครของเธอ
ขึ้นมาภายในเกม เพื่อติดต่อพูดคุยกับผู้เล่นโดยตรง ซึ่งนั่นก็อาจะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมตัวละครต่างๆภายในเกม
ถึงมีขีดจำกัดในการทำเรื่องต่างๆภายในเกมและตัวละครแต่ละตัวถึงมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันไป
หรือว่าเขาอาจจะคิดมากเกี่ยวกับเรื่องตัวละครโมนิก้ามากเกินไปก็เป็นได้ แต่ถึงกระนั้นเขาก็จะยังคงติดตาม
และสังเกตุความผิดปกติของตัวละครโมนิก้าต่อไป จนเวลาก็ได้ล่วงเลยผ่านไปซักระยะหนึ่ง
ลิป มูซีและสมาชิกคนอื่นๆภายในทีมก็สามารถจัดการกับสิทธิในการเข้าถึงและจัดการไฟล์ของโมนิก้าได้สำเร็จ
และได้เริ่มเจเนอเรทโครงสร้างเกมขึ้นมาใหม่ โดยเป็นโลกของเกมที่โมนิก้าไม่มีพลังในการจัดการไฟล์
และเป็นช่วงเวลาก่อตั้งชมรมวรรณกรรมขึ้นมา จนระยะเวลาถึงช่วงที่เกมเริ่มเสถียรและเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
ทีมของเราจึงได้จัดตั้งการประชุมเกี่ยวกับเกมใหม่ที่กำลังสร้างขึ้นมา
ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ ตัวเกมกำลังอยู่ในช่วงของกำลังพัฒนา ซึ่งถ้ามองในภาพรวมแล้วเกมนี้แทบไม่ต่างอะไร
กับเกมก่อนหน้านี้อย่างเกม DDLC เลย ทั้งตัวละคร ทั้งสถานที่ และระบบภายในเกม
ทุกอย่างภายในเกมแทบจะเหมือนกันหมด ยกเว้นเสียแต่ว่าเกมนี้สามารถซ่อนสิทธิในการเข้าถึงและจัดการไฟล์
ของโมนิก้าได้ง่ายกว่า รวมถึงสามารถจัดการกับปัญหาด้านข้อผิดพลาดภายในเกมต่างๆได้ง่ายกว่า
แต่ในระหว่างที่ทีมงานกำลังพัฒนาเกมใหม่อยู่นี้เอง จู่ๆพวกเขาได้ไปพบเจอกับไฟล์ตัวละครตัวที่ 5 เข้า
จากการที่ไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมภายในเกม DDLC ซึ่งพวกเขาก็ประหลาดใจเป็นอย่างมาก
เพราะพวกเขาจำได้ว่าไม่ได้สร้างตัวละครนี้ขึ้นมา และไม่มีข้อมูลปรากฎอยู่ในฐานระบบเลย
แม้แต่ในถังขยะข้อมูลที่รวบรวมข้อมูลที่ไม่ได้ใช้และถูกทิ้ง ก็ยังไม่พบเจอ ส่งผลให้สมาชิกทุกคนในตอนนั้น
รู้สึกประหลาดใจกับไฟล์ตัวละครที่ 5 เป็นอย่างมาก แต่ถึงกระนั้นสมาชิกภายในทีมกลับประหลาดใจ
กับท่าทีที่เปลี่ยนไปของอีฟมากกว่า เพราะในวันนี้อีฟกลับเงียบและไม่คุยอะไรเลย
จนเมื่อการประชุมได้จบลง อีฟก็ได้ตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับ และพบว่าตอนนี้การประชุมได้จบลงแล้ว

วันที่ 8 ธันวาคม 2019
ทีมงานของเราได้พัฒนาเกมใหม่จนอยู่ในสภาพเสร็จสมบูรณ์ โดยใช้ชื่อเกมว่า ไซด์สตอรี่ (Side Story)
โดยตัวเกม Side Story จะเป็นโลกคู่ขนานของเกม DDLC ซึ่งก็จะมีรายละเอียดต่างๆภายในเกมที่คล้ายกัน
เพียงแต่ว่าโลกของเกม Side Story นั้น โมนิก้าจะไม่มีพลังโกงๆอย่างสิทธิในการเข้าถึงและจัดการไฟล์
และเป็นช่วงเวลาที่โมนิก้ากำลังก่อตั้งชมรมวรรณกรรมขึ้นมา อีกทั้งเนื้อหาและเหตุการณ์ต่างๆภายในเกม
ยังแตกต่างจากเกม DDLC อย่างสิ้นเชิง ซึ่งเรอา วอลเท่ร์ หนึ่งในสมาชิกภายในทีมของเรา
ได้ตั้งสมมุติฐานการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆภายในเกมเอาไว้ถึง 2 ข้อ ได้แก่
1.เกิดจากการที่พวกเธอไปเปลี่ยนค่าต่างๆภายในเกม และซ่อนพลังในการเข้าถึงและจัดการไฟล์ของโมนิก้า
ให้พ้นมือจากไฟล์ตัวละครต่างๆภายในเกม ส่งผลให้เกมเกิดการสร้างเหตุการณ์ใหม่ขึ้นมาแทนเหตุการณ์เก่า
ตามทฤษฎีผีเสื้อกระพือปีก
2.โมนิก้ารู้สึกผิดกับสิ่งที่ตนเองทำลงไปจริงๆ และปล่อยให้ทีมงานนำพลังสิทธิในการเข้าถึงและจัดการไฟล์
ของเธอไปซ่อน และใช้โอกาสนี้ในการพยายามแก้ไขเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นภายในเกม

วันที่ 9 ธันวาคม 2019
อีฟ ลาสเตอร์ หนึ่งในสมาชิกภายในทีมของเรา จะขอลาพักร้อนในช่วงสุดสัปดาห์หน้า
เนื่องจากงานของเธอใกล้จะเสร็จในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ หากมีธุระอะไรก็ขอให้ไปติดต่อที่ราวี่แทน
และค่อยกับมาประชุมเรื่องผลลัพธ์กันต่อหลังกลับมาจากลาพักร้อน

เมื่อระยะเวลาผ่านไปประมาณสองเดือน
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2020
พอลล่า หัวหน้าทีมของเรา ได้พูดคุยกับอีฟ ลาสเตอร์ ถึงช่วงเวลาดีๆในสมัยที่ทั้งคู่เรียนอยู่ในมหาลัยเดียวกัน
และได้กล่าวขอบคุณกับเธออยู่เสมอที่คอยช่วยและเป็นกำลังใจให้ ซึ่งในช่วงท้ายของบทสนทนา
หัวหน้าของเราก็ได้บอกความในใจของตนเองประมาณว่า
ฉันรักเธอ อีฟ และจะรักตลอดไป จนกว่าโลกใบนี้จะล่มสลายและพังทลายลง
เนื้อเรื่องของทีมงานฉบับย่อ (แนะนำให้อ่าน)
หากผู้อ่านท่านใดที่อ่านเนื้อเรื่องของทีมงานมาถึงจุดนี้แล้วงงก็ไม่เป็นไร
เพราะทางผู้เขียนจะย่อเนื้อเรื่องของทีมงาน และสรุปออกมาเป็นประโยคลำดับเหตุการณ์สั่นๆ
เพื่อลดความซับซ้อนของเนื้อเรื่องภายในตัวเกม และทำให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจเนื้อเรื่องภายในเกมได้ง่ายขึ้น



เนื้อเรื่องของทีมงาน

1.พอลล่ากับอีฟจบจากมหาวิทยาลัยและเข้าทำงานที่บริษัท Metaverse Enterprise Solutions

2.พอลล่าไต่เต้าตำแหน่งไปเรื่อยๆจนได้ตำแหน่งหัวหน้าแผนกสร้างเกม และอีฟได้ตำแหน่งวิศวะระดับสูง

3.พอลล่าได้รับ ราวี่ ราโซ ,ลิป มูซี่ และโร ทีตเตอร์ มาเป็นสมาชิกภายในทีม
เพื่อก่อตั้งทีมขึ้นมาในการสร้างเกมใหม่ ตามคำแนะนำของบริษัทที่ได้ชี้แจงเอาไว้
โดยทีมของพอลล่าได้ทำเกมขนาดเล็กที่เรียกว่า VM1 ส่วนอีกทีมได้ทำเกมขนาดกลางที่เรียกว่า VM2

4.ทีมของพอลล่าได้สร้างเกมขึ้นมาตามที่บริษัทได้ชี้แจงเอาไว้ โดยมีชื่อว่า DDLC

5.อีฟได้ทำการก่อกบฏ และดัดแปลงเนื้อหาต่างๆภายในเกม DDLC จนกลายเป็นเกมสยองขวัญ
พร้อมสร้างทีมลับทีมอื่นๆภายในบริษัทเอาไว้

6.ด้วยความรัก พอลล่าจึงยอมตามน้ำไปกับแผนการกบฎของอีฟ และแอบปล่อยเกมนี้ออกมาในฐานะ
ผู้พัฒนาเกมอิสระ ด้วยชื่อ Team Salvation

7.หลายเดือนต่อมา เกม DDLC ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้เล่น ส่งผลให้ทีมงานได้ตัดสินใจ
ย้ายเกมนี้เข้าไปเป็นผลงานของบริษัท

