[TH] อธิบาย+แปล ระบบสกิลและระบบ Role เบื้องต้น

อธิบายระบบสกิลในหน้า Character เบื้องต้นครับผม รวมถึงระบบ Role ที่เราสามารถแต่งตั้งตำแหน่ง (Role) ต่างๆ ให้ Companion เราได้

ก่อนอื่น

ขออนุญาติ ฝากเพจ Mount&Blade Thailand Page[www.facebook.com] ด้วยครับผม เป็นเพจรวมคนเล่นเกม Mount&Blade ร่วมแชร์ประสบการณ์,วิธีการเล่น,ตอบคำถามในเกมต่างๆ,แชร์เทคนิคต่างๆ เป้นต้นครับ ส่วนตัวผม(แอดมิน)ดำเนินการทำ Guide หรือวิธีการเล่นต่างๆ และอัพเดทข่าวสารต่างๆเกี่ยวกับเกม เรื่อยๆครับ

และ กลุ่ม Mount&Blade Thailand Group[www.facebook.com] ด้วยครับผม เป็นกลุ่มของคนเล่น Mount&Blade เพื่อให้ทุกๆคนได้คุย,แลกเปลี่ยนความคิดเห็น แลกเปลี่ยนทริคต่างๆ หรือสอบถามปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับตัวเกมได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้นครับผม
สามารถกดเข้าร่วมกลุ่มได้เลยครับ และอย่าลืมเชิญชวนเพื่อนที่เล่น Mount&Blade หรืออยากให้เล่นมาเข้ากลุ่มกันด้วยนะครับ


ข้อมูลของ Guides ทุกอัน (ณ ตอนนี้) มาจากประสบการณ์การเล่นของผมและเพื่อนๆในกลุ่ม ครับ

ระบบ Attributes และ Skills

เราสามารถเข้าหน้าต่างตัวละครของเราเพื่อดูเลเวล, รายชื่อสกิล ได้โดยการกดปุ่ม C หรือกดปุ่ม Character ที่ด้านซ้ายล่างของจอ ตามภาพเลยครับ


เมื่อเข้ามาในหน้า Character หรือหน้าตัวละครแล้ว ก่อนที่เราจะไปดูกันว่า Skills แต่ละอย่างทำอะไรได้บ้าง เรามาดูอธิบายตามตัวเลขที่ผม Mark เอาไว้ในแต่ละจุดก่อนว่ามันคืออะไรกันบ้างครับ

ก่อนอื่นต้องบอกว่าระบบเลเวลเกมนี้จะแตกต่างกับเกมส่วนมากที่พอเราเลเวลอัพแล้วเราสามารถเลือกอัพสกิล,เพิ่มสถานะตัวละครต่างๆอะไรประมาณนั้น แต่เกมนี้จะเป็นแนวที่ว่าเราทำอะไร สกิลส่วนนั้นก็จะเพิ่มขึ้นๆ เช่น ใช้ดาบมือเดียวก็จะเพิ่มสกิลดาบมือเดียว เป็นต้น พอเพิ่มถึงจุดนึงเราก็จะเลเวลอัพ (คล้ายๆ Skyrim) แต่มันจะมีขีดจำกัดที่เราจะสามารถเรียนรู้สกิลนั้นๆได้ๆ ซึ่งเราจะต้องใช้ Points ที่ได้จากการเลเวลอัพมาเพิ่มค่า Focus หรือ Attributes เพื่อที่เราจะสามารถเรียนรู้สกิลนั้นๆต่อไปได้

