Borderlands 2

Borderlands 2

97 ratings
รายละเอียด skill ใน เกม Borderlands 2
By さんご and 1 collaborators
คู่มือนี้เคดิตจากเว็ป myplaypost.com โพสโดยนามปากกาชื่อ Nimblentfox
   
Award
Favorite
Favorited
Unfavorite
Borderlands 2 พลิกขุมสมบัติดาวคนเพี้ยน
Originally posted by http://www.online-station.net/news/review/751:

  • 3 ปีพอดิบพอดีที่ Borderlands เกม FPS RPG Open World ภาคแรกได้เปิดตัวเป็นน้องใหม่ไฟแรงจนคว้าตำแหน่ง Game of the Year ไปครอง ณ ตอนนั้นความรู้สึกแรกที่ปิ๊งปั๊งกับเกมนี้เลยคือ โดยปกติแล้วเกมยิง FPS ที่มี Gunplay ลื่นปรู๊ดปร๊าดคล่องแคล่วนั้นจะหาได้เฉพาะในเกม FPS แท้ๆ แบรนด์ดังเท่านั้น และหากมันพ่วงความเป็น Open World หรือ RPG มาด้วยเมื่อไหร่ก็จะเป็นอันได้ถูกจำกัดการเคลื่อนไหวและการเล็งให้งึกๆ งักๆ ตามมาทุกทีไป เช่น Fallout 3 ไอ้เราผู้ชื่นชอบสไนเปอร์พอไปเล่นเกมยิงแท้ๆ ก็ดันถูกจำกัดอาวุธให้ใช้สไนเปอร์ได้แค่บางฉากแถมกระสุนยังหายากซะยิ่งกว่าตัวปืนซะนี่ แต่ Borderlands สามารถตอบโจทย์โดยการให้อิสระในการเลือกอาวุธ เส้นทาง และใช้ภูมิประเทศของฉากให้เป็นประโยชน์จาก Open World และอิสระในการพัฒนาตัวละครแบบ RPG ในขณะที่มาตรฐานการยิงก็เนียนนุ่มชุ่มนมในระดับเดียวกับเกมยิงพันธุ์แท้ชนิดที่เรียกว่าเก่งทั้งบู๊ทั้งบุ๋น ชอบสไนเปอร์ใช่ไหม จัดไปเล็งกันให้ตาเหล่ไปข้างตั้งแต่ต้นจนจบเกม หรือชอบแบบ RPG เน้น DOT (ศัตรูติดสถานะเสียเลือดไปเรื่อยๆ) แรงๆ จะซาดิสม์ติดคริได้เห็นค่าความเสียหายตัวใหญ่ๆ แดงๆ เด้งออกจากตัวศัตรูแล้วรู้สึกผ่อนคลายก็ยังสามารถเลือกอัพ Skill Tree หรือถืออาวุธที่มีสเตตัสตามสายที่คุณเน้นกันตามอัธยาศัย
  • ที่ต้องพล่ามเท้าความถึงภาคแรกกันยาวขนาดนี้ก็เพราะมาในภาค 2 สิ่งเหล่านี้ก็ยังคงเดิมจนดูเผินๆ จะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นภาคใหม่เพียงแต่เพิ่มเติมรายละเอียดปลีกย่อยให้ตัวเกมมีรสชาติเข้มข้นขึ้นอีกเล็กน้อย ยกตัวอย่างเช่น ระบบ 2nd Wind ที่หลังจากที่ตัวละครเลือดหมดจะยังมีโอกาสช่วงเวลาหนึ่งก่อนตายฆ่าศัตรูเพื่อที่จะลุกขึ้นมาได้ใหม่ ระบบ Skin ปรับแต่งชุด หรือกระทั่งเปลี่ยนหัวไปเลยก็ยังไหว ระบบ Badass ที่มีลักษณะคล้าย Achievement ท้าทายและให้ผลตอบแทนคุ้มค่าสามารถเอามาอัพเกรดตัวละครได้ ด้านกราฟิกแม้ปัจจุบันเทคโนโลยี Cell Shade จะพัฒนาไปมากจนเอนจิ้นเดิมที่ใช้อยู่นี้ไม่ได้สร้างความประทับใจให้กับเราอีกแล้วแต่มันก็ยังดูดีสมวัย
  • เกมยังคงเปิดตัวด้วยการให้คุณได้เลือกเล่นเป็น 1 ใน 4 ฮีโร่ที่มีความสามารถต่างกัน แม้เขาและเธอจะไม่ใช่คนเดิมแต่ก็มีคาแรคเตอร์ยืนพื้น 4 คนเดิมนั่นแหละ Commando หนุ่มรูปงามผู้ใช้บอทป้อมปืนเป็นอาวุธ Gunzerker หน้าเถื่อนกับลีลาปืนคู่เดินหน้าสาดกระสุน Siren สาวหน้ามนผู้มีพลังควบคุมมิติและ DOT และ Assassin นักฆ่านินจาสไตล์ด้วยดาบซามูไรและสไนเปอร์ทำให้เขานั้นเดนตายทั้งใกล้และไกล ทั้ง 4 ยังมี Skill Tree อีกคนละ 3 สาย หลังจากได้เลือกอัพเพื่อสร้างพระเอก FPS ในแบบฉบับของคุณเองไปแล้วก็ออกไปลุยโลกกว้างได้เลยครับ โลกแพนโดร่าเป็นดาวบ้าๆ บอๆ ที่หาคนปกติแทบไม่ได้ นี่เป็นส่วนที่ผมชอบที่สุดในเกมก็ว่าได้ บทพูดได้ถูกกำกับมาได้เพี้ยนสุดๆ มีไม่กี่เกมที่เขียนบทให้คุณได้หัวเราะได้เต็มเสียงขนาดนี้ครับ รวมถึงน้ำเสียงการพากย์ที่เกรด A จริงๆ คุณจะได้ทำทั้งเควสต์หลักและรองไปพร้อมกับ NPC สติแตกพวกนี้กว่า 30 ชม. ในส่วนนี้กระตุ้นให้การพบเจอตัวละครและเมืองใหม่ๆ นั้นน่าสนใจอย่างประหลาดว่ามันจะบ้าได้อีกแค่ไหนกันนะ
  • ความสนุกของ Borderlands ยังอยู่ที่การลุ้นของดรอปตามสไตล์ RPG หลายๆ ครั้งแม้คุณจะรู้สึกว่าอาวุธของคุณนั้นเลิศหรูอยู่แล้วจนกระทั่งไปเจออันใหม่ที่ถูกใจกว่าเข้าให้ อาวุธที่ดรอปมานั้นหลากหลายสุดๆ ตั้งแต่รูปร่างหน้าตา ค่าความแรง ความแม่น DOT ไปจนถึงความสามารถแปลกๆ อย่างโหลดกระสุนแล้วใช้ซองแมกกาซีนต่างระเบิด ปืนพกหัวจรวด สิ่งที่ทำให้ของดรอปเกมนี้โดดเด่นคือระบบแรนดอมสเตตัสแบบเดียวกับภาคแรก ของใหม่อาจจะแรงกว่าแต่อาจจะรีโหลดช้ากว่า 1 วิ หรือยิงได้รัวเว่อร์แต่ความจุกระสุนน้อยเกินไป จุดนี้เองที่เป็นตัวกระตุ้นครับ การได้รอลุ้นอาวุธใหม่ที่ตรงสไลต์คุณไปพร้อมๆ กับการไล่ยิงหน้าศัตรูไปด้วยนั้นส่งผลให้เกมนี้อยู่ในขั้นเสพติดได้เลยทีเดียว
  • แต่สิ่งที่ทำให้เกมนี้โด่งดังคือระบบ Co-op 4 คน ด้วยความสามารถที่ต่างกันของทั้ง 4 ตัวละคร บ้างแท็งค์ บ้างฮีล บ้างลอบสังหาร ให้อารมณ์ประหนึ่งเป็น FPS MMO เลยทีเดียว อย่าเพิ่งคิดว่าไปกัน 4 คนแล้วจะง่ายเพราะเกมมีระบบอัพเกรดศัตรูอัตโนมัติให้เหมาะสมกับจำนวนผู้เล่น รวมถึงคุณภาพของดรอปที่ดีกว่า ถ้ายังไม่สาแก่ใจหลังเล่นจบแล้วยังมี New Game+ พร้อมศัตรูที่อัพเกรดตามเลเวลของคุณให้ได้บู๊กันอีกรอบ ลงว่าหากชอบแล้วเป็นได้ยาวกันถึง 100 ชม. ได้ไม่ยาก
  • ข้อเสียหลักๆ เลยก็คือมีโพลิกอนโปร่งแสงก่อปัญหาสิ่งกีดขวางที่มองไม่เห็นเยอะ เช่น หากข้างหน้าคุณมีเหล็กเส้นอยู่เส้นหนึ่งคุณจะมีปัญหายิงติดมันอยู่บ่อยๆ แม้จะเห็นชัดๆ ว่าเป้านั้นไม่ได้ตรงกับเหล็กเส้นเล็กๆ นั้นเลย อีกเรื่องคือแม้ตัวละครทั้งหมดจะอัพ Skill Tree มาคนละสายแต่สุดท้ายมันก็ยังเน้นหนักไปที่การยิงเหมือนกันทุกตัวอยู่ดี
  • หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบภาคแรกก็ยากเหลือเกินที่คุณจะผิดหวังกับภาคนี้ครับ มันยังคงเป็นจิ้มจุ่มทรงเครื่องหม้อใหญ่เจ้าเดิมที่ยิ่งกินกันหลายคนยิ่งอร่อย เพียงแต่คราวนี้เจ้าของเพิ่มเครื่องให้ลูกค้าประจำอย่างคุณมากขึ้นเท่านั้นเอง
Axton Skill คอมมานโดโหดป้อมเถื่อน
Originally posted by https://myplaypost.com/borderlands-2-axton-skill/:

