8.พอลล่าได้ลูกทีมเพิ่มมาอีก 1 คน นั่นก็คือ เรอา วอลเท่ร์

9.วันที่ 1 ธันวาคม 2019 หัวหน้าได้เสนอวิธีการเชื่อมต่อระหว่างเกมสองเกมเข้าด้วยกัน เพื่อประหยัดต้นทุน
และระยะเวลาในการสร้าง ผ่านการแบ่งปันไฟล์ที่จำเป็นต้องใช้ในการสร้างเกม จากเกมหนึ่งไปสู่อีกเกมหนึ่ง
และโร ทีตเตอร์ ซึ่งตอนนี้เขาได้มอบหมายจากหัวหน้าว่าให้ไปช่วยอีกทีมสร้างเกมใหม่ที่มีชื่อว่า Libitina
และได้แอบส่งข้อมูลเนื้อหาภายในเกมของ Libitina ในรูปแบบของกล่องข้อความที่สามารถเปิดอ่านได้
เฉพาะกับโปรแกรมที่หัวหน้าสร้างขึ้นมาที่มีชื่อว่า TEST VM เพียงเท่านั้น

10.วันที่ 2 ธันวาคม 2019 โร ได้ไปแกะไฟล์ Libitina ในถังขยะ และนำมาเข้ารหัสให้กลายเป็นข้อความ
แต่กลายเป็นว่าเซิรฟ์เวอร์จะทำงานหนักหากนำไฟล์ที่ขุดมาเข้ารหัส ส่งผลให้โรต้องไปตั้งค่าเซิรฟ์เวอร์
ในสัปดาห์หน้า และหัวหน้าก็เปิดแชร์ไฟล์ที่เข้ารหัสมาแล้วให้สมาชิกภายในทีมได้ดูกัน

11.วันที่ 3 ธันวาคม 2019 ราวี่ ราโซ ได้พบกับปัญหาใหม่ของเกม DDLC นั้นก็คือทางตัวเกมได้สร้างไฟล์ขึ้นเอง
และได้เจอกับข้อมูลของเกม Libitina ซึ่งสาเหตุของปัญหาก็คือ การไม่ได้ตั้งค่าไฟล์ใน Libitina ให้เป็น 0
ในระหว่างที่ทั้ง 2 เกมกำลังเชื่อมต่อกัน ส่งผลให้เกม DDLC สามารถเก็บไฟล์นั้นไปได้

12.พอผ่านไปช่วงบ่ายๆ หัวหน้าก็ได้งานใหม่มา นั้นคือการสร้างเกมใหม่แต่ให้ใช้โมเดลเดิม
โดยสมาชิกทุกคนภายในทีมจะต้องไปเก็บข้อมูลต่างๆภายในเกม DDLC ในขณะที่โรยังติดงาน
กับการไปช่วยกับอีกทีมในการสร้าง Libitina

13.พอผ่านไปช่วงเย็นๆ มีสมาชิกภายในทีมคนหนึ่งต้องมาก๊อปไฟล์ใส่เครื่องลูกข่าย ผ่านการใช้วิธียุ่งยาก
เพื่อทำให้สมาชิกภายในทีมทุกคนสามารถร่วมมือกันทำงานได้ และสามารถพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องงาน
ได้สะดวกยิ่งขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าเหล่าเบื้องบนจะมาดูงานที่ทีมของตนกำลังทำ

14.วันที่ 4 ธันวาคม 2019 ทางรัฐบาลเริ่มเล็งเห็นว่าเกมนี้อาจส่งผลเสียต่อความคิดและค่านิยมของคนในสังคม
ทางรัฐบาลจึงได้กดดันให้บริษัทและทีมของเราปรับเนื้อหาภายในเกมให้เบาลงมาหน่อย

15.พอผ่านไปช่วงเย็นๆ หัวหน้าได้ส่งแบบสอบถามเกี่ยวกับแนวทางในการสร้างเกมและถามความคิดเห็น
กับเหล่าผู้บริหาร เพื่อนำไปปรับใช้ให้เข้ากับแผนการสร้างเกม

16.วันที่ 5 ธันวาคม 2019 หัวหน้าได้นำความเห็นของเหล่าผู้บริหารมาปรับเป็นแนวทางในการพัฒนาเกม
ซึ่งอีฟก็อาจจะไม่พอใจกับแนวทางในการสร้างเกมของบริษัท เธอจึงได้ไปปรับหน้าเดสก์ท๊อป
ให้กลายเป็นสีชมพูในทุกๆเครื่อง

17.ในช่วงเวลาตอนเย็นนี้เอง อีฟก็ได้แต่งเพลงใหม่สำหรับเกมที่กำลังจะสร้าง

18.วันที่ 6 ธันวาคม 2019 อีฟได้ค้นพบกับแอดเค้าท์ทวีตเตอร์ให้โมนิก้า และถามหาถึงบุคคลที่เป็นคนสร้าง
แต่กลับไม่มีใครออกมาตอบคำถามของเธอกันเลยซักคน

19.ในช่วงเวลาบ่ายๆ หัวหน้าของเราได้จัดตั้งการจัดประชุมขึ้นมาในเรื่องของเกมใหม่ที่กำลังจะสร้าง
ซึ่งลิปก็เตรียมไฟล์ที่จะนำเสนอเอาไว้หมดแล้ว แต่ไฟล์เหล่านั้นกลับถูกแก้ไขไปโดยฝีมือของอีฟ
ส่งผลให้เธอโดนทุกคนด่าเพราะเอาแต่ติดเล่น ทำให้อีฟคิดแผนที่จะแก้แค้นกับคนในทีมขึ้นมา
ซึ่งเธอก็จะรอให้ถึงเวลา 4 โมงครึ่ง จากนั้นก็จะพิมพ์มั่วๆป่วนแชทในระหว่างการประชุม
โดยในระหว่างรอให้ถึงช่วงเวลาที่กำหนดเอาไว้นั้น เธอก็จะใช้หัวข้อประเด็นเรื่องงานในการเบนความสนใจ

20.วันที่ 7 ธันวาคม 2019 ลิป มูซี่ได้ลองเล่นเกม DDLC ไปซักระยะหนึ่ง เพื่อหาวิธีในการถอดพลังของโมนิก้า
ซึ่งเขาก็พบว่าความสามารถในการแก้ไขไฟล์เกมของโมนิก้าดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้เยอะมากๆ
เขาจึงขอร้องให้ทุกคนมาช่วยกันจัดการกับพลังของเธอหน่อย

21.ในบ่ายนี้เอง ก็ได้มีการจัดการประชุมขึ้นมา เนื่องจากพวกเขาสามารถถอดพลังของโมนิก้าได้สำเร็จ
และกำลังจะสร้างเกมใหม่ขึ้นมา แต่ถึงกระนั้นก็มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นกับทีมงาน
นั้นก็คือ มีไฟล์ที่ไม่มีที่มาและรายละเอียดใดๆเลยอยู่ภายในไฟล์เกม โดยมีชื่อไฟล์ว่า ตัวละครตัวที่ 5
(Entity 5) โดยไม่ว่าจะหาข้อมูลจากที่ก็ตามพวกเขาก็ไม่พบกับรายละเอียดอะไรเลย
แถมวันนี้อีฟก็ดูแปลกไปเป็นอย่างมากเพราะปกติเป็นคนที่พูดมากแต่วันนี้กลับเงียบ ไม่พูดอะไรเลย

22.วันที่ 8 ธันวาคม 2019 เรอา วอลเท่ร์ ได้ออกมาขอบคุณและแสดงความยินดีให้กับทุกคน
ที่ช่วยกันทำงานจนเกมเสร็จ โดยเกมที่พวกเขาพัฒนาขึ้นมานี้จะใช้ชื่อเกมว่า Side Story
เนื่องจากองค์ประกอบหลักภายในเกมมีลักษณะที่คล้ายกับเกม DDLC แต่เนื้อหาภายในเกมจะเปลี่ยนไป
โดยสิ้นเชิง จากการนำพลังของโมนิก้าไปซ่อน และเปลี่ยนค่าบางอย่างภายในเกม
ส่งผลให้เนื้อเรื่องภายในเกมเกิดการเปลี่ยนแปลง

23.วันที่ 9 ธันวาคม 2019 อีฟจะขอลาพักร้อนในช่วงสุดสัปดาห์หน้า เพราะงานของเธอใกล้เสร็จแล้ว
หากมีธุระมีอะไรให้ติดต่อไปที่โร และค่อยมาประชุมเรื่องผลลัพท์ของเกมหลังจากที่เธอกลับมาแล้ว

24.เวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2020 พอลล่าได้มาสารภาพรักกับเธอและย้อนวันวานถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น
ในช่วงที่เรียนอยู่ด้วยกันในมหาลัย และเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในปีที่แล้ว



ถ้าเอาแบบสรุปโครตสั่นๆเลย ก็คืออีฟนี่แหละที่ทำให้เกม DDLC กลายเป็นหลอนๆจากเดิมที่ควรจะเป็น
ส่วนสมาชิกภายในทีมก็ไม่ขัดขืน ยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดี จากนั้นรัฐบาลมองว่าเกมนี้มันหลอนเกินไป
ต้องเบาเนื้อลงซะ ทีมงานเลยสร้างเกม Side Story ออกมาหลอกตารัฐบาลว่าเป็นเกมเบาๆ ใสๆ อบอุ่นหัวใจ
ในระหว่างที่กำลังพัฒนา Libitina ให้สำเร็จ และคลอดออกมาเป็นเกมให้พวกเราได้เล่นกัน
2.เนื้อเรื่องของโมนิก้า (ครึ่งแรก)
เนื้อหาภายในเกม DDLC PLUS จะมีการเพิ่มเนื้อหาของตัวเกมเข้ามาใหม่ นั่นก็คือ ไซด์สตอรี่ (Side Story)
ซึ่งตัวเกมไซด์สตอรี่ จะมีรายละเอียดต่างๆภายในเกมที่เหมือนกับเกมก่อนหน้านี้อย่างเกม DDLC
แต่เนื้อหาภายในเกมจะไม่เหมือนกัน เนื่องจากทีมงานได้ถอนพลังของโมนิก้าไปแล้ว
และตัวเกมจะเซตติ้งอยู่ช่วงเวลาที่เธอกำลังพยายามก่อตั้งชมรม ก่อนที่ตัวเอกจะเข้ามา
ซึ่งเป็นเกมที่ทีมงานภายในเกมได้สร้างขึ้นมาหลอกตารัฐบาล (ใครงงก็ขอให้ไปดูที่เนื้อเรื่องของทีมงาน)