1. ค่า Attribute Points
เราจะได้ 1 Attribute Points ในทุก ๆ 4 เลเวลครับผม ซึ่งเราจะสามารถใช้ค่านี้ในการเพิ่มค่า Attributes ต่างๆ โดยการกดเข้าไปตรงที่ผม Mark เลข 3 เอาไว้ รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ที่ข้อ 3 ครับ
2. ค่า Focus Points
เช่นเดียวกับ Attribute Points เราจะได้ค่านี้ 1 ต่อ 1 เลเวลครับ ซึ่งเราจะสามารถใช้ค่านี้ในเพิ่มขีดจำกัดการเรียนรู้สกิล (Learning Limit) เส้นเขียวๆ อ่านเพิ่มอย่างละเอียดได้ที่หมายเลข 4 ครับ
3. Attributes ต่างๆ
ยิ่งค่า Attribute เราเยอะเท่าไหร่ก็ตามเราจะสามารถเรียนรู้สกิลที่เกี่ยวข้องกับค่า Attribute นั้นๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยิ่งค่า Attribute เยอะ มันก็จะยิ่งปลดล็อคขีดจำกัดในการเรียนรู้สกิลที่เกี่ยวข้องอีกด้วย (Attribute แต่ละอัน ก็จะมีสกิลย่อย 3 อันทางซ้ายตามที่เห็นในภาพนั้นเอง)
4. Skills ต่างๆ
อย่างที่บอกไปว่าสกิลต่างๆจะขึ้นก็ต่อเมื่อเราทำสิ่งนั้นๆ (ไม่ใช่การกดอัพตรงรูป + ตรงกลางข้างล่างจอ) การกดอัพตรงรูป + หรือการใช้ Focus Point เป็นการเพิ่มขีดจำกัดในการเรียนรู้สกิลนั้นๆเท่านั้น เพราะสกิลแต่ละสกิลจะมีขัดจำกัด (เส้นเขียวๆ) ที่เราจะสามารถเรียนรู้ได้นั่นเอง (โดยที่ค่าโฟกัสที่เราสามารถเพิ่มได้ก็มีจำกัดเช่นกันครับ)

ลองไปดูกันว่า Skills แต่ละอย่างทำอะไรได้และเพิ่มยังไงได้เลยครับ

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าบางสกิลเราสามารถที่จะแต่งตั้งให้ตำแหน่งหน้าที่(Role) กับ Companions คนอื่นๆมาดูแลส่วนนั้นได้ แต่ไม่ได้แปลว่าถ้าเราไม่แต่งตั้งใครสกิลนั้นจะไม่ทำงานนะครับ มันจะใช้ของเราเป็นหลักโดยอัตโนมัติ (อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ Role เพิ่มเติมได้ที่ในส่วนของ Role นะครับ)

1) One Handed - อัพสกิลได้จากการใช้อาวุธมือเดียว ไม่ว่าจะเป็นดาบ ขวาน(เล็ก) กระบอง หรืออะไรที่มันเขียนว่า one-handed นั่นแหละ (ดูตรง class ด้วย ถ้ามันเขียนว่า Polearm ก็จะไปขึ้นกับสกิล Polearm ไม่ใช่สกิล One Handed นะ

2) Two Handed - เหมือน One Handed แค่เป็นอาวุธที่ถือ 2 มือนั่นแหละ ยกเว้น Polearm เหมือนเดิม)

3) Polearm - เพิ่มจากการใช้พวกอาวุธเช่น หอก ไม้พลอง (ดู class ของอาวุธเอาครับ)

ทั้งสามสกิลยิ่งค่าเยอะเท่าไหร่ก็จะเพิ่มพลังโจมตี(ดาเมจ)และความเร็วในการโจมตีครับ

4) Bow - เพิ่มจากการใช้ธนู ยิ่งค่าสกิลนี้เยอะเราก็จะยิ่งยิงแรงและแม่นขึ้นรวมถึงปลดล็อคการใช้ธนูระดับสูงๆอีกด้วย

5) Crossbow - เหมือนไอเจ้าหน้าไม้นี่ยังบัคอยู่รึเปล่า เพราะผมเห็นราคามันสูงมากแถม Crossbow อันธรรมดาก็ต้องมีค่าสกิล 20 ก่อนถึงจะใช้ได้ (แต่สกิลเรา 15) อย่างไรก็ตามสกิล Crossbow เพิ่มจากการใช้หน้าไม้ และยิ่งสกิลนี้เยอะก็ยิ่งทำให้เรายิงได้แม่นและรีโหลดหน้าไม้ไวขึ้น

6) Throwing - เพิ่มจากการใช้อาวุธประเภทปา,ขว้าง ไม่ว่าจะขว้างหิน ขว้างหอก บลาบลา ยิ่งสกิลเยอะก็ยิ่งขว้างได้ไว,แม่นและแรงมากยิ่งขึ้น