Axton ผู้ที่ได้รับบทบาทเป็น Commando ผู้มาพร้อมกับป้อมปืนคู่ใจ สกิลของตัวเขาจะสนับสนุนการใช้ปืนไรเฟิล เครื่องยิงจรวดและระเบิดเป็นหลัก หลักๆ เขาจะค่อนข้างคล้ายเป็ดคืออยู่ได้ในทุกตำแหน่ง และสามารถล่อเป้าศัตรูหรือสนับสนุนทีมได้ด้วยป้อมปืนของเขา






Axton’s Action Skill : Sabre Turret


ทำการโยนป้อมปืนออกมา หลังจากนั้น 3 วินาทีป้อมปืนจะปรากฎขึ้นมาช่วยเขาทำการต่อสู้ ตัวป้อมปืนจะสามารถ Upgrade ให้มีความสามารถมากขึ้นได้เป็นอย่างมากด้วย Skill ต่างๆ
ระยะเวลาพื้นฐาน : 20 วินาที
Cooldown พื้นฐาน : 42 วินาที






















สาย Guerilla

สกิลสายนี้จะเน้นไปทางการเสริมความสามารถด้านการจู่โจมให้กับป้อมปืนเป็นหลัก

Sentry (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มจำนวนนัดที่ยิงต่อชุด 1/2/3/4/5 นัดของป้อมปืน และเพิ่มระยะเวลาให้อีก 2/4/6/8/10 วินาที

Ready (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มความเร็วการรีโหลด 8/16/24/32/40%

Laser Sight (Tier 2) : Max Level 5

ป้อมปืนจะยิงแม่นขึ้น 10/20/30/40/50%

Willing (Tier 2) : Max Level 5
เพิ่มอัตราการฟื้นเกราะ 15/30/45/60/75% และลดเวลาในการรอเกราะฟื้นตัวลง 12/24/36/48/60%

Onslaught (Tier 3) : Max Level 5
KILL SKILL – เมื่อฆ่าศัตรูได้ จะได้รับพลังโจมตีปืนเพิ่ม 6/12/18/24/30% และความเร็วการเคลื่อนที่ 12/24/36/48/60%

Scorched Earth (Tier 3) : Max Level 1
ติดตั้งจรวดให้กับป้อมปืน จะยิงจรวดเป็นชุดๆ เพิ่มไปด้วยชุดละ 22 ลูก

Able (Tier 3) : Max Level 5
เมื่อโจมตีศัตรูจะทำให้พลังชีวิตของตัวเองฟื้นฟู 0.4/0.8/1.2/1.6/2.0% ต่อวินาทีเป็นเวลา 3 วินาที (ไม่ทับซ้อนกัน)

Grenadier (Tier 4) : Max Level 5
เพิ่มจำนวนระเบิดที่พกได้ 1/2/3/4/5 ลูก

Crisis Management (Tier 5) : Max Level 5

เมื่อเกราะแตก จะได้รับพลังโจมตีของปืนเพิ่ม 7/14/21/28/35% และพลังโจมตีประชิดเพิ่ม 6/12/18/24/30%

Double Up (Capstone) : Max Level 1
ป้อมปืนจะได้รับปืนเพิ่มขึ้นอีกกระบอก และทั้งสองกระบอกจะยิงเป็นกระสุนชนิด Slag






















สาย Gunpowder

สายนี้จะช่วยเพิ่มพลังโจมตีของทั้งปืนและระเบิดให้กับเขาเป็นหลัก แม้จะไม่มากแบบเฉพาะด้าน แต่ก็ได้ผลโดยรวมเพิ่มขึ้นในระดับที่ดี

Impact (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มพลังโจมตีของปืน 4/8/12/16/20% และพลังโจมตีประชิด 3/6/9/12/15%

Expertise (Tier 1) : Max Level 5
สลับอาวุธและเล็งได้ไวขึ้น 14/28/42/56/70% เมื่อเล็งอยู่จะเคลื่อนที่ไวขึ้น 7/14/21/328/35%

Overload (Tier 2) : Max Level 5
เพิ่มความจุแม๊กกาซีนของปืนชนิด Assault Rifle อีก 10/20/30/40/50%

Metal Storm (Tier 2) : Max Level 5

KILL SKILL – เมื่อกำจัดศัตรูได้ จะได้บัฟเพิ่มความเร็วในการยิง 12/24/36/48/60% และลดการถีบของปืนลง 15/30/45/60/75% ชั่วคราว

Steady (Tier 3) : Max Level 5
ลดแรงถีบของปืนลง 8/16/24/32/40% เพิ่มพลังทำลายของระเบิด 5/10/15/20/25% และจรวด 4/8/12/16/20%

Longbow Turret (Tier 3) : Max Level 1

ระยะการปาป้อมปืนเพิ่มขึ้น 10000% และเพิ่มเลือดของป้อมปืนอีก 110% (การปาป้อมปืนจะเปลี่ยนรูปแบบเป็นเส้นตรง)

Battlefront (Tier 3) : Max Level 5
เพิ่มพลังโจมตีของปืน, ระยะประชิด และระเบิด 6/12/18/24/30% เมื่อป้อมปืนทำงานอยู่

Duty Call (Tier 4) : Max Level 5
เพิ่มพลังโจมตีของปืน 5/10/15/20/25% และความเร็วในการยิง 3/6/9/12/15% สำหรับปืนที่ไม่มีธาตุใดๆ (Explosive จัดเป็นธาตุหนึ่ง)

Do or Die (Tier 4) : Max Level 1
สามารถปาระเบิดได้ระหว่างอยู่ในสภานะ Fight for Your Life และเพิ่มพลังทำลายของระเบิดกับจรวดขึ้นอีก 10%

Ranger (Tier 5) : Max Level 5
เพิ่มพลังโจมตีของปืน, ความแม่น, ความเสียหายคริติคอล, ความเร็วในการยิง, ความเร็วการรีโหลด, จำนวนกระสุนในแม๊กกาซีน, พลังชีวิตสูงสุดvud 1/2/3/4/5%

Nuke (Capstone) : Max Level 1
เมื่อป้อมปืนถูกขว้างออกไปและเริ่มต้อนทำงาน จะระเบิดออกมาเป็นระเบิดวงกว้างครั้งหนึ่ง






















สาย Survival

สกิลด้านนี้จะเน้นการเอาตัวรอดกันสุดๆ เป็นหลัก ทำให้เขาเอาตัวรอดท่ามกลางกระสุนปืนได้มากขึ้นเป็นอย่างมาก

Healthy (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มพลังชีวิตสูงสุด 6/12/18/24/30%

Preparation (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มเกราะสูงสุด 3/6/9/12/15% และเมื่อเกราะเต็มอยู่จะฟื้นฟูพลังชีวิต 0.4/0.8/1.2/1.6/2.0%

Last Ditch Effort (Tier 2) : Max Level 5
เพิ่มพลังโจมตีของปืน 8/16/24/32/40% และความเร็วการเคลื่อนที่ 14/28/42/56/70% ในระหว่างที่อยู่ในสถานะ Fight for Your Life

Pressure (Tier 2) : Max Level 5
เพิ่มความเร็วในการรีโหลด 14/28/42/56/70% และลดเวลาในการรอเกราะฟื้นตัว 12/24/36/48/60% ตามเลือดที่เหลืออยู่ ยิ่งน้อยยิ่งได้ผลมาก

Forbearance (Tier 3) : Max Level 5
ลดเวลาติดสถานะจากธาตุต่างๆลง 8/16/24/32/40% และเพิ่มพลังชีวิตสูงสุด 1/2/3/4/5%

Phalanx Shield (Tier 3) : Max Level 1
ป้อมปืนจะมีโล่งพลังงานติดตั้งอยู่ สามารถป้องกันกระสุนต่างๆ จากศัตรูได้

Quick Charge (Tier 3) : Max Level 5
KILL SKILL – เมื่อกำจัดศัตรูได้จะฟื้นฟูเกราะ 1/2/3/4/5% ต่อวินาทีเป็นระยะเวลาสั้นๆ

Resourceful (Tier 4) : Max Level 5

ลดเวลา Cooldown ของการเรียกป้อมปืนลง 5/10/15/20/25%

Mag-Lock (Tier 4) : Max Level 1
ป้อมปืนจะติดบนผนังหรือกำแพงได้แล้ว

Grit (Tier 5) : Max Level 5
มีโอกาส 4/8/12/16/20% ที่เมื่อได้รับความเสียหายที่จะทำให้ตาย จะไม่เกิดอะไรขึ้นและฟื้นพลังชีวิตครึ่งหนึ่งของพลังชีวิตสูงสุด

Gemini (Capstone) : Max Level 1
สามารถวางป้อมปืนได้สองอันพร้อมกัน
Maya Skill ใครว่าสาย Support ฆ่าใครไม่ได้
Originally posted by https://myplaypost.com/borderlands-2-maya-skill/:
