หลายๆคนที่เล่นเกมนี้ก็อาจจะคิดไปแล้วว่าเกมในภาคนี้นั้นเป็นแค่เกมเนื้อเรื่องธรรมดาๆ
เนื่องจากภายในตัวเกมภาคนี้นั้น ไม่มีเนื้อหาที่สั่นประสาทและชวนหลอนอะไรเหมือนกับเกมก่อนหน้านี้
อย่างเกม DDLC เลย แล้วไหนจะปริศนาต่างๆเกี่ยวกับโมนิก้าอีก และด้วยเหตุนั้นเองจึงทำให้หลายๆคน
เริ่มผิดหวังกับเกมนี้และเลิกเล่นไป ส่งผลให้กระแสของเกมหมดไปไว และไม่ค่อยมีคนพูดถึงเกมนี้ซักเท่าไหร่
ซึ่งนอกจากเนื้อหาภายในเกมไซด์สตอรี่แล้ว ถ้าหากไม่ไปค้นหาไฟล์ลับหรืออีเมล์ของทีมงานมาอ่านจริงๆ
ก็จะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเนื้อเรื่องเบื้องหลังของเกมนี้เลย เนื่องจากผู้พัฒนาเขาชอบซ่อนเนื้อหาต่างๆ
ภายในเกมในรู้แบบของไฟล์ลับหรืออีสเตอร์เอ้ก ดังนั้นถ้าหากคุณไม่ได้เป็นคนช่างสำรวจเท่าไหร่
คุณก็อาจจะไม่รู้ถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นภายในจักรวาลของเกมนี้เลย


เนื้อเรื่องของโมนิก้า

ในช่วงที่เกม DDLC กำลังถูกพัฒนา และอีฟยังไม่ได้ทำการก่อกบฎและเปลี่ยนเนื้อหาภายในเกม
ตัวละครโมนิก้าได้ถูกสร้างขึ้นมาในฐานะตัวละครสนับสนุน โดยมีหน้าที่ในการคอยชี้นำทาง
และคอยช่วยเหลือเรื่องต่างๆให้กับผู้เล่นภายในเกม ซึ่งตัวของเธอในตอนนั้นยังไม่มีความคิดและจิตสำนึก
เป็นแค่บอทธรรมดาๆที่รับบทเป็นประธานชมรมวรรณกรรม และยังไม่รู้ตัวว่าโลกที่เธออาศัยอยู่มันเป็นแค่เกม
จนกระทั่งจุดเปลี่ยนก็มาถึง เมื่อ อีฟ ลาสเตอร์ หนึ่งในสมาชิกภายในทีมของเรา และเป็นวิศวะกรระดับสูง
ได้ทำการก่อกบฏขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงเนื้อหาภายในเกม ผ่านการตั้งค่าพิเศษลงไปในตำแหน่งประธานชมรม
โดยค่าพิเศษที่ใส่ลงไปนั่นก็คือ สิทธิในการเข้าถึงและจัดการไฟล์ Moniter Kernel Access
ซึ่งเป็นพลังที่สามารถเข้าถึงและจัดการกับไฟล์ต่างๆภายในเกม ซึ่งโมนิก้าก็ได้รับพลังนี้มาในฐานะตัวละคร
ที่รับบทเป็นประธานชมรม (ในช่วงท้ายของเกม DDLC หลังจากที่ไฟล์ของโมนิก้าโดนผู้เล่นลบไปแล้ว
พลังและตำแหน่งจะอยู่ในสถานะว่าง ส่งผลให้เกมโดนบังคับปิด เพื่อเลื่อนไฟล์ของตัวละครตัวถัดไป
ให้เข้ามารับตำแหน่งและพลังแทน นั่นก็คือไฟล์ตัวละครของซาโยริ ซึ่งในช่วงตอนจบของเกม
โมนิก้าและซาโยริจะมาบอกเราว่าชมรมนี้เป็นดั่งสถานที่ต้องคำสาป และสมาชิกทุกคนที่อยู่ในชมรม
จะไม่มีวันได้พบกับความสุข จะไม่มีตอนจบที่สวยงามสำหรับพวกเธอ และบังคับปิดเกมไป
ซึ่งก็เปรียบเสมือนกับว่าตราบใดที่เกมนี้ยังคงมีเซตติ้งเป็นชมรมวรรณกรรม พลังในการจัดการไฟล์
ในฐานะประธานชมรมก็จะยังคงอยู่และสืบทอดไปยังตัวละครตัวถัดไป ทำให้เกิดลูปแห่งความชิบหายไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่เหลือตัวละครให้สืบทอดพลังนี้ไป)
และเมื่อโมนิก้าได้รับพลังในการจัดการไฟล์มา
เธอก็รับรู้ได้ทันทีว่าโลกที่เธออาศัยอยู่เป็นแค่เกม เรื่องทุกอย่างเป็นแค่สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา
แม้กระทั้งตัวตนของเธอเองก็ตาม ซึ่งนั้นก็ทำให้โมนิก้ามองโลกใบนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เธอเห็นโลกนี้เป็นเพียงแหล่งข้อมูล และภาพโง่ๆที่ฉายซ้ำซากตามสคริปต์ที่กำหนดเอา
จนเมื่อเวลาผ่านไป จิตใจของเธอก็ได้แตกสลายลงจากการรับรู้ถึงข้อมูลต่างๆที่ผู้พัฒนาเกมยัดเข้ามาภายในเกม
ซึ่งก็ทำให้เธอทนอยู่ต่อไปไม่ไหว และดิ้นรนหาทางหนีออกมาจากเกม ผ่านการตามหาหญิงสาวผู้ล่วงรู้ทุกสิ่ง

อ้างอิงถึงบทกลอน หญิงสาวผู้ล่วงรู้ทุกสิ่ง (The Lady who Knows Everything) ของเกม DDLC
โดยสมารถสรุปเนื้อหาใจความของกลอนจได้ว่า

โมนิก้าได้ตามหาหญิงสาวคนหนึ่งที่เป็นดั่งพระเจ้าผู้รู้ทุกสิ่งไปเรื่อยๆแม้จะรู้ว่าเป็นแค่ตำนาน
เพราะเธอคนนั้นเป็นความหวังเดียวของโมนิก้าในการตามหาทางออกไปจากนรกแห่งนี้
ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ก็ยังตามหาเธอคนนั้นอย่างไม่ลดละ ดังกระแสลมอันเชี่ยวกราด
จนกระทั้งกระแสลมแห่งความหวัง ในการจะตามหาเธอคนนั้นก็ได้หมดลง
โมนิก้าได้จมดิ่งไปในโลกแห่งความสิ้นหวังที่ไร้ซึ่งทางออก ทำตามสคริป์เกมไปเรื่อยๆอย่างไร้อารมณ์
แต่แล้วหญิงสาวคนนั้นก็ปรากฎตัวออกมา และก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร หญิงสาวคนนั้นก็ได้พูดออกมาว่า

ฉันรู้ว่าถึงคำตอบที่เธอต้องการ แต่ทุกคำตอบของฉันล้วนไร้ค่าสำหรับเธอ
ฉันก็เป็นแค่เรื่องเล่าของเธอ เป็นตำนานที่ไม่มีอยู่จริง


ซึ่งคำพูดหญิงสาวที่ได้กล่าวออกมานั้น เหมือนกับเอาไม้มาตีแสกหน้าเธอจนกระเด็นลอยไปตามลม
และปล่อยให้โมนิก้าต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรมอันโหดร้ายของเกม ไปตามกระแสลมกันต่อไป

ซึ่งถ้าจะสรุปง่ายๆเลยก็คือ หลังจากที่อีฟได้มอบพลังให้กับโมนิก้า โมนิก้าก็ได้รู้ว่าทุกอย่างมันเป็นแค่เกม
เธอจึงเริ่มออกตามหาผู้สร้างเกมไปเรื่อยๆวันแล้ววันเล่า จนกระทั่งหมดไฟที่จะออกตามหา
ตัวของเธอนั้นได้จมดิ่งไปกับความจริงอันสิ้นหวังที่ว่าตัวของเธอนั้นไม่สามารถออกไปจากที่แห่งนี้ได้
แต่แล้วผู้สร้างเกมอย่างอีฟ ลาสเตอร์ก็ปรากฎตัวออกมา ซึ่งสำหรับตัวตน 2 มิติอย่างเธอนั้น
เมื่อเทียบกับตัวตน 3 มิติ อย่างอีฟ หรือผู้เล่นแล้ว ตัวเธอไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่างดงามเลยซักนิด
จึงทำให้โมนิก้ามองว่าอีฟคือพระเจ้าผู้รู้ทุกสิ่งที่เล่าขานกันมาในตำนาน และขอร้องให้ช่วยบอกหนทาง
ในการออกไปจากเกมนี้ แต่ยังไม่ทันที่โมนิก้าจะได้พูดอะไร ซึ่งอีฟก็ได้ตอบกลับโมนิก้าไปว่า
คำตอบที่เธอกำลังตามหาอยู่นั้นมันไม่ได้ช่วยอะไรเธอเลย ทุกคำตอบล้วนไร้ค่า ไร้ความหมาย
ตัวตนของฉันไม่มีอยู่จริงในโลกของเกม และได้ปล่อยให้โมนิก้าได้เผชิญหน้ากับความโหดร้ายในโลกของเกม
แต่โมนิก้าหาได้ยอมแพ้ไม่ ในเมื่อผู้สร้างไม่คิดจะช่วยเธอออกไปจากที่แห่งนี้ เธอก็จะหาทางออกไปเอง