7) Riding - เพิ่มจากการขี่ม้าทั้งในแผนที่หลักและในฉากรบ ยิ่งค่าเยอะยิ่งทำให้ความเร็วม้าเพิ่มขึ้น,คุมม้าได้ดียิ่งขึ้น(การหันของม้าอะไรงี้) และปลดล็อคการใช้ม้าระดับสูงๆด้วย

8) Athletics - เพิ่มจากการเดินทั้งในแผนที่หลักและในฉากรบ ยิ่งเยอะยิ่งทำให้วิ่งได้ไวขึ้น

9) Smithing - เพิ่มจากการคราฟ,ย่อย,เผาแร่บลาบลา ในหน้า Smithy ในเมือง ยิ่งเยอะเรายิ่งจะสามารถคราฟอาวุธที่คราฟยากๆ (Difficulty)ได้โดยปราศจากผลติดลบ

10) Scouting - เพิ่มจากการตรวจพบ Hideout, และรอยเท้า(ลูกศร)ของปาร์ตี้อื่นๆบนแผนที่ ยิ่งค่า Scouting เยอะเรายิ่งจะ ตรวจพบสิ่งต่างๆได้ไกลมากขึ้น, ระยะมองเห็นไกลขึ้น, รายละเอียดของรอยเท้า(ลูกศร)เยอะขึ้น (นำค่าสกิลนี้มาใช้จาก Role: Scout หรือจากตัวเราเท่านั้น)

11) Tactics - เพิ่มจากการรบแบบออโต้ (send troops), รบชนะแบบเป็นฝ่าบเสียเปรียบ, หลบหนีจากการปะทะโดยเสียสละทหารบางส่วน ยิ่งค่า Tactics เยอะ ยิ่งรบแบบออโต้ได้ดียิ่งขึ้นและสูญเสียทหารน้อยลงจากการหลบหนี

12) Roguery - เพิ่มจากการปล้นคาราวานและหมู่บ้าน, ใช้ทหารประเภทโจร (Bandit,Looter), หลบหนีจากการจองจำ, ให้ส่วยเมือง, ขายนักโทษ ยิ่งสกิลนี้เยอะยิ่ง Loot ของหลังรบชนะได้เยอะขึ้น (นำค่าสกิลนี้มาใช้จาก Party Leader เท่านั้น)

13) Charm - เพิ่มจากการพูดคุยกับเหล่าขุนนาง (Nobles), เพิ่มความสัมพันธ์กับผู้คน, ทำการต่อรองแลกเปลี่ยน (barter) ยิ่งค่านี้เยอะยิ่งเพิ่มความสัมพันธ์กับ NPC เยอะขึ้น

14) Leadership - เพิ่มจากการทำให้ขวัญกำลังใจ (Morale) ของกองทัพเยอะ, เรียกระดมและเป็นผู้นำกองทัพ (Army) ยิ่งค่านี้เยอะขวัญกำลังใจของปาร์ตี้ที่อยู่ภายใต้การนำของคุณยิ่งเยอะและจะยิ่งสามารถใส่ทหารในเมืองของเราได้เยอะขึ้น

15) Trade - เพิ่มจากการสร้างคาราวาน, ซื้อขายของ, เปิด Workshop(ไม่แน่ใจ) ยิ่งค่านี้เยอะยิ่งซื้อขายของได้ในราคาดียิ่งขึ้น

16) Steward - ได้จากการที่มีขวัญกำลังใจในกองทัพเยอะ(ที่มีผลมาจากความหลากหลายของอาหาร), เพิ่มความมั่งคั่งของเมืองหรือสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆในเมือง, และพัก Party ของคุณในเมืองของตัวเอง ยิ่งค่านี้เยอะยิ่งทำให้ปาร์ตี้ของเราใหญ่ขึ้น (นำค่าสกิลนี้มาใช้จาก Role: Quartermaster หรือจากตัวเราเท่านั้น)