พยาบาลและสาย Support ประจำ Borderlands 2 ด้วยความสามารถในการจับศัตรูให้อยู่กับที่และช่วยรักษาเพื่อนร่วมทีมได้ ทำให้ Maya มีบทบาทในการเล่นแบบเน้นเซฟมากกว่าซุยให้เละไปข้าง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะบู๊ล้างผลาญไม่ได้หรอกนะ






Maya’s Action Skill : Phaselock

ทำการจับศัตรูไว้กลางอากาศ ทำให้ไม่สามารถต่อสู้กลับได้และขยับตัวไม่ได้ชั่วขณะ ศัตรูบางตัวหรือบอสจะไม่สามารถโดน Phaselock ได้และได้รับความเสียหายทันทีโดยตรงแทน Phaselock จะยุติทันทีเมื่อเป้าหมายตายลง ยกเว้นได้ทำการ Up Skill Sub-sequence เอาไว้
ระยะเวลาพื้นฐาน : 5 วินาที
Cooldown พื้นฐาน : 13 วินาที






















สาย Motion

ในด้านนี้จะเป็นการเพิ่มความคล่องตัวให้กับ Maya รวมถึงผลที่เกี่ยวข้องกับด้านความเร็วต่างๆ

Ward (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มเกราะสูงสุด 5/10/15/20/25% และลดเวลารอเกราะฟื้นตัวลง 8/16/24/32/40%

Accelerate (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มพลังโจมตีของปืน 3/6/9/12/15% และความเร็วลูกกระสุน 4/8/12/16/20%

Suspension (Tier 2) : Max Level 5

เพิ่มระยะเวลาของ Phaselock อีก 0.5/1.0/1.5/2.0/2.5 วินาที

Kinetic Reflection (Tier 2) : Max Level 5

KILL SKILL – เมื่อกำจัดศัตรูได้จะมีโอกาสที่จะสะท้อนกระสุนศัตรูกลับไป ทำให้ได้รับความเสียหายน้อยลง 10/20/30/40/50% และทำความเสียหายคืน 20/40/60/80/100%

Fleet (Tier 3) : Max Level 5
เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ 10/20/30/40/50% เมื่อเกราะแตก

Converge (Tier 3) : Max Level 1

เพิ่มผลการดูดศัตรูรอบๆเข้ามาเมื่อทำการ Phaselock เป้าหมาย

Inertia (Tier 3) : Max Level 5
KILL SKILL – เมื่อฆ่าศัตรูได้จะฟื้นฟูเกราะ 0.8/1.6/2.4/3.2/4.0% ต่อวินาทีและเพิ่มความเร็วในการรีโหลด 10/20/30/40/50% ชั่วขณะ

Quicken (Tier 4) : Max Level 5
ลดเวลา Cooldown ของ Phaselock ลง 6/12/18/24/30%

Sub-sequence (Tier 4) : Max Level 5
หากศัตรูที่ถูก Phaselock ตายลงและยังเหลือเวลาอยู่ จะมีโอกาส 20/40/60/80/100% ที่ Phaselock จะพุ่งไปทำงานกับศัตรูตัวที่อยู่ใกล้ๆต่อ

Thoughtlock (Capstone) : Max Level 1
เปลี่ยนรูปแบบการ Phaselock ให้เป็นการล้างสมองให้ศัตรูมาช่วยเราสู้แทน รวมทั้งเพิ่มระยะเวลา Cooldown อีก 3 วินาทีและระยะเวลา Phaselock อีก 4 วินาที






















สาย Harmony

สุดยอดสาย Support ของ Maya ต้องมาทางนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นการชุบทันทีหรือฟื้นฟูพลังชีวิตกันแบบมหาศาล

Mind’s Eye (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มค่าความเสียหายคริติคอล 5/10/15/20/25% และเพิ่มพลังโจมตีระยะประชิด 6/12/18/24/30%

Sweet Release (Tier 1) : Max Level 5
หากศัตรูตายระหว่างที่โดน Phaselock อยู่ จะทำการสร้างลูกบอลเลือดที่จะลอยมาหาผู้เล่นหรือเพื่อนร่วมทีมอัตโนมัติจำนวน 1/2/3/4/5 ลูก เมื่อเก็บจะได้ฟื้นฟูพลังชีวิตสูงสุด 15% ขึ้นกับว่าเหลือพลังชีวิตน้อยเท่าไหร่

Restoration (Tier 2) : Max Level 5
เพิ่มพลังชีวิตสูงสุด 3/6/9/12/15% และหากยิงโดนเพื่อน จะฟื้นฟูพลังชีวิตให้ 6/12/18/24/30%

Wreck (Tier 2) : Max Level 5
เพิ่มความเร็วในการยิง 10/20/30/40/50% และพลังโจมตีของปืน 6/12/18/24/30% ระหว่างที่กำลัง Phaselock อยู่

Elated (Tier 3) : Max Level 5
ระหว่างที่กำลัง Phaselock จะทำให้ทุกคนในทีมฟื้นฟูพลังชีวิต 1/2/3/4/5% ต่อวินาที

Res (Tier 3) : Max Level 1

สามารถชุบเพื่อนที่อยู่ในสถานะ Fight for Your Life ได้ทันทีด้วยการใช้ Phaselock ใส่

Recompense (Tier 3) : Max Level 5
เมื่อเสียพลังชีวิต มีโอกาส 10/20/30/40/50% ที่จะทำให้เป้าหมายได้รับความเสียหายเท่ากัน

Sustenance (Tier 4) : Max Level 5
ฟื้นฟูพลังชีวิต 0.4/0.8/1.2/1.6/2.0% ต่อวินาที

Life Tab (Tier 5) : Max Level 5
KILL SKILL – เมื่อฆ่าศัตรูได้จะทำให้การโจมตีมีผลดูดเลือด 1.2/2.4/3.6/4.8/6.0% ชั่วขณะ

Scorn (Capstone) : Max Level 1

เปลี่ยนแปลงรูปแบบโจมตีประชิด ปาลูกบอลธาตุ Slag ใส่เป้าหมายเพิ่มทำความเสียหายอย่างต่อเนื่อง มีเวลา Cooldown 18 วินาที ระหว่างนั้นจะโจมตีธรรมดาแบบเดิม






















สาย Cataclysm

ส่วนมากเป็นการเพิ่มด้านธาตุต่างๆ และการโจมตีเพิ่มเติม

Flicker (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มโอกาสทำให้ธาตุต่างๆ ติดสถานะ 6/12/18/27/30% (นำไปคูณเพิ่มจากที่ตัวอาวุะ เช่น 10% +30% = 13%)

Foresight (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มความจุกระสุนในแม๊กกาซีน 4/8/12/16/20% และความเร็วในการรีโหลด 5/10/15/20/25% ให้กับปืนทุกชนิด

Immolate (Tier 2) : Max Level 5
ในระหว่างที่อยู่ในสถานะ Fight for Your Life ปืนที่ยิงออกไปจะทำความเสียหายเพิ่มเติม 10/20/30/40/50% เป็นธาตุไฟ

Helios (Tier 2) : Max Level 5
เมื่อทำการ Phaselock ศัตรูจะทำให้เกิดการระเบิดขึ้น ความเสียหายจะเพิ่มตามเลเวลของสกิล

Chain Reaction (Tier 3) : Max Level 5

ระหว่างที่กำลัง Phaselock ศัตรู กระสุนจะมีโอกาส 8/16/24/32/40% ที่จะชิ่งไปทำความเสียหายกับศัตรูตัวอื่นๆด้วย

Cloud Kill (Tier 3) : Max Level 1
การฆ่าศัตรูจะทำให้เกิดหมอกพิษขึ้น ณ จุดที่ศัตรูตาย 5 วินาที ทำความเสียหายธาตุ Corrosive อย่างต่อเนื่อง ต้องรอหมอกเดิมหมดเวลาก่อนจึงจะเกิดหมอกใหม่ได้

Backdraft (Tier 3) : Max Level 5
การโจมตีระยะประชิดจะมีความเสียหายไฟเพิ่มเติม เมื่อเกราะแตกจะทำการระเบิดไฟออกมารอบตัว ความเสียหายจะเพิ่มตามเลเวลของสกิล

Reaper (Tier 4) : Max Level 5
เพิ่มพลังโจมตีของปืน 8/16/24/32/40% เมื่อโจมตีศัตรูที่มีพลังชีวิตมากกว่าครึ่งหนึ่ง

Blight Phoenix (Tier 5) : Max Level 5
KILL SKILL – เมื่อฆ่าศัตรูได้จะทำให้เกิดออร่ารอบตัว สร้างความเสียหายธาตุ Fire และ Corrosive กับศัตรูรอบๆชั่วขณะ ความเสียหายจะเพิ่มตามเลเวลของ Maya และสกิล

Ruin (Capstone) : Max Level 1

Phaselock จะทำความเสียหาย Slag, Corrosive, Shock เพิ่มเติม
Salvador Skill เตี้ยโหดปืนลั่น
Originally posted by https://myplaypost.com/borderland-2-salvador-skill/:



















Salvador หรือ Gunzerker เป็นตัวละครที่เหมาะกับปืนที่ใช้ในระยะกลางเช่น ลูกซอง ปืนกล ปืนพกเสียมากกว่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้ปืนอย่าง Sniper Rifle ไม่ได้เลยซะทีเดียว เพียงแค่ระหว่างใช้ Gunzerk นั้น เขาจะเล็งปืนไม่ได้เฉยๆ ทำให้การโจมตีระยะไกลๆ นั้นค่อนข้างลำบากเลยทีเดียว