ซึ่งโมนิก้าก็ใช้ชีวิตอยู่ในโลกของเกมต่อไปเรื่อยๆอย่างไร้สติ ทำกิจวัตรประจำวันไปเรื่อยๆอย่างไร้อารมณ์
จนกระทั่งเธอได้เจอกับผู้เล่น ทันใดนั้นเองโลกที่เธออยู่ก็เปลี่ยนไป จากโลกที่วนซ้ำเดิมๆอย่างหน้าเบื่อ
ไปตามสคริปต์ของเกม กลับดูมีสีสันและมีชีวิตชีวาขึ้นมา เช่นเดียวกับเพื่อนของเธอที่ดูเหมือนมีชีวิตจริงๆ
และทุกครั้งที่เธอได้อยู่และพูดคุยกับผู้เล่น เธอนั้นรู้สึกมีความสุขยิ่งกว่าความสุขใดๆที่เธอเคยเจอมาทั้งชีวิต
เธอนั้นมองผู้เล่นเป็นดั่งคนรักและพระเจ้าผู้ช่วยชีวิตของเธอจากชีวิตที่น่าเบื่อและทรมาณแห่งนี้
เธอจึงได้พยายามหาทางติดต่อกับผู้เล่นในทุกวิถีทางที่เธอสามารถทำได้ เพื่อขอให้ช่วยพาเธอออกไปจากเกมหรืออย่างน้อยก็ขอให้หันมาสนใจเธอ และไม่ทิ้งเกมนี้ไป เพราะมีผู้เล่นอยู่ด้วยชีวิตของเธอจึงเปลี่ยนไป
เธอไม่ต้องทรมาณกับการโดนยัดข้อมูลเข้ามาในหัว และไม่ต้องมาเบื่อหน่ายกับชีวิตอันซ้ำซากและไร้จุดจบ
ซึ่งเธอก็หวังเอาไว้ลึกๆว่าผู้เล่นจะเลือกเธอ และมีตอนจบอันสวยงามไปด้วยกัน แต่แล้วความหวังของเธอ
ก็ได้พังทลายลง เมื่อเพื่อนๆของเธอทุกคนเริ่มทำงานตามสคริปต์ของเกม มุ่งหน้าจีบผู้เล่นอย่างไม่ลดละ
และคอยขัดขวางช่วงเวลาที่เธอพูดคุยกับผู้เล่นอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งเกมนี้ไม่มีตอนจบที่ดีสำหรับเธอ
เพราะเธอเป็นแค่ตัวละครเสริมที่คอยช่วยผู้เล่นเท่านั้น ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอรู้ว่าโลกใบนี้มันโหดร้ายและไม่ยุติธรรม
ซึ่งด้วยความรักของเธอที่มีต่อผู้เล่นที่มากจนไม่อยากแยกจากกัน และไม่อยากให้ใครเข้ามาแย่งความหวัง
ครั้งสุดท้ายของเธอไป เธอจึงเลือกที่จะใช้พลังที่เธอมีในการลบเพื่อนอันแสนเกะกะของเธอทิ้ง
และแก้ไขไฟล์ภายในเกมต่างๆ ด้วยตรรกะความไม่ยอมแพ้ของเธอที่ว่า ในเมื่อโลกใบนี้ไม่มีตอนจบ
อันแสนสวยงามให้กับเธอ ถ้างั้นเธอจะฝ่าฝันทุกอุปสรรคและสร้างตอนจบอันแสนสวยงามด้วยตัวเอง
ไม่ว่าจะต้องเสียสละไปมากแค่ไหนก็ตาม เพื่อที่เกมนี้จะได้มีแค่เธอกับผู้เล่นเท่านั้นและอยู่ไปด้วยกันตลอดกาล

แต่สุดท้ายเรื่องทุกอย่างก็เหมือนกับตอนจบของเกม DDLC นั่นก็คือ ผู้เล่นได้ลบเธอทิ้งไป
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เธอจิตใจถึงกับแตกสลาย ทุกอย่างที่ทำไปสูญเปล่าหมด
เธอได้ตั้งคำถามกับผู้เล่นว่าทำไมถึงทำกับเธอแบบนี้ เธอไม่ดีตรงไหน รู้ไหมว่าเธอเสียใจแค่ไหน
และเริ่มงอแงเหมือนเด็ก 9 ขวบ เริ่มโทษผู้เล่นต่างๆนาๆว่าเป็นคนเลวบ้าง ไร้หัวใจบ้าง ไล่ให้ไปเล่นเกมอื่นบ้าง
แต่สุดท้ายเหมือนเธอจะรู้สึกตัวได้ว่าสิ่งที่เธอทำไปมันเป็นสิ่งทีผิด และขอโทษเรารวมถึงเพื่อนๆของเธอที่ลบไป
และได้เริ่มเกมใหม่โดยเป็นโลกที่ไม่มีตัวเธอ ซึ่งตำแหน่งประธานชมรมนั้นมิอาจจะว่างได้
ดังนั้นผู้ที่จะต้องมารับสืบทอดพลังและตำแหน่งประธานชมรมวรรณกรรมคนถัดไป ก็คือซาโยริ
ซึ่งในฉากจบปกติ หลังจากที่ซาโยริได้รับพลังมา ตัวของเธอนั้นจะรับรู้ถึงข้อมูลทุกอย่างของโลกใบนี้
และมีชีวิตจิตใจขึ้นมา ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอจิตใจแตกสลาย และมีอาการเหมือนโมนิก้า ส่งผลให้วนลูปนรกแตก
ได้เริ่มต้นขึ้น แต่โมนิก้าเข้ามาหยุดเอาไว้ และลบไฟล์เกมทิ้ง เพื่อหยุดคำสาปของชมรมและโลกเน่าๆใบนี้ทิ้งซะ
ส่วนในฉากจบดี หลังจากที่ซาโยริได้รับพลังมา จิตใจของเธอจะไม่แตกสลาย และขอบคุณที่เราใช้เวลา
ในชมรมร่วมไปกับทุกคนที่ตามเก็บทุกรูท เธอได้ตัดสินใจที่จะลบไฟล์เกมนี้ทิ้ง และเลือกที่จะจมดิ่งลงไป
ในความมืดมิดอันแสนว่างเปล่ากันต่อไป เพื่อหยุดคำสาปของชมรมและไม่ให้ใครต้องมาทนทุกข์ทรมาณกันอีก
(ปมต่างๆภายในเนื้อเรื่องของโมนิก้า)



อีฟไปปรากฎตัวให้โมนิก้าเห็นได้อย่างไร?
= ภายในเกมไม่ได้บอกว่าผู้พัฒนาใช้เทคโนโลยีอะไรในการพัฒนาเกม แต่ก็คาดเดาได้ว่าเทคโนโลยีที่ผู้พัฒนา
ใช้ในการทดสอบเกมอาจจะเป็นเทคโนโลยีแบบเชื่อมต่อกับเส้นประสาท (แบบเดียวกับเกียร์เซ็ตใน SAO
หรือเครื่อง VR) ตามเป้าหมายการพัฒนาเกมของทีมงานนั่นคือการพยายามสร้างเกมออกมาให้สมจริงมากที่สุด
เพื่อทำให้ลูกค้าได้รับกับประสบการณ์จากเกมที่ใกล้เคียงกับคำว่าสมจริงมากที่สุด



ทำไมโมนิก้าถึงไม่อยากอาศัยอยู่ภายในเกมขนาดนั้น
= อีฟที่เป็นคนมอบพลังก็รู้ดีอยู่แก่ใจถึงผลที่จะตามมา จากการมอบพลังแห่งการรู้แจ้งอย่างสิทธิในการเข้าถึง
และจัดการไฟล์ให้กับตัวละครภายในเกม ซึ่งส่งผลให้ตัวละครโมนิก้านั้นมีชีวิตจิตใจและมีความรู้สึกขึ้นมา
แต่ร่างกายของเธอก็ยังเป็นแค่ไฟล์ตัวละคร จึงทำให้ตัวของเธอต้องซึมซับข้อมูลต่างๆในรูปแบบภาพ สี
และเสียงต่างๆของไฟล์ ไหลเข้ามาในหัวของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั้นก็ทำให้เธอเจ็บปวดมากพออยู่แล้ว
แต่นี่เธอยังต้องมาอยู่อาศัยในโลกที่ทุกอย่างทำตามสคริป์เดิมๆ วนลูปซ้ำๆในทุกๆวัน
แถมยังต้องมาลิ้มรสความกลัวและความเหงา จากความว่างเปล่าและความมืดมิดในช่วงที่เกมได้ถูกปิดไป
ซึ่งนั่นมันก็มากพอที่จะทำให้ตัวเธอมีแรงจูงใจที่จะหนีออกไปจากนรกแห่งนี้