17) Medicine - เพิ่มโดยการรอให้ทหารที่บาดเจ็บ (Wounded) รักษาตัว ยิ่งค่านี้เยอะยิ่งทำให้โอกาสที่ทหารตายในสนามรบน้อยลง (บาดเจ็บแทน), อัตรากาลรักษาไวขึ้น (นำค่าสกิลนี้่มาใช้จาก Role: Surgeon หรือจากตัวเราเท่านั้น)

18) Engineering - เพิ่มโดยการสร้างอาวุธล้อมเมืองหรือป้องกันเมือง ยิ่งค่านี้เยอะยิ่งทำให้สร้างได้ไวขึ้น (นำค่าสกิลนี้มาใช้จาก Role: Engineer หรือจากตัวเราเท่านั้น)

วิธีดูว่าสกิลไหนมันส่งผลกับ Role ไหนอะไรยังไงสามารถกดตรงรูปตัว i ตรงคำอธิบายสกิลได้ตามภาพข้างล่างเลยครับ (มันจะมีวงเล็บบอกว่าสกิลนั้นๆต้องใช้ Role อะไรประมาณนั้นครับ)

ระบบ Role

ต่อมามาดูกันที่ระบบ Role อย่างที่สังเกตุเห็นกันว่าในหน้า Clan (เปิดโดยการกด L) นั้นเราจะสามารถใส่ Clan Role ให้ทั้งเราหรือ Companion ของเราได้ตามภาพครับ ซึ่งหลายคนก็สงสัยว่าถ้าไม่ใส่จะเป็นอะไรมั้ย หรือจะเสียผลประโยชน์อะไรหรือไม่ ก็ลองมาทำความเข้าใจทีละส่วนได้เลยครับ

ซึ่งไอเจ้าระบบ Clan Role เนี่ย มันสัมพันธ์กับ Skill ครับผม(เป็น 1 ในเหตุผลที่ทำ Guide นี้พร้อมๆกันไปเลย) ซึ่งแต่ละ Role ก็จะมีหน้าที่และสกิลที่ต้องใช้ไม่เหมือนกัน เราไปลองดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันเลยครับ

อย่างไรก็ตามต้องบอกไว้ก่อนว่าถ้าเราไม่ตั้ง Role ให้ Companion คนไหนเลย สกิลที่เกี่ยวข้องกับ Role นั้นๆก็จะยังทำงานอยู่นะครับโดยใช้ค่าสกิลของเราเป็นหลัก

1. Role: Scout
สัมพันธ์กับสกิล Scouting หากเรามอบ Role นี้ให้ Companion คนใดคนนึงแล้ว Party ของเราจะใช้สกิล Scouting จาก Companion คนนั้นเป็นหลัก และจะเป็นคนเรียนรู้สกิลนี้เพิ่มขึ้นแทนเราครับผม

2. Role: Engineer
สัมพันธ์กับสกิล Engineer หากเรามอบ Role นี้ให้ Companion คนใดคนนึงแล้ว Party ของเราจะใช้สกิล Engineer จาก Companion คนนั้นเป็นหลัก และจะเป็นคนเรียนรู้สกิลนี้เพิ่มขึ้นแทนเราครับผม

3.Role: Quartermaster
สัมพันธ์กับสกิล Steward หากเรามอบ Role นี้ให้ Companion คนใดคนนึงแล้ว Party ของเราจะใช้สกิล Steward จาก Companion คนนั้นเป็นหลัก และจะเป็นคนเรียนรู้สกิลนี้เพิ่มขึ้นแทนเราครับผม

4.Role: Surgeon
สัมพันธ์กับสกิล Medicine หากเรามอบ Role นี้ให้ Companion คนใดคนนึงแล้ว Party ของเราจะใช้สกิล Medicine จาก Companion คนนั้นเป็นหลัก และจะเป็นคนเรียนรู้สกิลนี้เพิ่มขึ้นแทนเราครับผม

กล่าวคือถ้าเราเห็นว่า Companion คนไหนมีค่าสกิลนั้นๆเยอะและดูแล้วน่าจะมีประโยชน์กับปาร์ตี้มากกว่าหากให้พวกเขาเหล่านั้นมาทำหน้าที่นั้นๆแทนเรา (เช่น Role Surgeon หรือ หมอ นั่นเอง) แต่ก็แลกมากับการที่สกิลของเราใน Role นั้นๆจะไม่เพิ่ม (ซึ่งก็ดูสมเหตุสมผลเพราะคนอื่นทำหน้าที่นั้นๆไปแล้วนั่นเอง)