Salvador’s Action Skill : Gunzerk

เมื่อทำการใช้งาน Salvador จะหยิบปืนอีกกระบอกหนึ่งขึ้นมาคู่กัน โดยการคลิ๊กซ้ายจะยิงปืนข้างซ้าย และคลิ๊กขวาจะยิงปืนข้างขวา ระหว่างที่เกิดผลจะมีผลเพิ่มเติมดังนี้
– ฟื้นเลือดเต็มทันทีเมื่อเริ่มใช้งาน Gunzerk พร้อมกับเติมกระสุนในแม๊กกาซีนจนเต็มให้กับปืนที่เริ่มต้นใช้งานทันที
– ได้รับความเสียหายน้อยลง 33% ระหว่างที่มีผลอยู่
– กระสุนปืนทุกชนิดจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทีละนิด ยกเว้นจรวดและระเบิด
ระยะเวลาพื้นฐาน : 20 วินาที
Cooldown พื้นฐาน : 42 วินาที






















สาย Gunlust
สกิลสายนี้นั้นจะเป็นสายที่เน้นการเพิ่มพลังในการยิงปืนต่างๆ โดยรวมของเขาให้รุนแรงขึ้น

Locked and Loaded (Tier 1) : Max Level 5
เมื่อทำการรีโหลดจะเพิ่มความเร็วในการยิง 5/10/15/20/25%

Quick Draw (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มความเร็วในการสลับปืน 7/14/21/28/35% และความแรงของคริติคอล 2/4/6/8/10%

I’m Your Huckerberry (Tier 2) : Max Level 5
ปืกพกจะรีโหลดเร็วขึ้นและทำความเสียหายได้มากขึ้น 3/6/9/12/15%

All I Need is One (Tier 2) : Max Level 5
เมื่อทำการสลับปืน จะเพิ่มความเสียหายของการยิงนัดต่อไปให้แรงขึ้น 8/16/24/32/40%

Divergent Likeness (Tier 3) : Max Level 5
เมื่อเปิดใช้ Gunzerk จะเพิ่มความเสียหาย 6/12/18/24/30% เมื่อใช้ปืนชนิดเดียวกัน หรือเพิ่มความแม่น 6/12/18/24/30% เมื่อใช้ปืนต่างชนิดกัน

Auto-Loader (Tier 3) : Max Level 1
เมื่อฆ่าศัตรูได้จะทำการรีโหลดปืนทั้งหมดที่ไม่ได้ถืออยู่ในขณะนั้น และการสลับปืนหลังสกิลนี้ทำงานจะทำให้สกิล Locked and Loaded ทำงานเช่นกัน

Money Shot (Tier 3) : Max Level 5
กระสุนนัดสุดท้ายที่ยิงไปจะแรงขึ้น 8/16/24/32/40% ขึ้นกับจำนวนกระสุนทั้งหมดในแม๊กกาซีน แรงได้สูงสุด 80/160/240/320/400%

Lay Waste (Tier 4) : Max Level 5

KILL SKILL – เมื่อฆ่าศัตรูได้จะทำให้ยิงเร็วขึ้น 8/12/24/32/40% และความแรงคริติคอลเพิ่มขึ้น 5/10/15/20/25%

Down Not Out (Tier 4) : Max Level 1
สามารถใช้ Gunzerk ได้ระหว่างอยู่ในสถานะ Fight for Your Life

Keep it Peeing Hot (Tier 5) : Max Level 5
ระหว่างที่ Gunzerk ติด Cooldown จะได้รับพลังโจมตีของปืนและระเบิดเพิ่มขึ้น 5/10/15/20/25% และพลังโจมตีประชิด 6/12/18/24/30%

No Kill Like Overkill (Capstone) : Max Level 1
เมื่อฆ่าศัตรูได้ ความเสียหายที่เกินจากเลือดของศัตรูจะถูกทบไปเมื่อทำการโจมตีศัตรูตัวถัดไป (เช่นศัตรูมีเลือด 50000 เรายิงไป 95000 เมื่อเรายิงศัตรูตัวต่อไปเราจะทำความเสียหายเพิ่มอีก 45000 หน่วย)






















สาย Rampage
เป็นสายที่เน้นการใช้ Gunzerk เป็นหลัก ตัวสกิลจะสนับสนุนในด้านนี้เต็มที่ รวมถึงลูกเล่นในการยิงปืนต่างๆ

Inconcevable (Tier 1) : Max Level 5
มีโอกาสสูงสุด 10/20/30/40/50% ที่จะไม่เสียกระสุนเมื่อยิงออกไป ขึ้นกับปริมาณโล่และเลือดที่เหลืออยู่ขณะนั้น ยิ่งน้อยจะยิ่งได้ผลมาก

Filled to The Brim (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มปริมาณกระสุนในแม๊กกาซีน 5/10/15/20/25% และจำนวนกระสุนทั้งหมดที่แบกได้ 3/6/9/12/15% ให้กับปืนทุกชนิด

All in The Reflexes (Tier 2) : Max Level 5
เพิ่มความเร็วในการรีโหลด 5/10/15/20/25% และพลังโจมตีประชิด 4/8/12/16/20%

Last Longer (Tier 2) : Max Level 5
เพิ่มระยะเวลา Gunzerk 3/6/9/12/15 วินาที

I’m Ready Already (Tier 3) : Max Level 5
ลดระยะเวลา Cooldown ของ Gunzerk ลง 5/10/15/20/25%

Steady as She Goes (Tier 3) : Max Level 1
ลดการดีดของปืน 80% และมีโอกาส 30% ที่จะยิงแม่นขึ้นระหว่าง Gunzerk

5 Shots or 6 (Tier 3) : Max Level 5
มีโอกาส 5/10/15/20/25% ที่เมื่อยิงแล้วจะได้กระสุนเพิ่มแทนที่จะเสียกระสุน

Yippie Ki Yay (Tier 4) : Max Level 5

เพิ่มระยะเวลา Gunzerk อีก 0.6/1.2/1.8/2.4/3.0 วินาทีเมื่อฆ่าศัตรูได้ในระหว่างนั้น

Double Your Fun (Tier 4) : Max Level 1
ระหว่าง Gunzerk หากทำการปาระเบิด จะปาไปสองลูกแทนโดยเสียระเบิดแค่ลูกเดียว

Get Some (Tier 5) : Max Level 1
เมื่อทำการยิงศัตรู จะลดเวลา Cooldown ของ Gunzerk ได้อีก 0.6/1.2/1.8/2.4/3.0 วินาที มีระยะเวลา Cooldown ของสกิลนี้ 3 วินาที

Keep Firing (Capstone) : Max Level 1
ระหว่าง Gunzerk จะสามารถเพิ่มความเร็วในการยิงได้สูงสุด 88% และความเร็วรีโหลดอีก 25% ขึ้นกับว่ากดยิงค้างไว้นานแค่ไหน






















สาย Brawn
เป็นสายที่เน้นความถึกให้กับผู้เล่น ทำให้สามารถบู๊ได้นานขึ้น และทำให้ยิงแรงขึ้นตามสถานการณ์ต่างๆ

Hard to Kill (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มพลังชีวิตสูงสุด 4/8/12/16/20% และจะฟื้นเลือดตัวเอง 0.1/0.2/0.3/0.4/0.5% ทุกๆ วินาที

Incite (Tier 1) : Max Level 5
เมื่อได้รับความเสียหาย จะเพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ 6/12/18/24/30% และความเร็วการรีโหลด 5/10/15/20/25% ชั่วขณะ

Asbesto (Tier 2) : Max Level 5
ได้รับความเสียหายจากธาตุที่ติดตัวอยู่เบาลง 8/16/24/32/40%

I’m the Juggernaut (Tier 2) : Max Level 5
KILL SKILL – เมื่อฆ่าศัตรูได้ จะได้รับความเสียหายเบาลง 4/8/12/16/20% ชั่วคราว

Ain’t Got Time to Bleed (Tier 3) : Max Level 5
ระหว่าง Gunzerk จะฟื้นฟูพลังชีวิตตัวเองได้สูงสุด 0.8/1.6/2.4/3.2/4.0% ขึ้นกับว่าเลือดเหลือน้อยเท่าไหร่

Fistful of Hurt (Tier 3) : Max Level 1
เปลี่ยนการโจมตีระยะประชิดให้กลายเป็นหมัดที่รุนแรงมากและทำให้ศัตรูปลิวออกไป มี Cooldown 15 วินาที ระหว่างนั้นจะโจมตีธรรมดา

All Out of Bubblegum (Tier 3) : Max Level 5

เพิ่มความเร็วในการยิง 7/14/21/28/35% เมื่อเกราะแตกอยู่

Bus That Can’t Slow Down (Tier 4) : Max Level 5

เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ 10/20/30/40/50% ระหว่าง Gunzerk

Just Got Real (Tier 4) : Max Level 5

เพิ่มพลังโจมตีของปืนสูงสุด 8/16/24/32/40% ขึ้นกับว่าเลือดเหลือน้อยเท่าไหร่

Sexual Tyrannosaurus (Tier 5) : Max Level 5
เมื่อได้รับความเสียหายจะฟื้นฟูพลังชีวิต 0.4/0.8/1.2/1.6/2.0% เป็นเวลา 5 วินาที (ไม่ซ้อนทับเมื่อโดนโจมตีซ้ำ)