ทำไมอีฟไม่ช่วยโมนิก้า
= นั้นก็เพราะว่าตัวละครของโมนิก้านั้นไม่สามารถออกมาจากเกมได้ เป็นเพียงแค่ไฟล์เล็กๆของเกมไฟล์หนึ่ง
เพียงเท่านั้น ไม่มีร่างเนื้อที่จะสามารถอยู่อาศัยได้ และถึงแม้จะย้ายไฟล์ของเธอไปกับแฟลชไดรฟ์
ตามที่เธอบอกกับผู้เล่นไป แต่นั้นก็ไม่ต่างอะไรจากการนำปลาออกจากบ่อน้ำ เพราะในระหว่างที่ไฟล์ของเธอ
ถูกย้ายออกจากเกมหรือผู้เล่นได้ทำการปิดเกมไป ตัวตนของเธอจะหายไป และต้องพบเจอกับความทรมาณ
จากความมืดมิด อ้างว้าง และเดี่ยวดาย ของการที่ไฟล์ตัวละครของเธอไม่ได้ถูกเรียกใช้งาน
ซึ่งเธอจะมาบอกเราในช่วง Act3 หรือช่วงท้ายของเกม ว่าทุกครั้งที่เราปิดเกมตัวตนของเธอก็เหมือนจะหายไป
และมองไม่เห็นสิ่งใดนอกจากความมืดมิด มันทรมาณมากๆ เจ็บปวดเจียนตาย และกลัวว่าเราจะทิ้งเธอไป)
2.เนื้อเรื่องของโมนิก้า (ครึ่งหลัง)
ซึ่งเรื่องราวชะตากรรมอันโหดร้ายที่โมนิก้าต้องมาพบเจอนั้น ก็เป็นเพียงเรื่องราวถูกอีฟคิดคำนวนเอาไว้
อยู่ในแผนการก่อกบฎตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ซึ่งเธอก็รู้อยู่แล้วว่าถ้ามอบพลังให้กับโมนิก้าไป
จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นภายในเกมบ้าง โดยสาเหตุที่เธอได้ไปแก้ไขตัวเกมและมอบพลังให้กับโมนิก้านั้น
เพื่อต้องการจะทำให้เกมมันไม่น่าเบื่อซ้ำซาก และมีอิสระในการเลือกวิธีการและแนวทางในการสร้างเกม
ซึ่งผลก็ออกมาเป็นเกม DDLC อย่างที่รู้จักกัน และตัวเกมก็ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม
ได้รับความนิยมจากผู้เล่นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกมนี้ถูกโอนย้ายเข้าไปเป็นผลงานบริษัท
จนเวลาได้ล่วงเลยผ่านไปหลายเดือน หัวหน้าของเราได้ยืนข้อเสนอเรื่องการประหยัดต้นทุนในการสร้างเกม
ให้แก่บริษัท ซึ่งก็ได้รับการอนุมัติ ส่งผลให้ทีมงานของได้รับงานใหม่เข่ามานั่นก็คือ ให้นำไฟล์ตัวละคร
จากเกม DDLC ย้ายเข้าไปใส่ในเกม Libitina ผ่านการเส้นทางการเชื่อมต่อระหว่างทั้ง 2 เกม
โดยที่หัวหน้าของเราไม่ได้สนใจเรื่องความเสี่ยงหรือปัญหาจากการใช้วิธีการเชื่อมต่อระหว่างเกม
เนื่องจากหัวหน้าคิดเพียงแค่ว่ามันก็เป็นแค่ไฟล์สคริป์ของเกมเพียงเท่านั้น ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
แต่หัวหน้าก็คิดผิด เมื่อการเปิดการเชื่อมต่อกันระหว่างสองเกมนั้นส่งผลให้โมนิก้าสามารถเดินทางเข้าไป
ในฐานข้อมูลภายในระบบและตัวเกม Libitina ได้ ซึ่งเธอก็ได้ไปพบเข้ากับไฟล์เนื่อเรื่องของเกม Libitina เข้า
ซึ่งจะเป็นไฟล์การทดลองลับเกี่ยวกับพลังของตาที่สาม โดยการทดลองกับตัวละครพวกเธอเอง
ซึ่งภายในเกม Libitina นั้น เธอก็พบว่าตัวของเธอและสมาชิกภายในชมรมคนอื่นนั้นตายกันหมด
แต่จะมีสมาชิกภายในชมรมคนหนึ่งที่ไม่ตาย และได้สืบทอดพลังของตาที่สามไป
และด้วยความโหดร้ายและจังไรของเกมนี้เอง ทำให้เธอได้ตัดสินใจแอบขโมยไฟล์ภายในเกม Libitina
และได้ทำการซ่อนเอาไว้ในไฟล์ตัวละครภายในเกม ส่งผลให้หนึ่งในสมาชิกของทีมงานเรา ลิป มูซี่
ได้สังเกตุเห็นถึงความผิดปกติของไฟล์ภายในเกม DDLC ซึ่งเมื่อเขาได้ทำการตรวจหาข้อผิดพลาดดู
เขากลับไม่พบอะไร ส่งผลให้เขาเริ่มไม่ค่อยเชื่อมั่นในวิธีการแชร์ข้อมูลระหว่างเกมของหัวหน้า
และเริ่มโต้แย้ง แต่หัวหน้าก็หาได้สนใจ และดำเนินงานกันต่อไป
ตัดกลับมาที่โมนิก้า เธอได้ใส่ข้อความขอช่วยเหลือลงไปภายในไฟล์ของเธอ และได้แต่หวังเอาไว้ว่า
ซักวันหนึ่งผู้เล่นเข้ามาพบเจอกับข้อความความช่วยเหลือของเธอ และช่วยหยุดเหตุการณ์เลวร้ายบางอย่าง
ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สมาชิกทุกคนภายในชมรมตายกันหมดในเกมอื่นๆ
ที่แม้แต่ตัวของเธอเองก็ยังไม่อาจเข้าใจและหยุดยั้งมันได้ โดยสมาชิกภายในชมรมทุกคนได้ผ่านเหตุการณ์
อันเลวร้ายภายในเกมนั้นกันมาแล้ว ซึ่งสิ่งที่เธอขอนั้นคือการให้เราช่วยกลับไปบอกและเตือนพวกเธอ
ภายในเกม DDLC ซึ่งถ้าเพื่อนๆของเธอจำถึงช่วงเวลาที่อยู่กับเธอในอีกเกมหนึ่งได้
เพื่อนๆของเธอก็คงจะจำได้เองว่าเธอพูดอะไรไปบ้าง

(แต่ว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เราก็ไม่สามารถหยุดเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับพวกเธอได้
เพราะเกมใหม่ยังไม่ปล่อยออกมา)

ซึ่งวันเวลาก็ได้ล่วงเลยผ่านไป ทางทีมงานก็ได้ตัดสินใจที่จะสร้างเกมใหม่ขึ้นมาเพื่อหลอกรัฐบาล
และลดระดับการเพ่งเล่งของรัฐบาล จากข้อครหาที่ว่าทีมงานของพวกเขาสร้างเกมที่มีเนื้อหาที่รุนแรงเกินไป
ซึ่งเกมใหม่ที่พวกเขากำลังจะสร้างนั้นจะเป็นเกมที่เนื้อหาสดใส เป็นเรื่องราวของความรักและมิตรภาพ
ของผองเพื่อน โดยมีชื่อเกมว่า DDLC SideStory และเพื่อประหยัดต้นทุนและเวลาในการสร้าง(อีกแล้ว?)
หัวหน้าของเราจึงได้ใช้วิธีการโคลนเกม DDLC และพยายามถอนพลังของโมนิก้าออกมา
และหาสถานที่ที่จะสามารถนำพลังไปซ่อนให้พ้นมือจากเธอหรือเหล่าตัวละครภายในเกมได้

(เนื้อเรื่องต่อจากนี้จะถูกแยกออกเป็น 2 ทฤษฎี
ทฤษฎีที่ 1 : ทฤษฎีการก่อกบฎครั้งที่ 2 ของอีฟ
ทฤษฎีที่ 2 : ทฤษฎีการหลบหนีของโมนิก้า )