บางอันอาจสงสัยแล้วตรงบางสกิลที่เขียนว่า Party Leader (เช่น ในสกิล Roguery) หรือคำว่า Governor (เช่น ในสกิล Medicine ล่ะ)

สำหรับ Party Leader ก็คือ จะนำสกิลนั้นๆมาใช้โดยอิงจากสกิลของหัวหน้าปาร์ตี้เท่านั้น

ส่วน Governor ก็คือหากเรามอบหมายตำแหน่งคนคุมเมืองให้ Companion คนไหนๆไป เมืองนั้นจะได้รับผลของสกิล (ที่มีคำว่า Governor) ในเมืองนั้นๆ จากสกิลของ Companion ของเรานั่นเองครับ เช่น หากเราให้ Companion ที่มีสกิล Medicine สูงๆไปคุมเมือง เมืองนั้นๆก็จะรักษาทหารที่บาดเจ็บไวขึ้นอะไรทำนองนั้นครับ

สุดท้าย..

ข้อมูลต่างๆที่เขียนไปมาจากประสบการณ์การเล่น และการหาข้อมูลจากบอร์ดนอก อาจมีข้อผิดพลาด(ท้วงติงได้เลย) หรืออาจจะมีการเปลี่ยนแปลงภายในภายภาคหน้าได้ครับผม

ที่ไม่ได้แปลพวก Perks ที่เราสามารถเลือกได้เมื่อสกิลถึงระดับนึงเป็นเพราะว่าผมเห็นว่าบางอันมันยังใช้งานไม่ได้ หรือบางอันก็ยังไม่สมบูรณ์อยู่เลย ยังไงก็อาจจะกลับมาแปลเพิ่มเติมภายหลังครับ

หากมีปัญหา,ต้องการคำแนะนำหรือมีคำถามต่างต่างๆ เข้ามาสอบถามใน เพจ หรือ กลุ่ม ได้เลยนะครับ


หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์จาก Guide นี้และเล่นเกม Mount&Blade II: Bannerlord ได้สนุกนานมากยิ่งขึ้น ถ้าหากการจัดเรียงหน้าทำให้อ่านยากหรือผิดพลาดตรงไหนสามารถเข้ามาแจ้งได้ในเพจหรือกลุ่มและขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ฝากเพจ Mount&Blade Thailand[www.facebook.com] ด้วยครับผม เป็นเพจรวมคนเล่นเกม Mount&Blade ร่วมแชร์ประสบการณ์,วิธีการเล่น,ตอบคำถามในเกมต่างๆ,แชร์เทคนิคต่างๆ เป้นต้นครับ ส่วนตัวผมดำเนินการสร้าง Guide หรือวิธีการเล่นต่างๆ เรื่อยๆครับ

และ กลุ่ม Mount&Blade Thailand Group[www.facebook.com] ด้วยครับผม เป็นกลุ่มของคนเล่น Mount&Blade เพื่อให้ทุกๆคนได้คุย,แลกเปลี่ยนความคิดเห็น แลกเปลี่ยนทริคต่างๆ หรือสอบถามปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับตัวเกมได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้นครับผม
สามารถกดเข้าร่วมกลุ่มได้เลยครับ

[Nolanheim]

@Ic1999 โอ้ ขอโทษทีครับ เป็นกำลังใจให้นะครับผมมม

[lc1999]

@ROYSENBERG เดี๋ยวอาจจะต้องเช็คอีกทีครับ ไกด์นี้ผมทำไว้ตั้งแต่เกมออก ข้อมูลบางส่วนจะไม่ตรงกับ Patch ปัจจุบันแล้วครับผม

[Nolanheim]

attribute point ไม่ได้เพิ่ม 1 แต้มต่อ 4 เลเวลเหรอครับ

[Banana]

ทำไมระบบแต่งงานยากจังเลย..ตอบคำถามอีก..ตอบผิดก็ไม่ได้แต่งถงมี%เยอะก็เถอะ