Come At Me, Bro (Capstone) : Max Level 1
ระหว่าง Gunzerk หากกดปุ่ม Action อีกครั้งจะทำการยั่วยุศัตรูให้โจมตีและเติมเลือดตัวเองจนเต็มในเวลาเดียวกัน พร้อมกับได้รับบัฟลดความเสียหายที่จะได้รับเป็นอย่างมากชั่วคราว
Zer0 Skill : N0w y0u see me, s00n y0n w0n’t
Originally posted by https://myplaypost.com/borderlands-2-zer0-skill/:


























Zer0 the Number หรือที่รู้จักกันจริงๆ ในฐานะ Assassin ผู้มาพร้อมกับคำพูดแบบกลอนไฮกุ(กลอนญี่ปุ่น)ตลอดเวลา ตัวเขาจะเน้นไปในด้านความบางแต่รุนแรง อาศัยการใช้ Decepti0n หายตัวเอาตัวรอดหรือพลิกให้ได้เปรียบ ซึ่งถึงแม้ตัวเขาจะบางแต่บอกได้เลยว่า Skill ของเขานั้นแรงได้ใจ








Zer0 the Number หรือที่รู้จักกันจริงๆ ในฐานะ Assassin ผู้มาพร้อมกับคำพูดแบบกลอนไฮกุ(กลอนญี่ปุ่น)ตลอดเวลา ตัวเขาจะเน้นไปในด้านความบางแต่รุนแรง อาศัยการใช้ Decepti0n หายตัวเอาตัวรอดหรือพลิกให้ได้เปรียบ ซึ่งถึงแม้ตัวเขาจะบางแต่บอกได้เลยว่า Skill ของเขานั้นแรงได้ใจ






















สาย Sniping
สายนี้จะเน้นไปในด้านการใช้ปืน Sniper และการเพิ่มค่าความเสียหายเวลาติดคริติคอลเป็นหลัก

Headsh0t (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มค่าความเสียหายคริติคอล 4/8/12/16/20%

0ptic (Tier 1) : Max Level 5

เพิ่มระยะที่ทำการซูมผ่านกล้อง 3/6/9/12/15% และลดการส่ายเมื่อถูกยิงตอนเล็ง 12/24/36/48/60%

Killer (Tier 2) : Max Level 5

KILL SKILL – เมื่อฆ่าศัตรูจะเพิ่มความเสียหายคริติคอล 10/20/30/40/50% และความเร็วการรีโหลดอีก 15/30/45/60/75%

Precisi0n (Tier 2) : Max Level 5
เพิ่มค่าความแม่นยำ 5/10/15/20/25%

0ne Sh0t 0ne Kill (Tier 3) : Max Level 5
กระสุนนัดแรกในแม๊กกาซีนจะทำความเสียหายเพิ่ม 12/24/36/48/60%

B0re (Tier 3) : Max Level 1
ระหว่างใช้ Decepti0n จะแสดงจุดคริติคอลของศัตรูให้เห็น กระสุนที่ไม่ใช่จรวดจะสามารถทะลุผ่านศัตรูได้ เมื่อทะลุในแต่ละครั้งจะทำควาเสียหายเพิ่มขึ้น 100%

Vel0city (Tier 3) : Max Level 5
เพิ่มความเร็วของกระสุน 20/40/60/80/100% และเพิ่มความเสียหายคริติคอล 3/6/9/12/15% พร้อมกับความเสียหายของปืน 2/4/6/8/10%

Kill C0nfirm (Tier 4) : Max Level 5
เพิ่มความเสียหายคริติคอลสูงสุด 8/16/24/32/40% ตามระยะเวลาที่เล็งผ่านกล้อง

As 0ne With a Gun (Tier 5) : Max Level 5
เพิ่มความแม่นเมื่อยิงโดยไม่เล็ง 25/50/75/100/125% ความเร็วการรีโหลด 10/20/30/40/50% และจำนวนกระสุนในแม๊กกาซีนของปืนชนิด Sniper Rifle 1/2/3/4/5 นัด

Critical Ascensi0n (Capstone) : Max Level 1
เมื่อโจมตีติดคริติคอลจะได้รับแต้มสะสม แต่ละแต้มจะทำให้ได้รับค่าความเสียหายคริติคอล 6% และความเสียหายของปืน Sniper Rifle 5% แต้มนี้สะสมได้สูงสุด 999 แต้มและจะค่อยๆ ลดลงหากไม่ได้ทำการโจมตีติดคริติคอล






















สาย Cunning

เป็นสกิลสายที่เพิ่มลูกเล่นให้กับตัว Zer0 ทั้งการยิงและการฟันระยะใกล้

Fast Hand (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มความเร็วการรีโหลด 5/10/15/20/25% และความเร็วในการเปลี่ยนอาวุธ 10/20/30/40/50%

C0unter Strike (Tier 1) : Max Level 5
หลังจากถูกโจมตี มีโอกาสที่การโจมตีประชิดครัง้ต่อไปจะโจมตีแรงขึ้น 50/100/150/200/250%

Fearless (Tier 2) : Max Level 5
เพิ่มความเร็วในการยิง 5/10/15/20/25% และความเสียหายของปืน 3/6/9/12/15% ในระหว่างที่เกราะแตก

Ambush (Tier 2) : Max Level 5
เพิ่มความเสียหายที่ทำได้ 4/8/12/16/20% เมื่อโจมตีศัตรูจากด้านหลังหรือโจมตีศัตรูที่ไม่ได้เล็ง Zer0 อยู่

Rising Sh0t (Tier 3) : Max Level 5
ทุกครั้งที่โจมตีโดนเป้าหมาย จะได้รับพลังโจมตีปืน 2/4/6/8/10% และพลังโจมตีระยะประชิด 1.8/3.6/5.4/7.2/9% สามารถซ้อนทับได้ 5 ครั้ง แต้มนี้จะค่อยๆ ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป โดยแต้มที่ได้จากปืนที่ยิงช้าจะทำให้แต้มลดช้าลงตามกัน

Death Mark (Tier 3) : Max Level 5

เมื่อโจมตีประชิดโดนเป้าหมาย จะทำเครื่องหมายไว้ที่เป้าหมาย 8 วินาที เป้าหมายนั้นจะได้รับความเสียหายทุกชนิดเพิ่มขึ้น 20%

Unf0rseen (Tier 3) : Max Level 5

เมื่อร่างจำลองหมดเวลา จะระเบิดสร้างความเสียหายธาตุ Shock ความเสียหายที่ทำได้ขึ้นกับเลเวลของสกิล

Innervate (Tier 4) : Max Level 5

ระหว่างใช้ Decepti0n จะได้รับพลังโจมตีปืน 2/4/6/8/10% ความเร็วการเคลื่อนที่ 7/14/21/28/35% และฟื้นฟูพลังชีวิต 0.8/1.6/2.4/3.2/4.0 ต่อวินาที

Twin Fang (Tier 5) : Max Level 5
ในแต่ละครั้งที่ทำการยิง จะมีโอกาส 6/12/18/24/30% ที่จะยิงออกมาสองนัด

Death Bl0ss0m (Capstone) : Max Level 1
ระหว่างใช้ Decepti0n เมื่อกดใช้ Action Skill ซ้ำอีกครั้งจะปามีดสั้นออกไป มีผลสุ่มติดธาตุต่างๆและไม่ทำให้ Decepti0n ถูกยกเลิก รวมถึงสามารถทำให้ติด Death Mark ได้ด้วย สามารถปาได้ 5 ครั้งต่อ Decepti0n แต่ละครั้ง






















สาย Bl00dshed
สำหรับสายโจมตีประชิด สกิลด้านนี้จะอัดความสามารถกันเต็มๆ ไปเลย

Killing Bl0w (Tier 1) : Max Level 5

เพิ่มพลังโจมตีประชิด 100/200/300/400/500% เมื่อโจมตีศัตรูที่ใกล้ตาย (เดินกระเผลก)

Ir0n Hand (Tier 1) : Max Level 5

เพิ่มพลังโจมตีประชิดและพลังชีวิต 3/6/9/12/15%

Grim (Tier 2) : Max Level 5
KILL SKILL – เมื่อฆ่าศัตรูได้จะทำการฟื้นฟูเกราะ 0.7/1.4/2.1/2.8/3.5% และลดระยะเวลา Cooldown ของ Decepti0n ลง 1.5/3.0/4.5/6.0/7.5% ชั่วขณะ

Be Like Water (Tier 2) : Max Level 5
การโจมตีด้วยปืนจะเพิ่มพลังโจมตีประชิดครั้งต่อไป 6/12/18/24/30% และการโจมตีประชิดจะเพิ่มพลังโจมตีปืนนัดต่อไป 4/8/12/16/20%

F0ll0wthr0ugh (Tier 3) : Max Level 5
KILL SKILL – เมื่อฆ่าศัตรูได้จะเพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ 8/16/24/32/40% พลังโจมตีของปืน 6/12/18/24/30% และพลังโจมตีประชิด 8/16/24/32/40% ชั่วคราว

Execute (Tier 3) : Max Level 1

เปลี่ยนรูปแบบการโจมตีประชิด ในขณะที่ใช้ Decepti0n อยู่และเป้าหมายอยู่ในกลางเป้าเล็ง (Crosshair) การโจมตีประชิดเป็นการพุ่งเข้าไปฟันแบบพิเศษ มีระยะพุ่ง 3 เมตร