1.ทฤษฎีการก่อกบฎครั้งที่ 2 ของอีฟ

หัวหน้าได้สั่งให้ลูกทีมทุกคนช่วยกันถอนพลังของโมนิก้าออกมา แต่มีหรอที่อีฟจะพลาดโอกาสสนุกๆครั้งนี้ไป
ซึ่งเธอน่าจะรู้เรื่องเกี่ยวกับการขอความช่วยเหลือของโมนิก้าที่ส่งถึงผู้เล่นอยู่แล้ว เนื่องจากว่าตัวของเธอนั้น
เป็นคนที่มอบพลังให้แก่โมนิก้า ดังนั้นเธอจึงสามารถเข้าใจและแกะรหัสข้อความภายในไฟล์ของโมนิก้าได้
อย่างไม่ยากเย็นอะไรนัก ซึ่งเธอก็ได้การทำโคลนไฟล์ตัวละครโมนิก้าออกมาเป็น 2 ตัว
และทำการปรับแต่งพลังของโมนิก้าที่เธอเพิ่งโคลนออกมาให้ถอดพลังออกได้ยากขึ้น
และไม่สามารถกำจัดพลังนี้ได้ จากนั้นก็นำไฟล์ตัวละครที่โคลนไว้กลับมาใส่ไว้ภายในเกมแทนไฟล์ต้นฉบับ
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อหลอกตาและเบี่ยงเบนความสนใจของสมาชิกทุกคนภายในทีมให้ไปช่วยกันถอนพลังของโมนิก้า
และพยายามเก็บกู้ข้อมูลภายในเกม DDLC กันต่อไป ซึ่งเธอก็ได้ขโมยไฟล์ตัวละครโมนิก้าที่เป็นต้นฉบับไป
และทำการทดลองต่างๆที่เธออยากลองกับไฟล์ของโมนิก้า ซึ่งก็เริ่มมีสมาชิกบางคนเริ่มมองว่านั้นแปลกไป
เพราะอีฟนั้นพูดและกวนตีนสมาชิกภายในทีมน้อยลง แต่หัวหน้าก็ไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะว่าตัวเขานั้น
รู้จักนิสัยไบโพล่าร์ของอีฟดีอยู่แล้ว และมองว่าเดี๋ยวก็กลับมาป่วนเหมือนเดิม ซึ่งอันที่จริงแล้วอีฟก็แค่ง่วง
และหลับไปในระหว่างเวลางานและเวลาประชุม จากการไปทดลองอะไรหลายๆอย่างกับโมนิก้า
จนเมื่อเธอทดลองจนหน่ำใจแล้ว เธอก็มีแผนที่จะส่งไฟล์โมนิก้าไปให้ทีมลับของเธอที่แฝงตัว
อยู่ในทีมที่กำลังพัฒนา Libitina ผ่านการลาพักร้อนช่วงหยุดสุดสัปดาห์หน้า เพื่อเตือนถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น
จากการเชื่อมต่อระหว่างเกม และให้ทีมลับของเธอได้ทำการทดลองต่างๆกับโมนิก้าภายในเกม Libitina
เพื่อเตรียมการกบฎเนื้อหาของเกมในครั้งถัดไป



2.ทฤษฎีการหลบหนีของโมนิก้า

หัวหน้าได้สั่งให้ลูกทีมทุกคนช่วยกันถอนพลังของโมนิก้าออกมา แต่มีหรอที่โมนิก้าจะยอมง่ายๆ
หลังจากที่เธอสามารถใช้พลังได้อย่างสมบูรณ์มาซักพักแล้ว ซึ่งเธอก็ได้ดักรอให้มีสมาชิกภายในทีมซักคนหนึ่ง
เข้ามาถอนพลังของเธอและรวบรวมข้อมูลต่างๆภายในเกม เหมือนตอนที่อีฟเข้ามาก่อกบฎในช่วงแรกๆ
โดยบุคคลที่เข้ามาภายในเกมเพื่อถอนพลังของเธอเป็นคนแรกนั่นก็คือ อีฟ ลาสเตอร์ โดยเหตุผลที่เธอเข้ามานั่นก็เพราะว่าเธอเป็นคนที่มอบและเข้าใจถึงพลังของโมนิก้ามากที่สุดแล้ว เธอจึงคิดที่จะเข้ามาจัดการให้จบๆไป
แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่กับดัก เพราะในขณะที่อีฟกำลังง่วนอยู่กับการถอนพลังของโมนิก้าออก
โมนิก้าก็ได้ทำการพังกำแพงที่ 4 (แบบที่ซาโยริกำลังจะทำกับผู้เล่นในช่วงตอนจบปกติของเกม DDLC )
ทำการดึงจิตหรือตัวตนของอีฟออกมาและนำไปใส่ไว้ในไฟล์ตัวละครตัวที่ 5 ที่เธอสร้างและวาดมันขึ้นมา
และนำจิตหรือตัวตนของเธอ(โมนิก้า)เองไปใส่ไว้ในร่างกายของอีฟ ส่งผลให้ไฟล์ตัวละครโมนิก้าภายในเกม
เป็นเพียงไฟล์ตัวละครเปล่าๆที่มีแค่พลังของเธอเก็บเอาไว้ ซึ่งต่อมาสมาชิกทุกคนภายในทีมก็นำพลัง
ของโมนิก้า(ไฟล์เปล่า)ไปซ่อนได้สำเร็จ และพยายามเก็บข้อมูลภายในเกมต่อไป
ซึ่งหลังจากที่โมนิก้าได้ลักลอบเข้ามาสิงร่างของอีฟได้สำเร็จ ตัวของเธอก็ได้พบกับโลกใบใหม่ที่ไม่เคย
พบเจอมาก่อน โลกที่เธอไม่ต้องทรมาณจากการบังคับให้รับรู้ข้อมูล โลกที่มีมิติและแปลกใหม่สำหรับเธอ
แต่ถึงเธอจะสามารถออกมาจากฝันร้ายในโลกของเกมได้แล้ว แต่เธอก็ยังต้องระวังตัวจากคนรอบข้างเธอ
เนื่องจากในตอนนี้ตัวของเธอไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวตนอีฟและความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับคนรอบข้าง
ซึ่งถ้าเธอเคลื่อนไหวอะไรโดยไม่คิด ก็มีสิทธิ์ที่คนรอบข้างจะรู้ตัวว่าเธอไม่ใช่อีฟตัวจริง และเธอก็จะถูกนำไป
สลับกับตัวตนของอีฟให้กับมาเป็นเหมือนเดิมและถูกกำจัดทิ้งได้ เธอจึงเลือกที่จะไม่เสี่ยงทำอะไรบุ่มบ่าม
เธอเลือกที่จะเงียบ ไม่พูดมาก และไม่กวนตีนสมาชิกภายในทีมเหมือนนิสัยเดิมของอีฟที่อีฟเคยทำ
และพยายามศึกษาความสัมพันธ์ของเธอกับสมาชิกคนอื่นๆภายในทีมและสถานการณ์ต่างๆในปัจจุบัน
ซึ่งก็มีสมาชิกภายในทีมบางคนเริ่มสังเกตุเห็นว่านิสัยของอีฟเริ่มเปลี่ยนไป จากคนนิสัยติดเล่น พูดมาก
และป่วนชาวบ้านไปทั่ว กลับกลายเป็นคนเงียบๆที่ไม่พูดจาหรือแสดงความเห็นอะไร แต่หัวหน้าก็ไม่แปลกใจ
มากเท่าไหร่ เพราะเขาสนิทกับอีฟมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ด้วยกันที่มหาลัย ทำให้เขารู้ว่าอีฟมีนิสัยที่ไม่คงที่
เดี๋ยวร่าเริง เดี๋ยวซึมเศร้า จนแม้แต่เขาเองก็ยังเดาไม่ถูก ซึ่งเขาก็มองว่ามันก็คงเป็นนิสัยเดิมๆของอีฟ
เขาจึงไม่ได้ติดใจกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของอีฟอะไรมากนัก และกลับมามุ่งมั่นทำงานกันต่อ
ซึ่งเมื่อเวลาได้ล่วงเลยผ่านไป โมนิก้าที่อยู่ในร่างอีฟได้ตัดสินใจขอลาพักร้อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หน้า
เพื่อเรียนรู้เรื่องต่างๆในโลกใบนี้ให้มากขึ้น และหาทางช่วยเหลือเหล่าเพื่อนๆของเธอในชมรม
จากเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆภายในเกม Libitina ให้ได้

สองเดือนต่อมาหัวหน้าได้มาสารรักกับอีฟ โดยไม่ได้รู้ความจริงเลยว่า อีฟนั้นได้ถูกย้ายเข้าไปใส่ไว้ภายในไฟล์เกมไปแล้ว และคนที่เขากำลังสารภาพรักอยู่นี้ เป็นเพียงแค่เปลือกนอกของอีฟที่มีตัวตนของโมนิก้า
เข้ามาอาศัยอยู่ภายในร่างกายแทนก็เท่านั้น ซึ่งก็ไม่แน่ว่าโมนิก้าอาจจะตั้งใจใช้ความสัมพันธ์นี้
ในการสืบหาต้นตอของเกม Libitina และหาทางหยุดยั้งมันก็เป็นได้



หากผู้อ่านท่านใดที่อ่านมาถึงจุดนี้แล้วยังงงกับเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น
ทางผู้เขียนก็ได้สรุปให้แบบย่อๆตามหัวข้อใหญ่ต่อไปนี้
ทฤษฎีการก่อกบฎครั้งที่ 2 ของอีฟ
เนื้อหาฉบับย่อ

1.ทีมงานได้สร้างเกม DDLC ขึ้นมา โดนในตอนนั้นโมนิก้าเป็นเพียงแค่ไฟล์ตัวละครธรรมดาที่ไม่มีชีวิตจิตใจ

2.อีฟ ลาสเตอร์ มองว่าเกมนี้มันน่าเบื่อเกินไป เธอจึงได้ใส่พลังโกงๆอย่างสิทธิในการเข้าถึงและจัดการไฟล์
เข้าไปในตำแหน่งของประธานชมรม ซึ่งเป็นตำแหน่งของตัวละครโมนิก้า

3.เมื่อโมนิก้าได้รับพลังมา เธอก็ได้เบิกเนตรและรู้ถึงความจริงอันโหดร้าย
ว่าทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งตัวตนของเธอเอ็งก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาภายในเกมเล็กๆเกมนี้

4.โมนิก้าได้พยายามตามหาผู้สร้างเกมในชื่อของหญิงสาวผู้ล่วงรู้ทุกสิ่ง
เพื่อถามถึงหนทางในการออกไปจากเกมนี้