Backstab (Tier 3) : Max Level 5
เพิ่มพลังโจมตีประชิด 8/16/24/32/40% และหากโจมตีจากด้านหลังจะเพิ่มพลังโจมตีเป็นอย่างมาก

Resurgence (Tier 4) : Max Level 5

เมื่อกำจัดศัตรูด้วยการโจมตีประชิดได้ จะฟื้นฟูพลังชีวิต 4/8/12/16/20% ขึ้นกับว่าเหลือพลังชีวิตน้อยแค่ไหน

Like The Wind (Tier 5) : Max Level 5
เพิ่มพลังโจมตีปืนและพลังโจมตีประชิด 3/6/9/12/15% เมื่อเคลื่อนที่อยู่

Many Must Fall (Capstone) : Max Level 1
การกำจัดศัตรูได้ด้วยการโจมตีประชิดในขณะใช้ Decepti0n จะสร้างร่างปลอมเพิ่มอีกร่างหนึ่งและยืดระยะเวลา Decepti0n ออกไปใหม่แทนที่จะหมดเวลาทันที
Gaige Skill หนึ่งสาวกับอีกหนึ่งหุ่น วุ่นบรรลัย
Originally posted by https://myplaypost.com/borderlands-2-gaige-skill/:
























หนึ่งในตัวละคร DLC กับ Gaige the Mechromancer ที่มาพร้อมกับหุ่นยนต์เพื่อนรักข่วนตับแตก Deathtrap ตัวเธอนั้นเด่นด้านการยิงกราดมั่วที่ชิ่งใส่ศัตรูได้ และการใช้หุ่นของเธอในการล่อเป้าหรือช่วยโจมตีศัตรูได้เป็นอย่างดี






Gaige’s Action Skill : Deathtrap
เรียกหุ่นยนต์ Deathtrap ขึ้นมาช่วยเธอทำการต่อสู้ Deathtrap จะโจมตีด้วยการข่วนทุกๆ 1.5 วินาที หรือถ้าศัตรูอยู่ไกลเกินไป จะทำการยิงกระสุนไฟฟ้าใส่แทน
ระยะเวลาพื้นฐาน : 60 วินาที
Cooldown พื้นฐาน : 60 วินาที























สาย Best Friends Forever
สำหรับชมรมคนรักหุ่น สายนี้พลาดไม่ได้ เป็นสกิลสายที่เน้นใช้งานร่วมกับ Deathtrap เป็นอย่างดี

Close Enough (Tier 1) : Max Level 5
กระสุนที่ยิงไม่โดนศัตรูจะมีโอกาส 10/20/30/40/50% ที่จะชิ่งไปหาศัตรูที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อทำความเสียหาย 50% แทน

Cooking Up Trouble (Tier 1) : Max Level 5
เมื่อกระสุนในแม๊กกาซีนเต็มจะฟื้นฟูพลังชีวิต 0.4/0.8/1.2/1.6/2.0% ต่อวินาที

Fancy Mathematics (Tier 2) : Max Level 5
เพิ่มอัตราการฟื้นฟูของเกราะสูงสุด 14/28/42/56/70% และลดเวลารอเกราะฟื้นตัวสูงสุด 12/24/36/48/60% ขึ้นกับเลือดของ Gaige ยิ่งน้อยจะยิ่งแสดงผลมาก

Buck Up (Tier 2) : Max Level 1
Deathtrap – มีโอกาสที่จะฟื้นฟูเกราะให้ใครก็ได้ในทีม 30%

The Better Half (Tier 2) : Max Level 5
เมื่อกระสุนในแม๊กกาซีนเหลือต่กว่าครึ่งหนึ่งจะเพิ่มความเร็วในการยิง 12/24/36/48/60%

Potent as a Pony (Tier 3) : Max Level 5
เพิ่มพลังชีวิตสูงสุด 4/8/12/16/20% และเพิ่มพลังชีวิตสูงสุดของ Deathtrap 2/4/6/8/10%

Upshot Robot (Tier 3) : Max Level 1

ในระหว่างที่ Deathtrap ยังทำงานอยู่ เมื่อ Gaige หรือ Deathtrap ฆ่าศัตรูได้ จะเพิ่มระยะเวลาของ Deathtrap ให้อีก 5 วินาทีพร้อมกับเพิ่มพลังโจมตีประชิดของทั้งคู่ 4% ต่อการฆ่าได้ 1 ครั้ง โบนัสพลังโจมตีจะรีเซ็ทเมื่อ Deathtrap หมดเวลาหรือถูกทำลาย

Unstoppable Force (Tier 3) : Max Level 5
เมื่อฆ่าศัตรูได้จะได้รับความเร็วการเคลื่อนที่ 7/14/21/28/35% และฟื้นฟูเกราะ 0.8/1.6/2.4/3.2/4.0% ต่อวินาทีชั่วคราว

Explosive Clap (Tier 4) : Max Level 1
Deathtrap – บางครั้ง Deathtrap จะตบมือและทำให้เกิดระเบิดขึ้นที่ด้านหน้าของเขา สร้างความเสียหาย Explosive

Made of Sterner Stuff (Tier 4) : Max Level 5

Gaige และ Deathtrap จะได้รับความเสียหายเบาลง 1/2/3/4/5% และเพิ่มพลังโจมตีประชิดของ Deathtrap 3/6/9/12/15%

20% Cooler (Tier 5) : Max Level 5

ลดระยะเวลา Cooldown ลง 6/12/18/24/30%

Sharing is Caring (Capstone) : Max Level 1

Deathtrap จะได้โล่ชนิดเดียวกับที่ Gaige ใช้ด้วย























สาย Little Big Trouble
สายที่เน้นด้วยการสร้างความเสียหาย และเพิ่มความเสียหายจากธาตุ Shock เป็นหลัก

More Pep (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มโอกาสทำให้เป้าหมายติดสถานะ Burn, Corrode, Slag 2/4/6/8/10% และ Electrocute 4/8/12/16/20% (ผลคูณเพิ่มจากตัวอาวุธ เช่น 10% + 20% = 12%)

Myelin (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มเกราะสูงสุด 3/6/9/12/15% และลดความเสียหายจากธาตุ Shock 6/12/18/24/30%

Shock Storm (Tier 2) : Max Level 5
เมื่อฆ่าศัตรูได้ด้วย Critical hit จะทำให้เกิด Shock Storm และทำความเสียหายกับศัตรูรอบๆ Deathtrap ที่ฆ่าศัตรูได้ก็จะทำให้เกิดผลนี้เช่นกัน ความเสียหายจะเพิ่มขึ้นตามเลเวลของสกิล

The Stare (Tier 2) : Max Level 1
Deathtrap – มีโอกาสที่ Deathtrap จะยิงเลเซอร์ไปตามฉาก สร้างความเสียหาย Fire และมีโอกาสทำให้เป้าหมายติดสถานะ Burn

Strength of Five Gorilla (Tier 2) : Max Level 5

เพิ่มพลังโจมตีประชิดของ Gaige และ Deathtrap 3/6/9/12/15%

Electrical Burn (Tier 3) : Max Level 5
หากทำให้ศัตรูติด Electrocute ได้ ระหว่างนั้นจะมีโอกาส 4/8/12/16/20% ที่จะทำให้เกิดสถานะ Burn ซ้ำที่ศัตรูอัตโนมัติได้ ความเสียหาย Burn นี้จะเท่ากับความเสียหาย Electrocute

Shock and “AAAGGGGHHH!” (Tier 3) : Max Level 1
การรีโหลดกระสุนจะทำให้เกิดระเบิดธาตุ Shock ขึ้นที่ตัวของ Gaige สร้างความเสียหายให้ศัตรูรอบๆ ได้

Evil enchantress (Tier 3) : Max Level 5
KILL SKILL – เมื่อฆ่าศัตรูได้จะทำให้ความเสียหายจากสถานะของธาตุต่างๆ แรงขึ้น 6/12/18/24/30% ชั่วขณะ

One Two Boom (Tier 4) : Max Level 1

Deathtrap – Deathtrap จะมีโอกาสยิงบอลพลังงานไปที่ศัตรู บอลนี้จะเคลื่อนที่ช้าและหากยิงใส่บอลนี้ จะระเบิดออกสร้างความเสียหายธาตุ Shock อย่างรุนแรงใส่ศัตรูรอบๆ บอลนี้

Wires Don’t Talk (Tier 4) : Max Level 5
เพิ่มความเสียหายธาตุ Shock และสถานะ Electrocute 3/6/9/12/15%

Interspersped Outburst (Tier 5) : Max Level 5
เมื่อหยุดยิงซักครู่หนึ่งจะได้รับแต้ม Interspersped Outburst สะสมได้สูงสุด 5 แต้ม เมื่อทำการยิงจะเสียแต้มนี้ทั้งหมดและสร้างความเสียหาย Slag เพิ่มเติม แต้มที่เยอะขึ้นจะมีโอกาสทำให้ติด Slag มากขึ้น ความเสียหายจะเพิ่มขึ้นตามเลเวลสกิล

Make it Sparkle (Capstone) : Max Level 1
เมื่อ Gaige ยิงใส่ Deathtrap ด้วยธาตุอะไรก็ตาม จะทำให้ Deathtrap ทำความเสียหายด้วยธาตุนั้นๆ เพิ่มเติมเมื่อทำการโจมตี























สาย Ordered Chaos
ความโกลาหลเป็นคติของสายนี้ ปืนที่ส่ายจนคุมไม่ได้แต่ยังยิงโดนได้และแรงด้วย!