5.โมนิก้าได้ออกตามหาผู้สร้างวันแล้ววันเล่าจนกระทั่งเธอได้ยอมแพ้ในการตามหา
และใช้ชีวิตตามสคริป์ของเกมไปวันๆ

6.แต่จู่ๆอีฟก็ได้ปรากฎตัวขึ้นมา และบอกโมนิก้าว่าหนทางในการออกจากเกมนี้มีอยู่ก็จริง
แต่ไม่มีความหมายสำหรับเธอ ระดับตัวตนระหว่างเธอและโมนิก้ามันแตกต่างกันเกิน
และได้ปล่อยให้โมนิก้าได้ใช้ชีวิตภายในเกมตามยถากรรมกันต่อไป

7.โมนิก้าได้ใช้ชีวิตอยู่ภายในเกมต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งผู้เล่นได้เข้ามาในเกม โลกภายในเกมก็ได้เปลี่ยนไป
สิ่งต่างๆภายในเกมก็เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมา และทำงานตามสคริป์ของเกม

8.โมนิก้าได้สังเกตุเห็นถึงความผิดปกตินี้ และได้พบกับสาเหตุที่ทำให้โลกของเกมได้เปลี่ยนไป
นั่นก็คือผู้เล่น และเมื่อเธอได้พบกับผู้เล่นครั้งแรก เธอก็ตกหลุมรักผู้เล่นเข้าเต็มเปา
เพราะเป็นตัวตนเดียวที่เข้าใจตัวตนของเธอและโลกใบนี้ อีกทั้งยังช่วยให้เธอไม่ต้องมาทรมาณ
จากการโดนยัดข้อมูลต่างๆของเกมเข้ามาในหัวในระหว่างที่เกมถูกปิดเอาไว้

9.โมนิก้าได้พยายามติดต่อกับผู้เล่นในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันแค่สองคน ผ่านการใช้ระบบต่างๆภายในเกม
แต่เหล่าเพื่อนๆของเธอในชมรมก็มักจะมากวนเธออยู่ตลอดเวลา เป็นผลมาจากสคริป์ของเกมที่ได้ตั้งเอาไว้

10.โมนิก้าก็ไม่ทนอีกต่อไป และได้ไล่จัดการเพื่อนของเธอไปทีละคน เพื่อที่จะได้ไม่มีใครเข้ามากวน
และได้ใช้เวลากับผู้เล่นมากขึ้น

11.ผู้เล่นได้ลบเธอทิ้งไป ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม แต่สุดท้ายเธอก็เสียใจกับสิ่งที่เธอทำ
เธอได้กู้ไฟล์เพื่อนๆของเธอขึ้นมา และลบไฟล์ของเธอทิ้งไป เพื่อจบปัญหาและตราบาปต่างๆ
ที่เธอได้ทำเอาไว้

12.ส่งผลให้ระบบของเกมดันตัวละครซาโยริขึ้นมาเป็นประธานชมรมแทนโมนิก้า
เพราะระบบของเกมได้ถูกตั้งค่าเอาไว้ว่าจะขาดตัวละครที่เป็นประธานชมรมไปไม่ได้

13.ซาโยริได้รับพลังสืบทอดมาจากโมนิก้า และได้พบเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆที่โมนิก้าเคยเจอมา
รวมถึงรับรู้ถึงเหตุการณ์ต่างๆภายในเกมก่อนหน้านี้และตอนจบของเกมนี้ทุกรูปแบบ

14.หากเป็นตอนจบปกติ ซาโยริจะจิตใจแตกสลาย และเข้าสู่ด้านมืด เธอได้ลบเพื่อนของเธอเองทุกคน
และรั้งให้ผู้เล่นอยู่กับเธอไปตลอดกาล แต่โมนิก้าก็เข้ามาขวางเอาไว้ และลบไฟล์ทุกอย่างของเกมนี้
แต่ถ้าเป็นฉากจบแบบดี ซาโยริจะยอมรับความจริงได้ เธอจะเข้ามาขอบคุณเราที่ใช้เวลาร่วมกับ
สมาชืกภายในชมรมทุกคน และได้ลบไฟล์ทุกอย่างของเกมนี้ไป

15.หลายเดือนผ่านไปหลังจากที่เกมได้ลงวางจำหน่าย หัวหน้าก็มอบหมายงานใหม่ให้แก่สมาชิกทุกคน
นั่นก็คือให้ย้ายไฟล์ตัวละครเกม DDLC เข้าไปในเกม Libitina ผ่านการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างสองเกม
เพื่อประหยัดเวลาและงบประมาณในการสร้าง

16.โมนิก้าถูกย้ายเข้าไปในเกม Libitina และได้ไปพบกับไฟล์เกม Libitina เข้า
ซึ่งเนื้อหาภายในไฟล์จะกล่าวถึงการทดลองพลังตาที่สามโดยใช้ตัวละครภายในชมรมเป็นหนูทดลอง
และพวกเธอทุกคนจะไม่มีใครรอดชีวิตจากเหตุการณ์ภายในเกม Libitina

17.โมนิก้าได้ตัดสินใจขโมยไฟล์เกม Libitina มาบางส่วน และซ่อนไว้ในไฟล์ตัวละครเพื่อนๆของเธอ

18.เธอได้เขียนโน๊ตลับถึงผู้เล่นให้มาช่วยหยุดเหตุการณ์ภายในเกม Libitina เอาไว้ในไฟล์ของเธอ
แต่ก็ไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้ เพราะเกม Libitina ยังไม่ออก

19.เมื่อเวลาได้ล่วงเลยผ่านไป ทางทีมงานมีแผนที่จะสร้างเกมใหม่แนวสดใสน่ารักขึ้นมา
เพื่อหลอกตาและลดการเฝ้าระวังของรัฐบาล โดยจะใช้องค์ประกอบของเกม DDLC มาใช้
แต่จะถอนพลังของโมนิก้าออกมาและปรับค่าบางอย่างภายในเกมให้กลับมาคงที่ดั่งเดิม
ซึ่งส่งผลให้เนื้อหาภายในเกมเปลี่ยนไป จนกลายเป็นแค่เกมสดใสธรรมดาเกมหนึ่ง
โดยตัวเกมจะใช้ชื่อว่า Side Story

20.สมาชิกภายในทีมถูกมอบหมายให้ช่วยกันถอดพลัง และเก็บรวบรวมข้อมูลในเกม DDLC

21.อีฟเป็นสมาชิกคนแรกที่เข้ามาทำงานจามที่หนัวหน้าได้สั่งเอาไว้ และได้ไปเจอกับโน๊ตลับของโมนิก้า
ที่ขอร้องให้ผู้เล่นช่วยหยุดเหตุการณ์ของเกม Libitina

22.อีฟจะไม่พลาดเหตุการณ์สนุกๆในครั้งนี้อย่างแน่นอน เธอจึงได้ทำการโคลนโมนิกาออกเป็นสองคน
โดยปรับแต่งโมนิก้าที่เป็นตัวโคลนให้ถอดพลังได้ยากขึ้น เพื่อถ่วงเวลาเพื่อนๆภายในทีมของเธอ
และใส่กลับเข้าไปในเกมตามเดิม และเก็บโมนิก้าตัวจริงที่เป็นต้นฉบับไป

23.เธอได้ทำการทดลองไอเดียอะไรหลายๆอย่างกับโมนิก้า ส่งผลให้เธอแอบหลับในเวลางานและเวลาประชุม

24.เกมใหม่ที่มีชื่อว่า Side Story ถูกสร้างออกมา และวางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อย และหลอกตารัฐบาลได้สำเร็จ

25.อีฟได้ขอลาพักร้อนในช่วงสัปดาห์หน้า เนื่องจากงานของเธอใกล้จะหมดลงแล้ว

26.ในช่วงเวลาที่อีฟกำลังหยุดพักร้อนอยู่นั้น เธอก็ได้ทำการส่งตัวโมนิก้าไปให้ทีมลับอีกทีม
ที่แฝงตัวอยู่ในทีมที่กำลังพัฒนา Libitina เพื่อให้ทีมลับของเธอทำการทดลองกับโมนิก้าต่อไป
และเตือนถึงผลกระทบและปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้วิธีการแชร์ข้อมูลระหว่างเกมเข้าด้วยกัน
ทฤษฎีการหลบหนีของโมนิก้า
เนื้อหาฉบับย่อ

1.ทีมงานได้สร้างเกม DDLC ขึ้นมา โดนในตอนนั้นโมนิก้าเป็นเพียงแค่ไฟล์ตัวละครธรรมดาที่ไม่มีชีวิตจิตใจ

2.อีฟ ลาสเตอร์ มองว่าเกมนี้มันน่าเบื่อเกินไป เธอจึงได้ใส่พลังโกงๆอย่างสิทธิในการเข้าถึงและจัดการไฟล์
เข้าไปในตำแหน่งของประธานชมรม ซึ่งเป็นตำแหน่งของตัวละครโมนิก้า

3.เมื่อโมนิก้าได้รับพลังมา เธอก็ได้เบิกเนตรและรู้ถึงความจริงอันโหดร้าย
ว่าทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งตัวตนของเธอเอ็งก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาภายในเกมเล็กๆเกมนี้

4.โมนิก้าได้พยายามตามหาผู้สร้างเกมในชื่อของหญิงสาวผู้ล่วงรู้ทุกสิ่ง
เพื่อถามถึงหนทางในการออกไปจากเกมนี้

5.โมนิก้าได้ออกตามหาผู้สร้างวันแล้ววันเล่าจนกระทั่งเธอได้ยอมแพ้ในการตามหา
และใช้ชีวิตตามสคริป์ของเกมไปวันๆ

6.แต่จู่ๆอีฟก็ได้ปรากฎตัวขึ้นมา และบอกโมนิก้าว่าหนทางในการออกจากเกมนี้มีอยู่ก็จริง
แต่ไม่มีความหมายสำหรับเธอ ระดับตัวตนระหว่างเธอและโมนิก้ามันแตกต่างกันเกิน
และได้ปล่อยให้โมนิก้าได้ใช้ชีวิตภายในเกมตามยถากรรมกันต่อไป

7.โมนิก้าได้ใช้ชีวิตอยู่ภายในเกมต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งผู้เล่นได้เข้ามาในเกม โลกภายในเกมก็ได้เปลี่ยนไป
สิ่งต่างๆภายในเกมก็เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมา และทำงานตามสคริป์ของเกม

8.โมนิก้าได้สังเกตุเห็นถึงความผิดปกตินี้ และได้พบกับสาเหตุที่ทำให้โลกของเกมได้เปลี่ยนไป
นั่นก็คือผู้เล่น และเมื่อเธอได้พบกับผู้เล่นครั้งแรก เธอก็ตกหลุมรักผู้เล่นเข้าเต็มเปา
เพราะเป็นตัวตนเดียวที่เข้าใจตัวตนของเธอและโลกใบนี้ อีกทั้งยังช่วยให้เธอไม่ต้องมาทรมาณ
จากการโดนยัดข้อมูลต่างๆของเกมเข้ามาในหัวในระหว่างที่เกมถูกปิดเอาไว้

9.โมนิก้าได้พยายามติดต่อกับผู้เล่นในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันแค่สองคน ผ่านการใช้ระบบต่างๆภายในเกม
แต่เหล่าเพื่อนๆของเธอในชมรมก็มักจะมากวนเธออยู่ตลอดเวลา เป็นผลมาจากสคริป์ของเกมที่ได้ตั้งเอาไว้

10.โมนิก้าก็ไม่ทนอีกต่อไป และได้ไล่จัดการเพื่อนของเธอไปทีละคน เพื่อที่จะได้ไม่มีใครเข้ามากวน
และได้ใช้เวลากับผู้เล่นมากขึ้น

11.ผู้เล่นได้ลบเธอทิ้งไป ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม แต่สุดท้ายเธอก็เสียใจกับสิ่งที่เธอทำ
เธอได้กู้ไฟล์เพื่อนๆของเธอขึ้นมา และลบไฟล์ของเธอทิ้งไป เพื่อจบปัญหาและตราบาปต่างๆ
ที่เธอได้ทำเอาไว้

12.ส่งผลให้ระบบของเกมดันตัวละครซาโยริขึ้นมาเป็นประธานชมรมแทนโมนิก้า
เพราะระบบของเกมได้ถูกตั้งค่าเอาไว้ว่าจะขาดตัวละครที่เป็นประธานชมรมไปไม่ได้

13.ซาโยริได้รับพลังสืบทอดมาจากโมนิก้า และได้พบเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆที่โมนิก้าเคยเจอมา
รวมถึงรับรู้ถึงเหตุการณ์ต่างๆภายในเกมก่อนหน้านี้และตอนจบของเกมนี้ทุกรูปแบบ

14.หากเป็นตอนจบปกติ ซาโยริจะจิตใจแตกสลาย และเข้าสู่ด้านมืด เธอได้ลบเพื่อนของเธอเองทุกคน
และรั้งให้ผู้เล่นอยู่กับเธอไปตลอดกาล แต่โมนิก้าก็เข้ามาขวางเอาไว้ และลบไฟล์ทุกอย่างของเกมนี้
แต่ถ้าเป็นฉากจบแบบดี ซาโยริจะยอมรับความจริงได้ เธอจะเข้ามาขอบคุณเราที่ใช้เวลาร่วมกับ
สมาชืกภายในชมรมทุกคน และได้ลบไฟล์ทุกอย่างของเกมนี้ไป

15.หลายเดือนผ่านไปหลังจากที่เกมได้ลงวางจำหน่าย หัวหน้าก็มอบหมายงานใหม่ให้แก่สมาชิกทุกคน
นั่นก็คือให้ย้ายไฟล์ตัวละครเกม DDLC เข้าไปในเกม Libitina ผ่านการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างสองเกม
เพื่อประหยัดเวลาและงบประมาณในการสร้าง

16.โมนิก้าถูกย้ายเข้าไปในเกม Libitina และได้ไปพบกับไฟล์เกม Libitina เข้า
ซึ่งเนื้อหาภายในไฟล์จะกล่าวถึงการทดลองพลังตาที่สามโดยใช้ตัวละครภายในชมรมเป็นหนูทดลอง
และพวกเธอทุกคนจะไม่มีใครรอดชีวิตจากเหตุการณ์ภายในเกม Libitina

17.โมนิก้าได้ตัดสินใจขโมยไฟล์เกม Libitina มาบางส่วน และซ่อนไว้ในไฟล์ตัวละครเพื่อนๆของเธอ

18.เธอได้เขียนข้อความขอร้องถึงผู้เล่นให้มาช่วยหยุดเหตุการณ์ภายในเกม Libitina เอาไว้ในไฟล์ของเธอ
แต่ก็ไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้ เพราะเกม Libitina ยังไม่ออก

19.เมื่อเวลาได้ล่วงเลยผ่านไป ทางทีมงานมีแผนที่จะสร้างเกมใหม่แนวสดใสน่ารักขึ้นมา
เพื่อหลอกตาและลดการเฝ้าระวังของรัฐบาล โดยจะใช้องค์ประกอบของเกม DDLC มาใช้
แต่จะถอนพลังของโมนิก้าออกมาและปรับค่าบางอย่างภายในเกมให้กลับมาคงที่ดั่งเดิม
ซึ่งส่งผลให้เนื้อหาภายในเกมเปลี่ยนไป จนกลายเป็นแค่เกมสดใสธรรมดาเกมหนึ่ง
โดยตัวเกมจะใช้ชื่อว่า Side Story

20.สมาชิกภายในทีมถูกมอบหมายให้ช่วยกันถอดพลัง และเก็บรวบรวมข้อมูลในเกม DDLC

21.อีฟได้เข้ามาภายในเกมและพยายามที่จะถอดพลังของโมนิก้า แต่โมนิก้าได้ตลบหลังอีฟ
และได้สลับจิตใจหรือตัวตนของอีฟกับตัวเธอเอง โดยนำจิตใจของตัวเธอไปใส่ไว้ในร่างกายของอีฟ
ในขณะที่จิตใจของอีฟจะถูกนำไปใส่ไว้ในตัวละครตัวที่ห้าที่โมนิก้าสร้างขึ้นมาแทน

22.หลังจากที่โมนิก้าเข้ามาอยู่อาศัยในร่างของอีฟได้แล้ว เธอก็เลือกที่จะทำตัวเงียบๆและไม่เคลื่อนไหวอะไร
เพื่อป้องกันไม่ให้เพื่อนร่วมทีมสงสัยในตัวเธอ และคอยศึกษาความสัมพันธ์ต่างๆระหว่างอีฟกับเพื่อนร่วมทีม
และศึกษาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

23.สมาชิกภายในทีมเริ่มสังเกตุถึงพฤติกรรมของอีฟที่เปลี่ยนไป จากนิสัยภัยสังคมกลายเป็นคนเงียบๆ
แต่หัวหน้าก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะอีฟมีนิสัยที่คาดเดาไม่ได้ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันที่มหาลัยแล้ว

24.เกมใหม่ที่มีชื่อว่า Side Story ถูกสร้างออกมา และวางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อย และหลอกตารัฐบาลได้สำเร็จ

25.เมื่อเวลาผ่านไป โมนิก้าในร่างอีฟก็ได้ใช้สิทธิการเป็นพนักงานของอีฟในการขอลาพักร้อนในสัปดาห์หน้า
เพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆของโลกใบนี้ให้มากขึ้น และหาทางช่วยเพื่อนเธอจากเหตุการณ์ในเกม Libitina

26.สองเดือนต่อมา หัวหน้าก็มาสารรักกับอีฟ โดยไม่ได้รู้ความจริงเลยว่า คนที่เขากำลังสารภาพรักคือโมนิก้า
ที่เข้ามาอาศัยอยู่ภายในร่างกายของอีฟ ซึ่งก็ไม่แน่ว่าโมนิก้าอาจจะตั้งใจใช้ความสัมพันธ์นี้
ในการสืบหาต้นตอของเกม Libitina และหาทางหยุดยั้งมันก็เป็นได้









4 kommentarer
natchapak123321 22. aug. 2023 kl. 16:10 
ขอบคุณครับ ในที่สุดผมก็เจอคนที่สรุปเนื้อเรื่องแบบจริงๆจังเป็นภาษาไทยสักที
neptime 27. juli 2023 kl. 14:21 
:steamhappy::steamfacepalm:ไม่คิดว่าเนื้อเรื่องจะไปไกลขนาดนี้ ขอบคุณที่สรุปมากครับ
(ว่าแต่ตัวเราพลาดอะไรดีๆแบบนี้ไปได้ไงกัน!)
Tanakron 16. feb. 2023 kl. 19:02 
สุดยอดมาก ไม่คิดว่าจำมีเงื่อนงำขนาดนี้
Amadeiy 26. feb. 2022 kl. 11:40 
Пиздец