Smaller, Lighter, Faster (Tier 1) : Max Level 4
เพิ่มความเร็วการรีโหลด 6/12/18/24% แต่ลดความจุของแม๊กกาซีนลง 1/2/3/4% ด้วย

Anarchy (Tier 1) : Max Level 1
เมื่อฆ่าศัตรูได้หรือยิงจนกระสุนหมดแม๊กกาซีนระหว่างที่ทำการต่อสู้ จะได้รับแต้ม Anarchy 1 แต้ม สะสมได้สูงสุด 150 แต้ม ทุกๆแต้มจะเพิ่มพลังโจมตีของปืน 1.75% และลดควาแม่นลง 1.75% เช่นกัน การรีโหลดปืนในขณะที่ยังมีกระสุนในแม๊กกาซีนจะลบแต้มนี้ทั้งหมด แต้มนี้จะลดลงอย่างรวดเร็วในสถานะ Fight for Your Life

Preshrunk Cyberpunk (Tier 2) : Max Level 5
เพิ่มจำนวนแต้ม Anarchy ที่สะสมได้สูงสุดอีก 50/100/150/200/250 แต้ม

Robot Rampage (Tier 2) : Max Level 1
Deathtrap – โจมตีด้วยการข่วนอย่างรวดเร็วหลายครั้ง

Blood Socked Shield (Tier 2) : Max Level 5
เมื่อฆ่าศัตรูได้จะทำการฟื้นเกราะ 20/40/60/80/100% แต่จะเสียพลังชีวิต 1/2/3/4/5% ของที่เหลืออยู่ขณะนั้นเช่นกัน (ไม่สามารถตายได้จากการลดเลือดของท่านี้)

Annoyed Android (Tier 3) : Max Level 5
เพิ่มความเร็วของ Deathtrap 7/14/21/28/35%

Discord (Tier 3) : Max Level 1
การรีโหลดโดยที่ยังมีกระสุนเหลืออยู่ในแม๊กกาซีนจะไม่ลบแต้ม Anarchy ทั้งหมดแล้ว Gaige จะได้รับบัฟ Discord แทน ซึ่งจะเพิ่มความแม่น 65% ความเร็วในการยิง 25% และฟื้นพลังชีวิต 3% ต่อวินาที ในระหว่างที่มีบัฟนี้แต้ม Anarchy จะลดลงอย่างรวดเร็ว สามารถยกเลิกผลของบัฟได้ด้วยการรีโหลดโดยที่ยังมีกระสุนในแม๊กกาซีนอีกครั้ง

Typecast Iconoclast (Tier 3) : Max Level 5
เมื่อได้รับแต้ม Anarchy จะมีโอกาส 6/12/18/24/30% ที่จะได้เพิ่มอีกแต้มหนึ่ง

Rational Anarchist (Tier 4) : Max Level 1
หากไม่มีแต้ม Anarchy เลย การได้แต้มครั้งต่อไปจะได้ที 25 แต้มแทน

Death from Above (Tier 4) : Max Level 5
การยิงศัตรูระหว่างที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศจะใช้แต้ม Anarchy 1/2/3/4/5 แต้มเพื่อทำให้เกิดการระเบิดขึ้นที่จุดที่ยิงไป ความเสียหายเพิ่มขึ้นตามเลเวลสกิล

The Nth Degree (Tier 5) : Max Level 5
ทุกๆ กระสุนนัดที่ 9/8/7/6/5 ที่ยิงโดนศัตรู กระสุนนัดนั้นจะชิ่งไปทำความเสียหายให้กับศัตรูตัวอื่นด้วย

With Claws (Capstone) : Max Level 1
เปลี่ยนแปลงรูปแบบโจมตีประชิด ในขณะที่มีแต้ม Anarchy เมื่อทำการโจมตีจะเสียแต้มนี้แต้มหนึ่งเพื่อโจมตีด้วยการข่วนสองครั้ง สร้างความเสียหายเพิ่มเติม 0.6% ต่อแต้มและฟื้นฟูพลังชีวิต ยิ่งเลือดเหลือน้อยเท่าไหร่จะยิ่งฟื้นฟูได้เยอะเท่านั้น
Krieg Skill – RED RUUUMMMMMM!
Originally posted by https://myplaypost.com/borderlands-2-krieg-skill/:





























Psycho หรือเจ้าศัตรูจิตหลอนที่เราเจอกันในเกมเป็นหลัก แต่ใน DLC ของ Borderlands 2 ตัวนี้จะทำให้เราสามารถเล่นเป็น Krieg the Psycho ผู้ที่แม้จิตจะหลอน แต่วิญญาณยังเป็นคนธรรมดาตามปกติ เขามาพร้อมกับสกิลที่บ้าคลั่ง ฟัน ฟัน ฟัน และทุบตัวเองให้บ้าคลั่งเข้าไปอีก สายประชิดรับรองไม่มีผิดหวัง







Krieg’s Action Skill : Buzz Axe Rampage
เมื่อใช้งานจะทำการเก็บอาวุธปืนและหยิบ Buzz Axe ขึ้นมาใช้แทน ทำให้โจมตีประชิดได้เป็นหลักและสามารถกดโจมตีค้างเพื่อง้างขวานปาออกไปได้ ระหว่างที่มีผล Buzz Axe Rampage นั้นเขาจะได้รับ
– พลังโจมตีประชิดเพิ่มขึ้น 500% (นับเฉพาะพลังโจมตีของ Krieg ผลจาก Maylay Shield จะไม่ถูกคูณเพิ่มในส่วนนี้)
– เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่
– เมื่อฆ่าศัตรูได้ พลังชีวิตจะเต็มทันที
– โบนัสพิเศษต่างๆ ของปืนจะไม่ถูกนำมาคิดรวมระหว่างที่ใช้ Buzz Axe Rampage
เมื่อได้รับความเสียหายจะลด Cooldown ลง 1 วินาทีต่อทุกๆพลังชีวิตที่ลดลง 3.5% (มีผลแค่ 0.25 วินาทีหากได้รับความเสียหายที่เกราะ)
ระยะเวลาพื้นฐาน : 16 วินาที
Cooldown พื้นฐาน : 120 วินาที






















สาย Bloodlust
สกิลสายนี้จะเล่นกับแต้ม Bloodlust เป็นหลัก ซึ่งจะได้จากการที่ Krieg โจมตีโดนศัตรูใดๆ ก็ตาม แต้มนี้จะสะสมได้สูงสุด 100 แต้มและลดลงวินาทีละ 1 แต้มหลังจากผ่านไป 3 วินาทีโดยที่ไม่ได้โจมตีศัตรู

Blood-filled Guns (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มความจุแม๊กกาซีน 0.5/1.0/1.5/2.0/2.5% ต่อทุกๆ แต้ม Bloodlust

Blood Twitch (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มความไวการสลับปืน 0.3/0.6/0.9/1.2/1.5% ต่อทุกๆ แต้ม Bloodlust

Taste of Blood (Tier 2) : Max Level 5

ระหว่างใช้งาน Buzz Axe Rampage 0tลดความเสียหายที่ได้รับ 0.1/0.2/0.3/0.4/0.5% ต่อทุกๆ แต้ม Bloodlust และเมื่อฆ่าศัตรูได้จะได้แต้มทีละ 10/20/30/40/50 แต้มแทน

Bloody Revival (Tier 2) : Max Level 5
ในขณะที่อยู่ในสถานะ Fight for Your Life จะเพิ่มพลังโจมตีของ Assault Rifle 0.3/0.6/0.9/1.2/1.5% ต่อทุกๆ แต้ม Bloodlust

Blood Overdrive (Tier 2) : Max Level 5
KILL SKILL – เมื่อฆ่าศัตรูได้จะเพิ่มพลังโจมตีประชิด 0.5/1.0/1.5/2.0/2.5% และลดระยะเวลาก่อนระเบิดที่ปาไปจะระเบิด 0.00/0.01/0.01/0.02/0.02 วินาทีต่อทุกๆ แต้ม Bloodlust

Bloodbath (Tier 3) : Max Level 5
KILL SKILL – เมื่อฆ่าศัตรูด้วยระเบิดหรือธาตุ Explosive จะเพิ่มพลังโจมตีของปืน 0.5/1.0/1.5/2.0/2.5% ต่อทุกๆ แต้ม Bloodlust ชั่วขณะ ศัตรูที่ถูกฆ่าด้วยวิธีนี้จะมีโอกาส Drop ระเบิดเพิ่มอีก 15%

Buzz Axe Bombardier (Tier 3) : Max Level 1
Buzz Axe ที่ปาออกไปจะมีระเบิดธรรมดาติดอยู่ด้วย

Fuel the Blood (Tier 3) : Max Level 5
KILL SKILL – การฆ่าศัตรูด้วยการโจมตีประชิดจะเพิ่มพลังทำลายของระเบิด 0.5/1.0/1.5/2.0/2.5% ต่อทุกๆ แต้ม Bloodlust ชั่วขณะและได้รับแต้ม Bloodlust เพิ่ม 2/4/6/8/10 แต้ม

Blood Trance (Tier 4) : Max Level 5

เพิ่มระยะเวลาของ Buzz Axe Rampage 0.05/0.10/0.15/0.20/0.25 วินาที ต่อทุกๆ แต้ม Bloodlust (นับจากตอนที่เริ่มใช้ท่า)

Boiling Blood (Tier 4) : Max Level 5

ยืดเวลาก่อนที่แต้ม Bloodlust จะเริ่มลดลงไปอีก 0.5/1.0/1.5/2.0/2.5 วินาที

Nervous Blood (Tier 5) : Max Level 5
KILL SKILL – เมื่อฆ่าศัตรูได้จะเพิ่มความเร็วการรีโหลด 0.3/0.6/0.9/1.2/1.5% ต่อทุกๆ แต้ม Bloodlust ชั่วขณะ

Bloodsplosion (Capstone) : Max Level 1
การฆ่าศัตรูจะทำให้ศัตรูตัวนั้นระเบิดเป็นวงธาตุตามธาตุที่ใช้ในการฆ่า (หากไม่มีธาตุจะเป็นนับเป็น Explosive) ทุกๆแต้ม Bloodlust จะเพิ่มความเสียหายของวงระเบิดนี้อีก 5% และความเสียหายที่เกิดจากเลือดของศัตรูตอนที่ตายจะสะสมไปในวงระเบิดนี้เช่นกัน






















สาย Mania
ที่สุดของการโจมตีระยะประชิดจะอยู่ที่สายนี้ นอกจากนี้ยังสนับสนุนการทำให้เกราะคงสภาพแตกไว้ได้นานขึ้นเพื่อใช้กับ Maylay Shield ต่างๆ

Empty the Rage (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มพลังโจมตีประชิด 4/8/12/16/20% และเพิ่มอีก 10/20/30/40/50% ถ้าเกราะแตกหรือแม๊กกาซีนไม่มีกระสุนเหลืออยู่

Pull the Pin (Tier 1) : Max Level 1
เมื่อตายจะทำระเบิดตกที่ตัวลูกหนึ่ง หากระเบิดลูกนี้ฆ่าศัตรูได้จะได้รับ EXP สองเท่า

Feed the Meat (Tier 1) : Max Level 5

เพิ่มพลังชีวิต 10/20/30/40/50% และทำให้เกราะใช้เวลาฟื้นตัวนานขึ้น 0.5/1.0/1.5/2.0/2.5 วินาที

Embrace the Pain (Tier 2) : Max Level 5
เพิ่มความเร็วในการยิง 7/14/21/28/35% เมื่อเกราะแตก และทำให้เกราะใช้เวลาฟื้นตัวนานขึ้น 1/2/3/4/5 วินาที

Fuel the Rampage (Tier 2) : Max Level 5

ลดระยะเวลา Cooldown ของ Buzz Axr Rampage ลง 20/40/60/80/100% เมื่อได้รับความเสียหาย และลดลงอีกเท่าตัวหากได้รับความเสียหายที่ลดพลังชีวิต นอกจากนี้จะทำให้ถูกเพื่อนโจมตีได้ด้วย ได้รับความเสียหาย 50/45/40/35/30%

Thrill of the Kill (Tier 3) : Max Level 5
ความเสียหายที่ทำได้เกินจากเลือดของศัตรูที่เหลืออยู่จะฟื้นฟูพลังชีวิตให้ 50/6070/80/90% ขึ้นกับว่าเลือดเหลือน้อยเท่าไหร่ ยิ่งน้อยจะยิ่งได้ผลดีขึ้น

Light the Fuse (Tier 3) : Max Level 1
เปลี่ยนรูปแบบสถานะ Fight for Your Life เป็น Light the Fuse โดยจะเคลื่อนที่ได้เร็วตามปกติ แต่การโจมตีจะเปลี่ยนเป็นการปาระเบิดธรรมดาแทน เมื่อหมดเวลาระเบิดที่ผูกไว้ที่ตัวจะระเบิด หากฆ่าศัตรูได้จะได้ Second Wind และระหว่างที่อยู่ในสถานะ Light the Fuse หากถูกชุบขึ้นมา จะได้รับความเร็วการเคลื่อนที่เพิ่มตามระยะเวลาที่เหลือของ Light the Fuse

Strip the Flash (Tier 3) : Max Level 5

เพิ่มพลังโจมตีของธาตุ Explosive 3/6/9/12/15% และโบนัสนี้จะเพิ่มเป็นเท่าตัวหากอยู่ในสถานะ Fight for Your Life

Redeem the Soul (Tier 4) : Max Level 1

สามารถสละชีวิตตัวเองเพื่อชุบเพื่อในทันทีได้ สามารถใช้ได้ครั้งเดียวต่อระยะเวลา Buzz Axe Rampage กำลังติด Cooldown 1 ครั้ง และเพิ่มระยะเวลา Fight for Your Life อีก 50%

Salt the Wound (Tier 4) : Max Level 5

เมื่อได้รับความเสียหายขณะที่เกราะแตกจะได้รับแต้ม Salt the Wound ที่สะสมได้สูงสุด 20 แต้ม เพิ่มพลังโจมตีประชิด 1.5/3.0/4.5/6.0/7.5% และพลังโจมตีปืนลูกซอง 1/2/3/4/5% ต่อแต้ม

Silence the Voice (Tier 5) : Max Level 5
เพิ่มพลังโจมตีประชิด 50/100/150/200/250% และมีโอกาส 12% ที่จะโจมตีตัวเองแทน

Release the Beast (Capstone) : Max Level 1
เมื่อใช้งาน Buzz Axe Rampage ในขณะที่เลือดเหลือต่ำกว่า 33% จะทำให้กลายร่างเป็น Badass Psycho Mutant มีผลเพิ่มพลังโจมตีประชิด 100% และได้รับความเสียหายน้อยลง 50% พร้อมกับฟื้นพลังชีวิตจนเต็มและทำให้ Buzz Axe Rampage พร้อมใช้งานใหม่ทันที






















สาย Hellborn
สกิลด้านนี้จะเน้นการใช้ไฟเผาตัวเองให้เกิดผลพิเศษเพิ่มขึ้น

Burn, Baby, Burn (Tier 1) : Max Level 5
เพิ่มความเสียหายของสถานะ Burn 7/14/21/28/35% (โบนัสเพิ่มเป็นสองเท่าถ้าติด Burn อยู่) และมีโอกาส 7/14/21/28/35% ที่เมื่อโจมตีด้วยอาวุธไฟจะทำให้ตัวเองติดสถานะ Burn

Fuel the Fire (Tier 1) : Max Level 5
KILL SKILL – เมื่อฆ่าศัตรูได้มีโอกาส 7/14/21/28/35% ที่เมื่อโจมตีด้วยอาวุธไฟจะทำให้ตัวเองติดสถานะ Burn และเพิ่มโอกาสทำให้เป้าหมายติดสถานะของธาตุต่างๆมากขึ้น 50/100/150/200/250% ชั่วขณะ (มีผลคูณเพิ่มจากอาวุธเช่น 10% + 200% = 30%)

Numbed Nerve (Tier 2) : Max Level 5
ระหว่างที่ติด Burn จะได้รับความเสียหายเบาลง 10/20/30/40/50%

Pain is Power (Tier 2) : Max Level 5
เพิ่มความเสียหายของปืนและการโจมตีประชิต 5/10/15/20/25% (โบนัสเพิ่มเป็นสองเท่าถ้าติด Burn อยู่) และลดความเสียหายคริติคอลลดไป 5/10/15/20/25%

Elemental Elation (Tier 3) : Max Level 5
เมื่อทำให้ศัตรูติดสถานะ Burn, Corrode, Electrocute จะได้รับแต้ม Elemental Elation เพิ่มความเร็วการยิงและความจุแม๊กกาซีน 1/2/3/4/5% ต่อแต้ม สะสมได้สูงสุด 20 แต้มและแต้มนี้จะไม่ลดลงหากติด Burn อยู่

Delusional Damage (Tier 3) : Max Level 1
เมื่อทำให้ศัตรูติดสถานะจากธาตุได้สำเร็จ จะมีโอกาสทำให้ตัวเองติด Burn โดยมีโอกาสสำเร็จจากสกิล Burn, Baby, Burn และ Fuel the Fire รวมกัน

Fire Fiend (Tier 3) : Max Level 5

การโจมตีประชิดมีโอกาสทำให้เป้าหมายติด Burn 10% เพิ่มความแม่น 10/20/30/40/50% และความเร็วการรีโหลด 7/14/21/28/35% ระหว่างที่ติด Burn

Flame Flare (Tier 4) : Max Level 5
เพิ่มระยะเวลาที่ตัวเองจะติด Burn อีก 20/40/60/80/100% และระหว่างที่ติด Burn จะมีโอกาส 15% ที่จะติด Burn ซ้ำอีกครั้ง

Hellfire Halitosis (Tier 4) : Max Level 1
เปลี่ยนรูปแบบการโจมตีประชิด เมื่อใช้งานจะพ่นไฟเป็นรูปพัดด้านหน้าตัวเอง มีระยะเวลา Cooldown 15 วินาที ระหว่างนั้นจะโ
ลักษณะของอาวุธปืนแต่ประเภท





4 Comments
katknippp Apr 6, 2021 @ 5:48am 
ขอบคุณค่า :csdsmile:
Re_RyU Apr 3, 2019 @ 10:35pm 
*0*
Elatano Jan 14, 2018 @ 2:37pm 
ใช่แล้ว ทำงานเยี่ยมและน่าสนใจ แต่มีอะไรน่าตื่นเต้นกว่านี้อีกที่จะเล่น :steamhappy:
H.JANJU Nov 18, 2017 @ 1:08pm 
ขอบคุณครับ ถึงเก่าแต่มันส์ เล่นอยู่เรื่อยๆ :steamhappy: